Hospitals are increasingly focused

Hospitals are increasingly focused on finding cost effective ways to ensure patient safety and enhance quality outcomes. Hospitalized patients are at increased risk for a variety of complications, one of the most common is the development of pressure ulcers. In 2008, the Center for Medicare and Medicaid services, the largest payer source for older adults in the US, began to withhold reimbursement to care facilities for pressure ulcers (Stage 3 or 4) that develop as a result of hospitalization. Staff nurses are ideally positioned to prevent the development of hospital acquired pressure ulcers (HAPUs); however, studies reveal several barriers including a knowledge deficit of causative factors, incorrect identification and staging of wounds, inaccurate use of risk assessment tools and an under utilization of evidence-supported prevention intervention strategies (Ilesanmi et al., 2012; Sievers et al., 2012). This paper examines a cost effective, innovate approach to address these barriers and reduce hospital acquired pressure ulcers using peer-to-peer learning/teaching with staff nurses.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขึ้นโรงพยาบาลจะเน้นการค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพต้นทุนความปลอดภัยผู้ป่วย และเพิ่มคุณภาพผล ผู้ป่วยพักเสี่ยงสำหรับภาวะแทรกซ้อน หนึ่งที่บ่อยที่สุดคือการพัฒนาความดันแผลในปาก ใน 2008 ศูนย์บริการเมดิแคร์และ Medicaid ต้นชำระที่ใหญ่ที่สุดในผู้ใหญ่มากกว่าในสหรัฐอเมริกา เริ่มหักชำระคืนการดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกความดันแผลในปาก (ระยะ 3 หรือ 4) ที่พัฒนาจากโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลห้องเพื่อป้องกันการพัฒนาของโรงพยาบาลที่ได้รับความดันแผลเปื่อย (HAPUs); อย่างไรก็ตาม การศึกษาเปิดเผยหลายอุปสรรครวมทั้งความรู้ขาดดุลปัจจัยสาเหตุการ รหัสไม่ถูกต้อง และจัดเตรียมของบาดแผล ไม่ใช้เครื่องมือประเมินความเสี่ยงและภายใต้ใช้กลยุทธ์สนับสนุนหลักฐานป้องกันการแทรกแซง (Ilesanmi et al., 2012 Sievers et al., 2012) กระดาษนี้ตรวจสอบความคุ้มค่า การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ วิธีการจัดการกับอุปสรรคเหล่านี้ และลดแผลเปื่อยดันมาโรงพยาบาลด้วยเพียร์เพื่อเพียร์เรียน/สอนพยาบาลพนักงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรงพยาบาลมีความสำคัญมากขึ้นในการหาค่าใช้จ่ายวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยของผู้ป่วยและเพิ่มผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ ผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับความหลากหลายของภาวะแทรกซ้อนหนึ่งที่พบมากที่สุดคือการพัฒนาของแผลกดทับ ในปี 2008 ศูนย์การ Medicare และ Medicaid บริการที่มาชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้สูงอายุในสหรัฐเริ่มที่จะระงับการชำระเงินคืนในการดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแผลกดทับ (ระยะที่ 3 หรือ 4) ที่พัฒนาเป็นผลจากการรักษาในโรงพยาบาล พยาบาลประจำการอยู่ในตำแหน่งที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้การพัฒนาของโรงพยาบาลที่ได้มาแผลกดทับ (ใช่หรือไม่); แต่การศึกษาแสดงให้เห็นอุปสรรคหลายอย่างรวมทั้งการขาดความรู้ของปัจจัยที่เป็นสาเหตุการระบุไม่ถูกต้องและการแสดงละครจากบาดแผลการใช้ไม่ถูกต้องของเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยงและการภายใต้การใช้ประโยชน์จากหลักฐานที่สนับสนุนกลยุทธ์การแทรกแซงการป้องกัน (Ilesanmi จ่ายและคณะ, 2012. Sievers และคณะ , 2012) กระดาษนี้จะตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพคิดค้นวิธีการที่จะแก้ไขอุปสรรคเหล่านี้และลดโรงพยาบาลที่ได้มาแผลกดทับโดยใช้การเรียนรู้แบบ peer-to-peer / การเรียนการสอนที่มีพยาบาลประจำการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรงพยาบาลมีมากขึ้นเน้นการหาต้นทุนวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้มั่นใจความปลอดภัยของผู้ป่วยและเพิ่มผลคุณภาพ ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับความหลากหลายของภาวะแทรกซ้อนที่พบมากที่สุดคือการพัฒนาของการเกิดแผลกดทับ . ใน 2008 , บริการศูนย์ Medicare และ Medicaid , ที่ใหญ่ที่สุด ผู้แหล่งที่มาสำหรับผู้สูงอายุในสหรัฐอเมริกาเริ่มระงับการเบิกจ่าย การดูแลเครื่องสำหรับแผลกดทับ ( ขั้นที่ 3 หรือ 4 ) ที่พัฒนาเป็นผลจากการรักษาในโรงพยาบาล พยาบาลประจำการ มีความนึกคิดที่วางเพื่อป้องกันการพัฒนาของโรงพยาบาลได้รับแผลกดทับ ( hapus ) ; อย่างไรก็ตาม , การศึกษาพบอุปสรรคหลายประการรวมทั้งความรู้การนำปัจจัยที่เป็นสาเหตุ รหัสไม่ถูกต้อง และจัดเตรียมของแผลต้องใช้เครื่องมือการประเมินความเสี่ยงและภายใต้การใช้หลักฐานสนับสนุนกลยุทธ์การแทรกแซงการป้องกัน ( ilesanmi et al . , 2012 ; ซีเวิร์ส et al . , 2012 ) บทความนี้เป็นการวิเคราะห์ต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ , คิดค้นวิธีการที่อยู่อุปสรรคเหล่านี้และลดการเกิดแผลกดทับ โรงพยาบาลที่ได้มาใช้แบบการเรียนการสอนกับพยาบาลประจำการ