1. QR Code แทนข้อมูลสินค้าของสินค้าแต่ละชนิด
- เพื่อให้ทราบข้อมูลของสินค้า จำนวนสินค้าคงคลังของแต่ละชนิด เช่นชื่อรุ่น รหัสสินค้า และประเภท ของสินค้า เป็นต้น
2. QR Code แทนข้อมูลลูกค้า
- เพื่อให้ทราบข้อมูลของลูกค้า เช่น รหัสลูกค้า ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ ข้อมูลการขนส่ง – รับสินค้า และประวัติการสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น
3. QR Code แทนการจัดสต๊อกสินค้า
- เพื่อตรวจสอบชื่อรุ่นของสินค้า รหัสสินค้า และจำนวนของสินค้าคงเหลือ
4. ใช้ระบบ QR CODE ในการตรวจนับสินค้าคงเหลือ เมื่อถึงเวลานับสินค้าคงเหลือ พนักงานของบริษัทสามารถนำสมาท์โฟนไปยังคลังสินค้า แล้วทำการอ่าน QR Code ที่ติดไว้บนสินค้าอยู่แล้ว เพื่อนับสินค้าตัวนั้นๆ เมื่อทำการอ่านสมาท์โฟนแต่ละเครื่องนั้นได้ถูกตั้งค่าให้เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายภายในขององค์กรอยู่แล้ว และทำให้สามารถอัพโหลดข้อมูลที่อ่านไว้แล้วนั้นเข้าไปยังระบบ ERP ได้ทันที เมื่ออ่านเสร็จหมดแล้ว พนักงานก็เพียงแต่นำ สมาท์โฟนกลับมาเก็บเอาไว้ใช้ในครั้งถัดไปเท่านั้นซึ่งโปรแกรมที่อยู่ในสมาท์โฟนมีการตรวจสอบฐานข้อมูลอยู่เสมอว่าสินค้าชิ้นไหนถูกนับไปแล้ว จึงไม่มีข้อผิดพลาดในการนับซ้ำแต่อย่างใด ข้อผิดพลาดของข้อมูลจึงลดลงอย่างมากเลยทีเดียว
5. QR Code แทนข้อมูลพนักงาน
- เพื่อให้ทราบข้อมูลของพนักงานในองค์กร เช่น รหัสพนักงาน ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ แผนก และประวัติการทำงาน เป็นต้น
6. ใช้ระบบ QR Code ในการสั่งซื้อและจ่ายชำระค่าบริการของสินค้า สามารถทำได้โดยการเลือกจ่ายชำระเงินผ่านระบบที่มีไว้ให้บริการโดยตรงเพียงแค่สแกน QR Code จะสามารถจ่ายชำระเงินได้ทันที