AbstractThe purpose of this study w

Abstract
The purpose of this study was to isolate the effects of melodic complexity with and without rhythm on working memory as measured
by sequential monosyllabic digit recall performance. The recall of information paired with 6 different melodies was tested on 60
university students. Melodies were built upon 3, 5, and 7 notes, and each level contained a rhythmic sequence and a nonrhythmic
sequence. Results indicated that there was no significant difference between recall of music majors and nonmusic majors, although
music majors tended to outperform nonmusic majors. There was a significant difference in the within-subject variable of rhythm: The
mean recall of information paired with a rhythmic component was higher than recall of information not paired with a rhythmic component.
Congruent with existing research, participants recalled information in serial positions of primacy and recency most accurately.
Suggestions for future research and implications for clinical practice are provided.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการแยกผลกระทบของความซับซ้อนไพเราะที่มีและไม่มีจังหวะในหน่วยความจำทำงานเป็นวัดประสิทธิภาพการเรียกคืนหลักลำดับพยางค์เดียว การเรียกคืนข้อมูลที่จับคู่กับท่วงทำนองที่แตกต่างกัน 6 ได้รับการทดสอบในวันที่ 60 นักศึกษามหาวิทยาลัย เมโลดี้ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 3, 5, 7 และบันทึกและแต่ละระดับมีลำดับจังหวะและ nonrhythmic ลำดับ ผลการศึกษาพบว่าไม่มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการเรียกคืนของสาขาวิชาดนตรีและสาขาวิชา nonmusic แม้ว่าเพลงเอกมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าสาขาวิชาnonmusic มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในภายในเรื่องตัวแปรจังหวะคือการ. การเรียกคืนค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่จับคู่กับองค์ประกอบจังหวะสูงกว่าการเรียกคืนข้อมูลที่ไม่ได้จับคู่กับองค์ประกอบจังหวะสอดคล้องกับการวิจัยที่มีอยู่เข้าร่วมการเรียกคืนข้อมูลในตำแหน่งอนุกรมของเอกและความใหม่อย่างถูกต้องที่สุด. ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคตและผลกระทบต่อการปฏิบัติทางคลินิกที่มีให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
มีวัตถุประสงค์เพื่อแยกผลของไพเราะกับความซับซ้อนและไม่มีจังหวะในหน่วยความจำการทำงานเป็นวัดโดยลำดับตัวเลขจำ
5 ) เรียกคืนข้อมูลคู่กับดี้แตกต่างกัน 6 ทดสอบ 60
มหาวิทยาลัยนักศึกษา เพลงที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 3 , 5 และ 7 บันทึก และแต่ละระดับมีลำดับของจังหวะและ nonrhythmic
ลำดับ ผลการศึกษาพบว่า มีความแตกต่างระหว่างการเรียกคืนของเอกดนตรีเอกดนตรีเอก
nonmusic แม้ว่ามีแนวโน้มดีกว่า nonmusic เมเจอร์ มีความแตกต่างกันในเรื่องของจังหวะภายในตัวแปร :
หมายถึงการเรียกคืนข้อมูลจับคู่กับองค์ประกอบจังหวะสูงกว่า จำข้อมูลไม่ได้จับคู่กับองค์ประกอบ
เป็นจังหวะสอดคล้องกับงานวิจัย ผู้เข้าร่วมโครงการเรียกคืนข้อมูลในตำแหน่งหมายเลข primacy และความใหม่อย่างถูกต้องที่สุด .
ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยและผลกระทบในอนาคตสำหรับการปฏิบัติการวิจัยทางคลินิกให้บริการ