1. Kylie Dunn decided to try one ne

1. Kylie Dunn decided to try one new activity every two months.
2. For one month, on each day, Kylie Dunn wrote a letter to someone she knew.
3. Kylie Dunn’s inspiration to change her life came from reading blogs.
4. Kylie Dunn got the idea for her first activity from Jessi Arrington’s TED Talk.
5 Kylie Dunn is continuing her project today.
6. Kylie Dunn’s talk inspired other people to try new things.
7. Chris Anderson’s view of the future is an optimistic (hopeful) one.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. Kylie ดันน์ตัดสินใจที่จะลองกิจกรรมหนึ่งใหม่ทุกสองเดือน2. สำหรับหนึ่งเดือน ในแต่ละวัน Kylie ดันน์เขียนจดหมายให้คน ที่เธอรู้ว่า3. แรงบันดาลใจ Kylie ดันน์เพื่อเปลี่ยนชีวิตของเธอมาอ่านบล็อก4. Kylie ดันน์มีแนวคิดสำหรับกิจกรรมแรกของเธอจากการพูดคุย TED Jessi Arringtonดันน์ Kylie 5 กำลังดำเนินการต่อโครงการของเธอวันนี้6. Kylie ดันน์พูดแรงบันดาลใจจากคนอื่น ๆ จะพยายามสิ่งใหม่7. ดูคริสแอนเดอร์สันในอนาคตจะเป็นส่วนหนึ่งในเชิงบวก (ความหวัง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. ไคดันน์ตัดสินใจที่จะลองกิจกรรมใหม่ทุกสองเดือน.
2 สำหรับหนึ่งเดือนในแต่ละวัน Kylie ดันน์เขียนจดหมายถึงคนที่เธอรู้ว่า.
3 แรงบันดาลใจไคดันน์ที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอมาจากการอ่านบล็อก.
4 ไคดันน์มีความคิดสำหรับกิจกรรมครั้งแรกของเธอจาก Jessi Arrington ของพูดคุย TED.
5 ไคดันน์เป็นอย่างต่อเนื่องโครงการเธอในวันนี้.
6 พูดคุยไคดันน์แรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ที่จะลองสิ่งใหม่.
7 มุมมองคริสแอนเดอร์ในอนาคตคือการมองโลกในแง่ (หวัง) อย่างใดอย่างหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ไคลี ดันตัดสินใจที่จะลองกิจกรรมใหม่ทุกสองเดือน2 . หนึ่งเดือนในแต่ละวัน ไคลี ดันน์ เขียนจดหมายถึงใครบางคนที่เธอรู้จัก3 . ของไคลี่ ดันน์ แรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอที่มาจากบล็อกอ่าน4 . ไคลี ดันมีความคิดสำหรับกิจกรรมแรกของเธอจากเจสซี่ Arrington เท็ดพูด5 ไคลี ดันเป็นโครงการต่อเนื่องของเธอวันนี้6 . ของไคลี่ ดันพูดแรงบันดาลใจจากคนอื่น ๆที่จะลองสิ่งใหม่ๆ7 . ของ Chris Anderson มุมมองของอนาคตเป็นในแง่ดี ( ความหวัง )