Several assumptions underpin CPM th

Several assumptions underpin CPM theory (Petronio, 2002). For example, because both revealing and concealing carry a potential for vulnerability and because people feel they own their private information, they want to exercise control over it. CPM theory uses a boundary to represent the privacy management process in order to illustrate the way rules are used to regulate opening and closing of access. Privacy rules are dynamic; they change, grow, or remain stable for periods. (See Petronio, 2002, for additional assumptions.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมมติฐานหลายหนุนฟอร์ดที่มี CPM ทฤษฎี (Petronio, 2002) ตัวอย่าง ทั้งเปิดเผยและ concealing มีศักยภาพสำหรับช่องโหว่ และ เพราะคนรู้สึกว่า พวกเขาเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา พวกเขาต้องควบคุมมัน CPM ทฤษฎีใช้เส้นขอบเขตเพื่อแสดงถึงกระบวนการจัดการความเป็นส่วนตัวเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิธีใช้กฎในการควบคุมการเปิด และปิดการเข้าถึง กฎความเป็นส่วนตัวเป็นแบบไดนามิก พวกเขาเปลี่ยนแปลง เติบโต หรือยังคงมีเสถียรภาพสำหรับรอบระยะเวลา (ดู Petronio, 2002 สำหรับเพิ่มเติมสมมติฐาน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมมติฐานหลายหนุนทฤษฎี CPM (Petronio, 2002) ยกตัวอย่างเช่นเพราะทั้งเปิดเผยและปกปิดดำเนินการที่มีศักยภาพสำหรับความเสี่ยงและเพราะคนรู้สึกว่าพวกเขาเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาที่พวกเขาต้องการในการควบคุมมัน ทฤษฎี CPM ใช้ขอบเขตเพื่อเป็นตัวแทนของกระบวนการการจัดการความเป็นส่วนตัวเพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงกฎระเบียบวิธีการที่จะใช้ในการควบคุมการเปิดและปิดของการเข้าถึง กฎความเป็นส่วนตัวเป็นแบบไดนามิก; พวกเขาเปลี่ยนเติบโตหรือยังคงมีเสถียรภาพสำหรับรอบระยะเวลา (ดู Petronio 2002 สำหรับสมมติฐานเพิ่มเติม.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมมติฐานหลายหนุนทฤษฎี CPM ( petronio , 2002 ) ตัวอย่างเช่น เพราะทั้งเปิดเผยและปกปิดพกที่มีช่องโหว่ และเพราะคนรู้สึกว่าพวกเขาเองข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขา พวกเขาต้องการที่จะควบคุมมันทฤษฏี CPM ใช้ขอบเขตของความเป็นส่วนตัวการจัดการกระบวนการเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิธีที่กฎที่ใช้ควบคุมการเปิดและปิดของการเข้าถึง กฎความเป็นส่วนตัวแบบไดนามิก พวกเขาเปลี่ยนแปลง เติบโต หรือ ยังคงมีเสถียรภาพในช่วงเวลา ( ดู petronio 2002 สำหรับข้อสมมติ เพิ่มเติม )