Landslide hazard assessment, effect

Landslide hazard assessment, effected by means of geostatistical methods, is based on the analysis of the relationships between landslides and the spatial distributions of some instability factors. Frequently such analyses are based on landslide inventories in which each record represents the entire unstable area and is managed as a single instability landform. In this research, landslide susceptibility is evaluated through the study of a variety of instability landforms: landslides, scarps and areas uphill from crown. The instability factors selected were: bedrock lithology, steepness, topographic wetness index and stream power index. The instability landform densities computed for all the factors, which were arranged in Unique Condition Unit, allowed us to derive a total of three prediction images for each landslide typology. The role of the instability factors and the effects generated by the use of different landforms were analyzed by means of: a) bivariate analysis of the relationships between factors and landslide density; b) predictive power validations of the prediction images, based on a random partition strategy.

The test area was the Iato River Basin (North-Western Sicily), whose slopes are moderately involved in flow and rotational slide landslides (219 and 28, respectively). The area is mainly made up of the following complexes: Numidian Flysch clays (19%, 1%), Terravecchia sandy clays (5%, 1%), Terravecchia clayey sands (3%, 0.3%) and San Cipirello marly clays (9%, 0%). The steepness parameter shows the highest landslide density in the [11–19°] class for both the typologies (8%, 1%), even if the density distributions for rotational slides are right-asymmetric and right-shifted. We obtained significant differences in shape when we used different instability landforms. Unlike scarps and areas uphill from crowns, landslide areas produce left-asymmetric and left-shifted density distributions for both the typologies. As far as the topographic wetness index is concerned, much more pronounced differences were detected among the instability landforms of rotational slides. In contrast, the flow landslides produce normal-like density distributions. The latter and the rotational slide landslide areas produce the highest density values in the class [5.5–6.7], despite an abrupt decreasing trend starting from the first class [3.2–4.4], which is generated by the density values of the rotational slide scarps and areas uphill from crowns. The stream power index at the foot of the slopes, which was automatically derived using a GIS-procedure, shows a positive correlation with the landslide densities marked by the maximum classes: [4.8–6.0] for flows, and [6.0–7.2] for rotational slides. The validation procedure results confirmed that the choice of instability landform influences the results of the susceptibility analysis. Furthermore, the validation procedure indicates that: a) the predictive models are generally satisfactory; b) scarps and zones uphill from crown areas are the most diagnostically unstable landforms, for flow and rotational slide landslides respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดินถล่มภัยประเมิน ผล โดยวิธี geostatistical ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินถล่มและพื้นที่การกระจายของปัจจัยความไม่แน่นอนบางอย่าง วิเคราะห์ดังกล่าวมักจะขึ้นอยู่กับดินถล่มคงที่ระเบียนแต่ละระเบียนแสดงพื้นที่เสถียรทั้งหมด และจัดการเป็นธรณีสัณฐานความไม่แน่นอนที่เดียว ในงานวิจัยนี้ ดินถล่มภูมิไวรับจะถูกประเมิน โดยการศึกษาความหลากหลายของความไม่เสถียรของ landforms: พื้นที่บนเนินเขาเหนือจากคราวน์ scarps และแผ่นดินถล่ม ปัจจัยความไม่แน่นอนที่เลือกได้: หิน lithology ความสูงชัน topographic wetness ดัชนี และดัชนีพลังงานกระแส แน่นธรณีสัณฐานความไม่แน่นอนคำนวณสำหรับปัจจัยทั้งหมด ซึ่งถูกจัดเฉพาะเงื่อนไขหน่วย ให้เรามารวมภาพทายสามจำแนกแต่ละดินถล่ม บทบาทของปัจจัยความไม่แน่นอนและลักษณะพิเศษที่สร้างขึ้น โดยใช้ landforms ต่าง ๆ ถูกวิเคราะห์ผ่าน: เป็น) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและความหนาแน่นของดินถล่ม bivariate ขตรวจสอบพลังงานทำนายทายภาพ ตามกลยุทธ์การพาร์ติชันแบบสุ่มThe test area was the Iato River Basin (North-Western Sicily), whose slopes are moderately involved in flow and rotational slide landslides (219 and 28, respectively). The area is mainly made up of the following complexes: Numidian Flysch clays (19%, 1%), Terravecchia sandy clays (5%, 1%), Terravecchia clayey sands (3%, 0.3%) and San Cipirello marly clays (9%, 0%). The steepness parameter shows the highest landslide density in the [11–19°] class for both the typologies (8%, 1%), even if the density distributions for rotational slides are right-asymmetric and right-shifted. We obtained significant differences in shape when we used different instability landforms. Unlike scarps and areas uphill from crowns, landslide areas produce left-asymmetric and left-shifted density distributions for both the typologies. As far as the topographic wetness index is concerned, much more pronounced differences were detected among the instability landforms of rotational slides. In contrast, the flow landslides produce normal-like density distributions. The latter and the rotational slide landslide areas produce the highest density values in the class [5.5–6.7], despite an abrupt decreasing trend starting from the first class [3.2–4.4], which is generated by the density values of the rotational slide scarps and areas uphill from crowns. The stream power index at the foot of the slopes, which was automatically derived using a GIS-procedure, shows a positive correlation with the landslide densities marked by the maximum classes: [4.8–6.0] for flows, and [6.0–7.2] for rotational slides. The validation procedure results confirmed that the choice of instability landform influences the results of the susceptibility analysis. Furthermore, the validation procedure indicates that: a) the predictive models are generally satisfactory; b) scarps and zones uphill from crown areas are the most diagnostically unstable landforms, for flow and rotational slide landslides respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประเมินอันตรายถล่ม, ผลกระทบจากการใช้วิธีการวิธีการ geostatistical อยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินถล่มและการกระจายเชิงพื้นที่ของบางปัจจัยความไม่แน่นอน การวิเคราะห์ดังกล่าวบ่อยครั้งจะขึ้นอยู่กับสินค้าคงเหลือถล่มทลายในการที่แต่ละระเบียนแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่ไม่มั่นคงทั้งหมดและมีการจัดการที่เป็นลักษณะดินความไม่แน่นอนเดียว ในงานวิจัยนี้ถล่มอ่อนแอได้รับการประเมินผ่านการศึกษาความหลากหลายของธรณีสัณฐานไม่แน่นอน: ถล่ม scarps และพื้นที่ขึ้นเขาจากมงกุฎ ปัจจัยความไม่แน่นอนที่เลือกคือ lithology ความจริง, ความสูงชันดัชนีความชื้นแฉะภูมิประเทศและดัชนีการใช้พลังงานกระแส ความหนาแน่นของดินไม่แน่นอนคำนวณปัจจัยทั้งหมดที่ถูกจัดให้อยู่ในสภาพที่ไม่ซ้ำกันหน่วยให้เราได้รับมาทั้งหมดสามภาพการคาดการณ์สำหรับแต่ละการจำแนกประเภทถล่ม บทบาทของปัจจัยความไม่แน่นอนและผลกระทบที่เกิดจากการใช้งานที่แตกต่างกันของธรณีสัณฐานนำมาวิเคราะห์โดยใช้วิธีการ:) การวิเคราะห์ bivariate ของความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและความหนาแน่นของแผ่นดินถล่ม; ข) การตรวจสอบอำนาจการทำนายของภาพการทำนายบนพื้นฐานของกลยุทธ์พาร์ทิชันแบบสุ่มพื้นที่ทดสอบเป็น IATO ลุ่มน้ำ (ตะวันตกเฉียงเหนือซิซิลี) ซึ่งลาดมีส่วนร่วมในระดับปานกลางในการไหลและดินถล่มสไลด์หมุน (219 และ 28 ตามลำดับ) . พื้นที่ที่ทำส่วนใหญ่ขึ้นของสารประกอบเชิงซ้อนต่อไปนี้: ดินเหนียว Numidian Flysch (19%, 1%), Terravecchia ดินเหนียวปนทราย (5%, 1%), Terravecchia ทรายดิน (3%, 0.3%) และซาน Cipirello ดิน Marly (9 %, 0%) พารามิเตอร์ชันแสดงให้เห็นความหนาแน่นของแผ่นดินถล่มที่สูงที่สุดใน [11-19 °] ชั้นสำหรับทั้ง typologies (8%, 1%) แม้ว่าการกระจายความหนาแน่นของสไลด์หมุนเป็นขวาไม่สมมาตรและขวาขยับ เราได้รับความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในรูปเมื่อเราใช้ธรณีสัณฐานไม่แน่นอนที่แตกต่างกัน ซึ่งแตกต่างจาก scarps และพื้นที่เนินมงกุฎจากพื้นที่ผลิตถล่มซ้ายไม่สมมาตรและซ้ายขยับการกระจายความหนาแน่นทั้ง typologies เท่าที่ดัชนีความชื้นแฉะภูมิประเทศเป็นห่วงมากที่แตกต่างกันเด่นชัดมากขึ้นตรวจพบในหมู่ธรณีสัณฐานความไม่แน่นอนของการหมุนสไลด์ ในทางตรงกันข้ามการไหลถล่มผลิตตามปกติเหมือนการกระจายความหนาแน่น หลังและพื้นที่ถล่มสไลด์หมุนผลิตสูงสุดค่าความหนาแน่นในชั้นเรียน [5.5-6.7] แม้จะมีแนวโน้มลดลงอย่างกระทันหันโดยเริ่มจากชั้นแรก [3.2-4.4] ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยค่าความหนาแน่นของ scarps สไลด์หมุน และพื้นที่ขึ้นเขาจากมงกุฎ ดัชนีการใช้พลังงานกระแสที่เท้าของเนินเขาแล้วซึ่งได้มาโดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ขั้นตอนโดยอัตโนมัติแสดงให้เห็นความสัมพันธ์เชิงบวกกับความหนาแน่นถล่มทำเครื่องหมายด้วยการเรียนสูงสุด: [4.8-6.0] สำหรับกระแสและ [6.0-7.2] สำหรับ สไลด์หมุน ผลการขั้นตอนการตรวจสอบได้รับการยืนยันว่าทางเลือกของความไม่แน่นอนลักษณะดินที่มีอิทธิพลต่อผลของการวิเคราะห์ความอ่อนแอ นอกจากนี้ขั้นตอนการตรวจสอบแสดงให้เห็นว่า:) รูปแบบการพยากรณ์เป็นที่น่าพอใจโดยทั่วไป; ข) scarps และโซนขึ้นเขาจากพื้นที่มงกุฎเป็นธรณีสัณฐานที่ไม่มั่นคงมากที่สุด diagnostically, สำหรับการไหลและดินถล่มสไลด์หมุนตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประเมินภัยแผ่นดินถล่ม โดย โดยวิธีการ geostatistical , ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง แผ่นดินถล่มและกระจายเชิงพื้นที่ของปัจจัยความไม่มั่นคง บ่อย เช่น การวิเคราะห์อยู่บนพื้นฐานของดินถล่ม สินค้าคงคลัง ซึ่งในแต่ละบันทึกที่แสดงถึงพื้นที่เสถียรทั้งหมดและมีการจัดการเป็นลักษณะความโสด ในงานวิจัยนี้ดินถล่มครั้งคือการประเมินโดยศึกษาความหลากหลายของความไร้เสถียรภาพของธรณีสัณฐาน : ดินถล่ม scarps และพื้นที่ทางขึ้นจากมงกุฎ ไร้ปัจจัยคัดสรร ได้แก่ ข้อเท็จจริงการศึกษาทางธรณีวิทยาภูมิประเทศและความเปียกชื้น ความชัน , ดัชนี , ดัชนีพลังกระแส จากลักษณะความแปรปรวนทั้งหมดปัจจัย ซึ่งถูกจัดอยู่ในหน่วยเงื่อนไขเฉพาะให้เราได้รับทั้งหมดสามภาพสำหรับแต่ละการทำนายแผ่นดินถล่ม . บทบาทของปัจจัยความไม่แน่นอนและผลกระทบที่เกิดจากการใช้ธรณีสัณฐานที่แตกต่างกันโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยจาก : ) ของความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยของดินถล่ม ; ข ) อำนาจพยากรณ์ทำนาย validations ของภาพขึ้นอยู่กับกลยุทธ์พาร์ทิชันสุ่ม .

พื้นที่ทดสอบเป็น iato ลุ่มน้ำ ( เหนือตะวันตกซิซิลี ) ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการไหลและความลาดชันปานกลาง การสไลด์ดินถล่ม ( และ 28 ตามลำดับ ) พื้นที่ส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากสารประกอบเชิงซ้อนต่อไปนี้ : นูมิเดียนฟลิชดินเหนียว ( 19 % 1% ) , terravecchia ดินทราย ดินเหนียว ( 5% , 1% ) , terravecchia ทรายปนดินเหนียว ( 3 ) 0.3% ) และ ซาน cipirello มาร์ลดิน ( 9 % , 0 % )พารามิเตอร์แสดงความชันสูงสุดจากความหนาแน่นใน [ 11 ] ชั้น 19 –โดยทั้งสองรูปแบบ ( 8% , 10% ) ถ้าความหนาแน่นของการกระจายสำหรับภาพนิ่งหมุนขวาไม่สมมาตรและขวาไป เราได้รับความแตกต่างในรูปร่างเมื่อเราใช้ธรณีสัณฐานความไม่แน่นอนต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจาก scarps และพื้นที่ทางขึ้นจากจุกพื้นที่ดินถล่ม ผลิตแล้วไม่สมมาตร และความหนาแน่นของการกระจายด้านซ้ายขยับทั้งรูปแบบ . เท่าที่รู้คือ ดัชนีความกังวลมากขึ้นเด่นชัดความแตกต่างถูกตรวจพบในความไม่แน่นอนธรณีสัณฐานของภาพนิ่งการหมุน ในทางตรงกันข้ามการไหลดินถล่มผลิตปกติเช่นการกระจายความหนาแน่นหลังและหมุนสไลด์ดินถล่มพื้นที่ผลิตค่าความหนาแน่นสูงสุดในชั้นเรียน [ 5.5 – 6.7 ] แม้จะมีแนวโน้มลดลงทันทีตั้งแต่ชั้นแรก [ 3.2 – 4.4 ] ซึ่งถูกสร้างขึ้น โดยค่าความหนาแน่นของ scarps สไลด์หมุนและพื้นที่ทางขึ้นจากมงกุฎ กระแสพลังดรรชนีที่เท้าของภูเขา ซึ่งโดยอัตโนมัติได้โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์กระบวนการแสดงให้เห็นความสัมพันธ์กับดินถล่มมีเครื่องหมายสูงสุดคลาส : [ 4.8 – 6.0 ] การเคลื่อนย้ายและ 6.0 และ 7.2 ] สำหรับสไลด์การหมุน ผลการตรวจสอบยืนยันว่าทางเลือกของความไม่แน่นอนของดินมีผลต่อผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก นอกจากนี้ ขั้นตอนการตรวจสอบ พบว่า ได้แก่ ตัวแบบทำนายโดยทั่วไปจะเป็นที่พอใจb ) scarps และพื้นที่ทางขึ้นจากพื้นที่มงกุฎเป็นลักษณะดินส่วนใหญ่ diagnostically ไม่แน่นอนสำหรับการไหลของการสไลด์ดินถล่มตามลำดับ