การแต่งกายในแนวฮิปฮอปและสตรีท เป็นท

การแต่งกายในแนวฮิปฮอปและสตรีท เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ในประเทศไทยเกิดแฟชั่นนี้ครั้งแรก เมื่อพ.ศ.2534 จากศิลปินในยุคนั้น อาจเพราะสามารถประยุกต์เข้าได้กับการแต่งกายหลายแบบ และสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง จึงได้รับความนิยมอย่างยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน โดยคนกลุ่มที่ชอบฮิปฮอปนี้ มีความสนใจในเรื่องการอนุรักษ์ความเป็นไทยมาก ยกตัวอย่างเช่น มีการทำเพลงฮิปฮอป หรือรีมิกซ์เพลง โดยใช้เครื่องดนตรีไทย หรือการร้องแบบไทยเดิม ผสานดนตรีแนวฮิปฮอป ออกมาสู่ช่องทางสื่อต่างๆ จนได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ในด้านการแต่งกายก็ยังถือว่าขาดเอกลักษณ์ ดูไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เพราะมีการนำแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคนไทย โดยเรื่องราวต่างๆที่ถ่ายทอดออกมาบนเนื้อผ้า ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ความเชื่อ นิทาน และเรื่องราวอื่นๆจากฝั่งตะวันตก ซึ่งประเทศไทยเอง ก็มีเรื่องราว ความเชื่อ นิทาน และวรรณคดีที่น่าสนใจมากมายไม่แพ้กัน
วรรณคดีที่ได้รับความนิยมจนมาถึงยุคปัจจุบันและอยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ นั่นคือวรรณคดีเรื่อง "รามเกียรติ์" วรรณคดีเรื่องนี้ นอกจากจะให้ความสนุกและมีข้อคิดสอนใจต่างๆมากมายแล้ว ในส่วนของตัวละครก็สามารถสื่อสารเรื่องราวออกมาได้น่าตื่นเต้น ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดึงดูดและมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยอยู่ในตัว ตัวละครที่โดดเด่น เป็นหนึ่งในตัวหลัก ก็คือ "ทศกัณฐ์" ตัวร้ายในเรื่องรามเกียรติ์ที่มีความเก่งกาจ เจ้าเล่ห์ และฉลาดแกมโกง แม้จะมีข้อเสีย แต่ข้อดีของทศกัณฐ์ก็คือ ยอมทำทุกหนทางเมื่อมีความรัก กระทั่งยอมต่อสู้เพื่อแย่งชิงคนที่ตนรักได้ แม้ในตอนต้นจะเจ้าชู้ก็ตาม
ซึ่งลักษณะของยักษ์ที่กล่าวมาในข้างต้นนั้น ทำให้กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน โดยมองจากบุคลิกเช่น ความเป็นผู้นำ ความกล้าหาญ ความมีเสน่ห์ และชอบการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม คล้ายกับนิสัยของยักษ์ในเรื่อง ซึ่งสะท้อนภาพลักษณ์ออกมาได้ตรงกับกลุ่มผู้ที่สนใจในดนตรีฮิปฮอปนั่นเอง
จึงเป็นที่มาของโครงการออกแบบลวดลายโครงการออกแบบเรขศิลป์และสื่อมัลติมีเดียสำหรับผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่ได้แรงบันดาลใจจากทศกัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "ASURA" (อสุรา) ซึ่งจะดึงเอาเอกลักษณ์ของความเป็นไทย มาประยุกต์ให้เกิดความทันสมัย และความสนุกสนาน เพื่อให้เกิดความเท่ และอนุรักษ์ความเป็นไทย แต่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การแต่งกายในแนวฮิปฮอปและสตรีทเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันในประเทศไทยเกิดแฟชั่นนี้ครั้งแรกเมื่อพ. ศ. 2534 จากศิลปินในยุคนั้น และสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง โดยคนกลุ่มที่ชอบฮิปฮอปนี้ ยกตัวอย่างเช่นมีการทำเพลงฮิปฮอปหรือรีมิกซ์เพลงโดยใช้เครื่องดนตรีไทยหรือการร้องแบบไทยเดิมผสานดนตรีแนวฮิปฮอปออกมาสู่ช่องทางสื่อต่างๆ ดูไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเชื่อนิทานและเรื่องราวอื่น ๆ จากฝั่งตะวันตกซึ่งประเทศไทยเองก็มีเรื่องราวความเชื่อนิทาน
นั่นคือวรรณคดีเรื่อง "รามเกียรติ์" วรรณคดีเรื่องนี้ ตัวละครที่โดดเด่นเป็นหนึ่งในตัวหลักก็คือ "ทศกัณฐ์" เจ้าเล่ห์และฉลาดแกมโกงแม้จะมีข้อเสีย แต่ข้อดีของทศกัณฐ์ก็คือยอมทำทุกหนทางเมื่อมีความรัก
โดยมองจากบุคลิกเช่นความเป็นผู้นำความกล้าหาญความมีเสน่ห์และชอบการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มคล้ายกับนิสัยของยักษ์ในเรื่อง
"เบนซี" (อสุรา) มาประยุกต์ให้เกิดความทันสมัยและความสนุกสนานเพื่อให้เกิดความเท่และอนุรักษ์ความเป็นไทย แต่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การแต่งกายในแนวฮิปฮอปและสตรีทเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันในประเทศไทยเกิดแฟชั่นนี้ครั้งแรกเมื่อพ . ศ .2534 จากศิลปินในยุคนั้นอาจเพราะสามารถประยุกต์เข้าได้กับการแต่งกายหลายแบบและสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิงจึงได้รับความนิยมอย่างยาวนานมาจนถึงปัจจุบันโดยคนกลุ่มที่ชอบฮิปฮอปนี้ยกตัวอย่างเช่นมีการทำเพลงฮิปฮอปหรือรีมิกซ์เพลงโดยใช้เครื่องดนตรีไทยหรือการร้องแบบไทยเดิมผสานดนตรีแนวฮิปฮอปออกมาสู่ช่องทางสื่อต่างๆจนได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศดูไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองเพราะมีการนำแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมากซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคนไทยโดยเรื่องราวต่างๆที่ถ่ายทอดออกมาบนเนื้อผ้าก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเชื่อนิทานซึ่งประเทศไทยเองก็มีเรื่องราวความเชื่อนิทานและวรรณคดีที่น่าสนใจมากมายไม่แพ้กัน
วรรณคดีที่ได้รับความนิยมจนมาถึงยุคปัจจุบันและอยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณนั่นคือวรรณคดีเรื่อง " รามเกียรติ์ " วรรณคดีเรื่องนี้นอกจากจะให้ความสนุกและมีข้อคิดสอนใจต่างๆมากมายแล้วภายใต้รูปลักษณ์ที่ดึงดูดและมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยอยู่ในตัวตัวละครที่โดดเด่นเป็นหนึ่งในตัวหลักก็คือ " ทศกัณฐ์ " ตัวร้ายในเรื่องรามเกียรติ์ที่มีความเก่งกาจเจ้าเล่ห์และฉลาดแกมโกงแม้จะมีข้อเสียยอมทำทุกหนทางเมื่อมีความรักกระทั่งยอมต่อสู้เพื่อแย่งชิงคนที่ตนรักได้แม้ในตอนต้นจะเจ้าชู้ก็ตาม
ซึ่งลักษณะของยักษ์ที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นทำให้กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนโดยมองจากบุคลิกเช่นความเป็นผู้นำความกล้าหาญความมีเสน่ห์และชอบการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มคล้ายกับนิสัยของยักษ์ในเรื่องจึงเป็นที่มาของโครงการออกแบบลวดลายโครงการออกแบบเรขศิลป์และสื่อมัลติมีเดียสำหรับผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่ได้แรงบันดาลใจจากทศกัณฑ์ภายใต้แบรนด์ " อสุรา " ( อสุรา ) ซึ่งจะดึงเอาเอกลักษณ์ของความเป็นไทยและความสนุกสนานเพื่อให้เกิดความเท่และอนุรักษ์ความเป็นไทยแต่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน