A lecture is a specific type of spe

A lecture is a specific type of speaking and differs from other types of speaking such as a conversation or a discussion. Below are some of the features of a lecture. i The lecturer has prepared what she is going to say in advance The lecturer brings notes and usually has some form of visual material (for example, a PowerPoint presentation) or handouts for students This means that the lecture will follow a structure and has a more recognized order than a general conversation: The lecturer knows what she wants to say and has thought about how to explain conversation, where speakers think s different from n it clearly and speak in real time 2 The lecturer speaks for a long time. y speaks for an hour, sometimes longer n a lecture the lecturer USL This means that the listeners have to concentrate hard on one speaker for a long period of time. This is not like conversations or discussions where the speakers share the talking and listening time. 3 The students do not usually ask questions, In conversation or discussion the speakers can interrupt each other to ask questions, explain words, or give their own point of view In a lecture it is different; the students do not usually have the opportunity to ask questions during the lecture except at the end Occasionally the lecturer will invite questions during the lecture, but this is not always the case

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การบรรยายเป็นการพูด และแตกต่างจากชนิดอื่นพูดเช่นการสนทนาหรือการอภิปราย ด้านล่างมีบางคุณลักษณะของการบรรยาย อาจารย์ที่ได้เตรียมการอะไรที่เธอจะไปพูดล่วงหน้าที่อาจารย์นำหมายเหตุ และมักจะมีภาพวัสดุ (ตัวอย่าง การนำเสนอ PowerPoint) หรือเอกสารประกอบคำบรรยายสำหรับนักเรียนซึ่งหมายความว่า การบรรยายจะทำตามโครงสร้าง และมีมากขึ้นรู้จักสั่งมากกว่าการสนทนาทั่วไป: อาจารย์ที่รู้สิ่งที่เธอต้องการจะพูด และมีความคิดเกี่ยวกับวิธีการอธิบายการสนทนา ที่ลำโพงคิดว่า s แตกต่างจาก n มันชัดเจน และพูดในเวลาจริง 2 ที่อาจารย์พูดมานาน y พูดชั่วโมง n ยาวบางครั้งการบรรยายอาจารย์ USL นี้หมายความ ว่า ผู้ฟังจะต้องหนักเน้นลำโพงหนึ่งเป็นระยะเวลานาน นี้ไม่ได้เช่นการสนทนาหรือการสนทนาซึ่งลำโพงที่ใช้ร่วมกันเวลาพูด และฟัง 3 นักเรียนไม่มักจะถามคำถาม สนทนาหรือสนทนาลำโพงสามารถ ขัดจังหวะแต่ละอื่น ๆ เพื่อถามคำถาม คำอธิบาย หรือให้ตนจุดของมุมมองในการบรรยายก็จะแตกต่าง นักเรียนมักจะไม่มีโอกาสที่จะถามคำถามระหว่างการบรรยายยกเว้นท้ายบางครั้งอาจารย์ที่จะเชิญถามระหว่างการบรรยาย แต่นี้ไม่เสมอกรณี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บรรยายเป็นชนิดที่เฉพาะเจาะจงของการพูดและการแตกต่างจากชนิดอื่น ๆ ของการพูดเช่นการสนทนาหรือการสนทนา ด้านล่างนี้คือบางส่วนของคุณสมบัติของการบรรยาย ฉันวิทยากรได้จัดเตรียมสิ่งที่เธอจะไปพูดล่วงหน้าวิทยากรนำบันทึกและมักจะมีรูปแบบของวัสดุที่มองเห็นบางคน (เช่นงานนำเสนอ PowerPoint) หรือเอกสารประกอบคำบรรยายสำหรับนักเรียนซึ่งหมายความว่าการบรรยายจะเป็นไปตามโครงสร้างและมีมากขึ้น เพื่อได้รับการยอมรับกว่าการสนทนาทั่วไป: อาจารย์รู้ว่าสิ่งที่เธอต้องการที่จะพูดและมีความคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะอธิบายการสนทนาที่ลำโพงคิดแตกต่างจาก n ให้ชัดเจนและพูดในเวลาจริง 2 วิทยากรพูดเป็นเวลานาน y ที่พูดสำหรับชั่วโมงบางครั้งนาน na วิทยากรบรรยาย USL นี้หมายความว่าผู้ฟังต้องมีสมาธิอย่างหนักในลำโพงหนึ่งเป็นระยะเวลานานของเวลา นี้จะไม่ชอบการสนทนาหรือการอภิปรายที่ลำโพงร่วมพูดคุยและเวลาฟัง 3 นักเรียนไม่ได้มักจะถามคำถามในการสนทนาหรืออภิปรายลำโพงสามารถขัดจังหวะแต่ละอื่น ๆ ที่จะถามคำถามคำอธิบายหรือให้จุดของตัวเองในมุมมองของการบรรยายจะแตกต่างกัน; นักเรียนมักจะไม่ได้มีโอกาสที่จะถามคำถามในระหว่างการบรรยายยกเว้นในตอนท้ายบางครั้งอาจารย์จะเชิญคำถามในระหว่างการบรรยาย แต่นี้ไม่เสมอกรณี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การบรรยายเป็นชนิดที่เฉพาะเจาะจงของการพูด และแตกต่างจากประเภทอื่น ๆของการพูด เช่น การสนทนาหรือการอภิปราย ด้านล่างนี้เป็นบางส่วนของลักษณะของการบรรยาย ผมอาจารย์ได้เตรียมสิ่งที่เธอจะพูดล่วงหน้าอาจารย์นำบันทึกและมักจะมีรูปแบบบางส่วนของภาพวัตถุ ( ตัวอย่างเช่น งานพรีเซนต์ ) หรือเอกสารประกอบสำหรับนักเรียน ซึ่งหมายความ ว่า การบรรยายจะตามโครงสร้าง และมีการยอมรับมากขึ้นเพื่อกว่าการสนทนาทั่วไป : อาจารย์รู้ว่าเธอต้องการ พูดและคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะอธิบายการสนทนาที่ผู้พูดคิดต่างจากมันชัดเจน และพูดในเวลาจริง 2 ผู้บรรยายพูดเป็นเวลานาน และพูดหนึ่งชั่วโมง บางครั้งยาว N การบรรยายผู้บรรยาย USL นี่หมายความว่า ผู้ฟังมีสมาธิอย่างหนักบนลำโพงเป็นระยะเวลานานของเวลา นี่มันไม่เหมือนการสนทนาหรือการอภิปรายที่ผู้พูดใช้พูดและการฟังเวลา 3 นักเรียนไม่มักจะถามคำถามในการสนทนาหรือการอภิปราย ผู้พูดสามารถขัดจังหวะกันถาม อธิบายคำ หรือให้ของตัวเองมุมมองในการบรรยายมันแตกต่างกัน นักเรียนมักจะไม่ได้มีโอกาสที่จะถามคำถามในระหว่างการบรรยาย ยกเว้นตอนจบ บางครั้งอาจารย์จะเชิญถาม ในระหว่างการบรรยาย แต่นี้ไม่เสมอกรณี