What is Morphology?Morphology – the

What is Morphology?
Morphology – the internal structure of words
The term morphology is Greek and is a makeup of morph- meaning 'shape, form', and -ology which means 'the study of something'. The term is used not only in linguistics but also in biology as the scientific study of forms and structure of animals and plants, and in geology as the study of formation and evolution of rocks and land forms. We are going to stick to morphology in linguistics, as the scientific study of forms and structure of words in a language.[1] Morphology as a sub-discipline of linguistics was named for the first time in 1859 by the German linguist August Schleicher who used the term for the study of the form of words.[2] Today morphology forms a core part of linguistics.



What is a word?



If morphology is the study of the internal structure of words, we need to define the word word before we can continue. That might sound easy - surely we all know what a word is. In texts they are particularly easy to spot since they are divided by white spaces. But how do we identify words in speech? A reliable definition of words is that they are the smallest independent units of language. They are independent in that they do not depend on other words which means that they can be separated from other units and can change position.[3] Consider the sentence:

The man looked at the horses.

The plural ending –s in horses is dependent on the noun horse to receive meaning and can therefore not be a word. Horses however, is a word, as it can occur in other positions in the sentence or stand on its own:

The horses looked at the man.
- What is the man looking at? - Horses.

Words are thus both independent since they can be separated from other words and move around in sentences, and the smallest units of language since they are the only units of language for which this is possible.



Morphemes - the building blocks of morphology



Although words are the smallest independent units of language, they have an internal structure and are built up by even smaller pieces. There are simple words that don’t have an internal structure and only consist of one piece, like work. There is no way we can divide work (wo-rk?) into smaller parts that carry meaning or function. Complex words however, do have an internal structure and consist of two or more pieces. Consider worker, where the ending –er is added to the root work to make it into a noun meaning someone who works. These pieces are called morphemes and are the smallest meaning-bearing units of language.[4]

We said that words are independent forms, and a simple word only consisting of one single morpheme is therefore a free morpheme, that is, it is a word itself. Examples are house, work, high, us and to. Morphemes that must be attached to another morpheme to receive meaning are bound morphemes. If we break the word unkindness into its three morphemes un-, kind and -ness, we get two examples of bound morphemes: un- and -ness, as they require the root kind to make up a word. These are also called affixes as they are attached to the stem. The affix un- that go to the front of a word is a prefix and -ness that goes to the end is a suffix.

There are also infixes and circumfixes, although they are not very common in English. We mostly see infixes as curse words integrated in morphemes like the ones you can see below[5], or like the example from the American sitcom you can see below. A circumfix is a morpheme that attaches to the front and the back of a word, as you can see in the examples of Dutch past tense below:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สัณฐานวิทยาคืออะไรสัณฐานวิทยา – โครงสร้างภายในของคำระยะสัณฐานวิทยาเป็นภาษากรีก และ แต่งหน้าของ morph หมาย 'รูปร่าง แบบฟอร์ม' ก - ology ซึ่งหมายความว่า 'วิชาอะไร' คำที่ใช้ไม่เพียงแต่ ในภาษาศาสตร์ แต่ยังทางชีววิทยาเป็นการศึกษาทางวิทยาศาสตร์รูปแบบและโครงสร้างของสัตว์และพืช และธรณีวิทยาเป็นการศึกษาการก่อตัวและวิวัฒนาการของฟอร์มแผ่นดินและหิน เราจะไปติดสัณฐานวิทยาในภาษาศาสตร์ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์รูปแบบและโครงสร้างของคำในภาษา[1] สัณฐานวิทยาเป็นวินัยย่อยของภาษาศาสตร์ที่ชื่อครั้งแรกในปี 1859 โดยนักภาษาศาสตร์เยอรมัน Schleicher สิงหาคมที่ใช้ระยะเวลาในการศึกษารูปแบบของคำ[2] ปัจจุบันสัณฐานวิทยาใช้หลักส่วนหนึ่งของภาษาศาสตร์คำคืออะไร ถ้าสัณฐานวิทยาเป็นการศึกษาโครงสร้างภายในของคำ เราจำเป็นต้องกำหนดคำคำก่อนเรา ที่อาจเสียงง่าย - แน่นอนว่า เรารู้คำใด ในข้อความ ที่เป็นเรื่องง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดเนื่องจากพวกเขาถูกแบ่ง ด้วยช่องว่าง แต่ว่าเราระบุคำในการพูด คำจำกัดความน่าเชื่อถือของคำได้ว่า เป็นหน่วยอิสระที่เล็กที่สุดของภาษา พวกเขาเป็นอิสระที่ไม่ขึ้นอยู่กับคำอื่น ๆ ที่หมายความ ว่า พวกเขาสามารถแยกออกจากหน่วยอื่น ๆ และสามารถเปลี่ยนตำแหน่ง[3] พิจารณาประโยค: คนมองที่ม้าพหูพจน์ – s ในม้าสิ้นสุดขึ้นอยู่กับม้านามรับหมาย และไม่ดังนั้นเป็นคำ ม้าอย่างไรก็ตาม เป็นคำ มันสามารถเกิดขึ้นในตำแหน่งอื่น ๆ ในประโยค หรือยืนในตัวเอง:ม้ามองคน -มีคนดู -ม้าคำพูดจึงมีทั้งอิสระเนื่องจากพวกเขาสามารถแยกจากคำอื่น และย้ายไปรอบ ๆ ในประโยค และหน่วยที่เล็กที่สุดของภาษาเนื่องจากภาษาในที่นี้เป็นหน่วยเดียวกัน Morphemes - การสร้างบล็อกของสัณฐานวิทยาแม้คำ ภาษาอิสระหน่วยที่เล็กที่สุด พวกเขามีเป็นโครงสร้างภายใน และมีสร้างขึ้น ด้วยชิ้นเล็กได้ มีคำง่าย ๆ ที่ไม่ได้เป็นโครงสร้างภายใน และประกอบด้วยชิ้นหนึ่ง เช่นทำงานเท่านั้น ไม่มีวิธีที่เราสามารถแบ่งงาน (wo-rk) ออกเป็นส่วนย่อย ๆ ที่มีความหมายหรือฟังก์ชันได้ คำที่ซับซ้อนอย่างไรก็ตาม มีเป็นโครงสร้างภายใน และประกอบด้วยอย่าง น้อยสองชิ้น พิจารณาผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งจะสิ้นสุด – เอ้อ เพิ่มงานหลักที่ทำให้เป็นคำนามหมายถึง คนที่ทำงาน ชิ้นส่วนเหล่านี้เรียกว่า morphemes และ หน่วยความหมายเรืองที่เล็กที่สุดของภาษา[4] เรากล่าวว่า คำที่มีรูปแบบอิสระ และคำง่าย ๆ ที่ประกอบด้วย morpheme หนึ่งเดียวเท่านั้น จึง morpheme ฟรี คือ เป็นคำที่ตัวเอง ตัวอย่างบ้าน ทำ งาน สูง เราและ Morphemes ที่ต้องแนบ morpheme อื่นรับความหมาย ที่ผูก morphemes ถ้าเราแบ่ง unkindness คำ morphemes ของสาม un- ชนิดและ - ดาวน์ เราได้รับตัวอย่างของ morphemes ผูก: un - และ - ดาวน์ เป็นพวกเขาต้องการรากชนิดแต่งคำ เหล่านี้มักเรียกส่วนผนวกจะแนบกับก้าน ส่วนผนวกที่สหประชาชาติ-ที่ไปของคำเป็นคำนำหน้า - ดาวน์ที่ไปสิ้นสุดมีคำต่อท้ายยังมี infixes และ circumfixes แม้ว่าพวกเขาไม่ธรรมดาในภาษาอังกฤษ เราส่วนใหญ่ดู infixes เป็นคำสาปแช่งใน morphemes เช่นคุณสามารถดูที่ด้านล่าง [5], หรือ เช่นตัวอย่างจากละครอเมริกันคุณสามารถดูที่ด้านล่าง Circumfix การเป็น morpheme ที่ยึดติดกับด้านหน้าและด้านหลังของคำ คุณสามารถดูในตัวอย่างของดัตช์อดีตกาลด้านล่าง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัณฐานวิทยาคืออะไร?
สัณฐานวิทยา - โครงสร้างภายในของคำ
สัณฐานคำเป็นภาษากรีกและเป็นแต่งหน้าของความหมาย morph- 'รูปร่างรูปแบบ' และ -ology ซึ่งหมายความว่าการศึกษาของบางสิ่งบางอย่าง ' คำที่ใช้ไม่เพียง แต่ในภาษาศาสตร์ แต่ยังอยู่ในทางชีววิทยาเช่นการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของรูปแบบและโครงสร้างของสัตว์และพืชและในทางธรณีวิทยาเช่นการศึกษาการก่อตัวและวิวัฒนาการของหินและรูปแบบที่ดิน พวกเราจะไปยึดติดอยู่กับลักษณะทางสัณฐานวิทยาภาษาศาสตร์เช่นการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของรูปแบบและโครงสร้างของคำในภาษา. [1] สัณฐานวิทยาเป็นวินัยย่อยของภาษาศาสตร์ถูกเสนอชื่อเป็นครั้งแรกในปี 1859 โดยนักภาษาศาสตร์เยอรมันสิงหาคม Schleicher ที่ ใช้คำในการศึกษารูปแบบของคำว่า. [2] สัณฐานวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักภาษาศาสตร์. อะไรคือสิ่งที่คำ? ถ้าสัณฐานวิทยาคือการศึกษาของโครงสร้างภายในของคำที่เราต้องกำหนดคำคำก่อนที่เราจะ สามารถดำเนินการต่อ ที่อาจเสียงง่าย - แน่นอนเราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เป็นคำ ในตำราพวกเขาจะง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะจุดเนื่องจากพวกเขาจะแบ่งตามช่องว่างสีขาว แต่อย่างไรเราระบุในคำพูด? คำนิยามที่เชื่อถือได้ของคำที่พวกเขาเป็นหน่วยงานอิสระที่เล็กที่สุดของภาษา พวกเขามีความเป็นอิสระในการที่พวกเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถแยกออกจากหน่วยงานอื่น ๆ และสามารถเปลี่ยนตำแหน่ง [3] พิจารณาประโยค. . คนมองไปที่ม้า-s จบพหูพจน์ในม้าจะขึ้นอยู่ บนหลังม้าที่เป็นรูปธรรมที่จะได้รับความหมายและความสามารถดังนั้นจึงไม่เป็นคำ ม้า แต่เป็นคำที่มันสามารถเกิดขึ้นได้ในตำแหน่งอื่น ๆ ในประโยคหรือยืนได้ด้วยตัวเอง: . ม้ามองไปที่ชายคนนั้น- คนสิ่งที่กำลังมองหาที่? -. ม้าคำพูดจึงทั้งอิสระเนื่องจากพวกเขาสามารถแยกออกจากคำอื่น ๆ และย้ายรอบในประโยคและหน่วยที่เล็กที่สุดของภาษาตั้งแต่พวกเขาเป็นหน่วยเดียวของภาษาที่เป็นไปได้. morphemes - หน่วยการสร้างของสัณฐานวิทยาแม้ว่า คำหน่วยงานอิสระที่เล็กที่สุดของภาษาที่พวกเขามีโครงสร้างภายในและมีการสร้างขึ้นโดยชิ้นเล็ก มีคำง่ายๆที่ไม่ได้มีโครงสร้างภายในและมีเพียงประกอบด้วยชิ้นเดียวเช่นการทำงานเป็น ไม่มีทางที่เราสามารถแบ่งการทำงานไม่เป็น (wo-RK?) เป็นส่วนเล็กที่พกความหมายหรือการทำงาน คำที่มีความซับซ้อน แต่จะมีโครงสร้างภายในและประกอบด้วยสองชิ้นหรือมากกว่า พิจารณาคนงานที่เอ้อสิ้นสุดจะถูกเพิ่มในการทำงานของรากที่จะทำให้มันกลายเป็นคำนามหมายถึงคนที่ทำงาน ชิ้นส่วนเหล่านี้จะเรียกว่า morphemes และมีขนาดเล็กที่สุดในหน่วยความหมายแบกของภาษา. [4] เรากล่าวว่าคำพูดเป็นรูปแบบอิสระและคำง่ายๆเพียงประกอบด้วยหน่วยคำเดียวจึงเป็นหน่วยคำฟรี, ที่อยู่, มันเป็นคำ ตัวเอง ตัวอย่างเช่นบ้าน, ทำงานสูงเราและ morphemes ที่ต้องแนบมากับหน่วยคำอื่นที่จะได้รับความหมายเป็น morphemes ผูกพัน ถ้าเราทำลายคำเหี้ยมโหดเป็นสาม morphemes มันยกเลิกชนิดและ -ness เราได้รับสองตัวอย่างของ morphemes ผูกยกเลิกและ -ness เช่นที่พวกเขาต้องการชนิดรากเพื่อให้ได้คำ เหล่านี้เรียกว่ายัง affixes ที่พวกเขาจะติดอยู่กับต้นกำเนิด ประทับยกเลิกที่ไปที่ด้านหน้าของคำเป็นคำนำหน้าและ -ness ที่จะไปถึงจุดสิ้นสุดจะต่อท้าย. นอกจากนี้ยังมี infixes circumfixes และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบบ่อยมากในภาษาอังกฤษ เราส่วนใหญ่เห็น infixes เป็นคำสาปแช่งแบบบูรณาการใน morphemes เหมือนคนที่คุณสามารถดูด้านล่าง [5] หรือเช่นตัวอย่างจากละครซิทคอมอเมริกันที่คุณสามารถดูด้านล่าง circumfix เป็นหน่วยคำที่ยึดติดกับด้านหน้าและด้านหลังของคำที่คุณสามารถเห็นในตัวอย่างที่ผ่านมาชาวดัตช์ตึงเครียดด้านล่าง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่เป็นรูปร่าง ?
สัณฐานวิทยาและโครงสร้างภายในของคำ
เป็นชาวกรีก และเป็นเงื่อนไขของการแต่งหน้าของ Morph - รูปร่าง รูปทรง และ - ology ' ความหมาย ' ซึ่งหมายถึง ' การศึกษาบางอย่าง ' ระยะเวลาที่ใช้ไม่เพียง แต่ในภาษาศาสตร์ แต่ยังอยู่ในชีววิทยาเป็นวิทยาศาสตร์การศึกษารูปแบบและโครงสร้างของสัตว์และพืชและธรณีวิทยา เช่น การศึกษาการสร้างและการวิวัฒนาการของหินและดินแบบ เราจะติดสัณฐานวิทยาภาษาศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ ศึกษารูปแบบและโครงสร้างของคำในภาษา [ 1 ] สัณฐานเป็น Sub วินัยภาษาศาสตร์เป็นชื่อครั้งแรกในปี 1859 โดยนักภาษาศาสตร์ชาวเยอรมันเอากุสต์ ชไลเคอร์ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการศึกษารูปแบบของคำ[ 2 ] วันนี้สัณฐานวิทยาเป็นหลักส่วนหนึ่งของภาษาศาสตร์ .



อะไรซักคำ



ถ้าสัณฐานคือการศึกษาโครงสร้างภายในของคำที่เราต้องนิยามคำว่าคำก่อนที่เราจะสามารถต่อ ที่อาจเสียงง่าย - แน่นอนเราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่คำ . ในข้อความที่พวกเขาเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งง่ายจุดเนื่องจากพวกเขาจะแบ่งเป็นสีขาว แต่อย่างไรเราระบุถ้อยคำในการพูด ?คำนิยามของความน่าเชื่อถือของคำพูดที่พวกเขาเป็นอิสระหน่วยที่เล็กที่สุดของภาษา พวกเขาเป็นอิสระในการที่พวกเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถแยกจากหน่วยอื่น ๆ และสามารถเปลี่ยนตำแหน่ง [ 3 ] พิจารณาประโยค :

คนมองม้า

พหูพจน์ที่ลงท้าย–ในม้าขึ้นอยู่กับคำนามที่ม้าได้รับความหมายและสามารถจึงไม่ได้เป็นคำ ม้าแต่เป็นคำ มันสามารถเกิดขึ้นได้ในตำแหน่งอื่นในประโยค หรือยืนบนของตัวเอง :

ม้ามองผู้ชาย
- ผู้ชายมองคืออะไร ? - ม้า

คำจึงมีทั้งอิสระตั้งแต่พวกเขาสามารถแยกจากคำอื่นและย้ายไปรอบ ๆในประโยคและหน่วยเล็กที่สุดของภาษาตั้งแต่พวกเขาเป็นหน่วยเดียวของภาษาที่เป็นไปได้



ระบบ - สร้างบล็อกของสัณฐานวิทยา



ถึงแม้คำพูดจะเป็นหน่วยเล็กที่สุดของภาษาที่พวกเขามีโครงสร้างภายใน และถูกสร้างขึ้นโดยแม้แต่น้อยชิ้น มีถ้อยคำที่ไม่มีโครงสร้างภายใน และมีชิ้นเดียวเท่านั้น เช่น งานไม่มีทางที่เราสามารถแบ่งงาน ( wo RK ? ) เป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กที่มีความหมาย หรือฟังก์ชัน ที่ใช้พูดอย่างไรก็ตาม มีโครงสร้างภายใน และประกอบด้วยสองชิ้นหรือมากกว่า พิจารณาพนักงานที่จบ–เอ้อเพิ่มรากทำงานให้มันเป็นคำนามหมายถึง คนที่ทำงาน ชิ้นส่วนเหล่านี้จะเรียกว่าคำและความหมายเล็กเรืองหน่วยภาษา [ 4 ]

เราว่าคำที่มีรูปแบบอิสระ และคําง่ายๆ เพียงประกอบด้วยหน่วยคำเดียวจึงเป็นหน่วยคำอิสระคือว่า มันเป็นคำที่ตัวเอง ตัวอย่าง บ้าน งาน สูง เรา และ ให้ คำที่ต้องแนบกับหน่วยคำอื่นได้รับความหมายผูกพันเสียงสระ ถ้าเราแบ่งเป็นสามคำคำแสบร้อนของสหประชาชาติ - ชนิด - เนสเราเอาสองตัวอย่างของผูกพันหน่วยคำ : UN - และ - เนส ขณะที่พวกเขาต้องการรากชนิดเพื่อให้ขึ้นคำว่า เหล่านี้จะเรียกว่าเหล่านี้เช่นที่พวกเขาจะแนบกับลำต้น ที่ติดยกเลิก ไปที่ด้านหน้าของคำ - และ - เนสไปสิ้นเป็นคำต่อท้าย

ยังมี infixes และ circumfixes แม้ว่าพวกเขาจะไม่พบมากในภาษาอังกฤษส่วนใหญ่เราเห็น infixes เป็นคำสาปแช่งแบบบูรณาการในระบบ เช่นที่คุณเห็นด้านล่าง [ 5 ] , หรือต้องการตัวอย่างจากละครทีวีอเมริกันคุณสามารถดูด้านล่าง เป็น circumfix เป็นหน่วยคำที่ยึดติดกับด้านหน้าและด้านหลังของคำ เช่นที่คุณเห็นในตัวอย่างของดัตช์อดีตด้านล่าง :