Our Solar System is an immense and amazing place. Between its eight pl การแปล - Our Solar System is an immense and amazing place. Between its eight pl ไทย วิธีการพูด

Our Solar System is an immense and

Our Solar System is an immense and amazing place. Between its eight planets, 176 moons, 5 dwarf planets (possibly hundreds more), 659,212 minor planets, and 3,296 known comets, it has w0nders to sate the most demanding of curiosities.
For example, the Solar System is made up of different regions, which are delineated based on their distance from the Sun, but also the types of planets and bodies that can be found within them.
In the Inner Solar System, we find the Inner Planets – Mercury, Venus, Earth, and Mars – which are so named because they orbit closest to the Sun. In addition to their proximity, these planets have a number of key differences that set them apart from planets elsewhere in the Solar System.
For starters, the inner planets are rocky and terrestrial, composed mostly of silicates and metals, whereas the outer planets are gas giants. The inner planets are also much more closely spaced than their outer Solar System counterpart. In fact, the radius of the entire region is less than the distance between the orbits of Jupiter and Saturn.
This region is also within the “frost line”, which is a little less than 5 AU (about 700 million km) from the Sun. This line represents the boundary in a system where conditions are warm enough that hydrogen compounds such as water, ammonia, and methane are able to take liquid form. Beyond the frost line, these compounds condense into ice grains.
Generally, inner planets are smaller and denser than their counterparts, and have few to no moons or rings circling them. The outer planets, meanwhile, often have dozens of satellites and rings composed of particles of ice and rock.
They are composed largely of refractory minerals, such as the silicates, which form their crusts and mantles, and metals – such as iron and nickel which form their cores. Three of the four inner planets (Venus, Earth and Mars) have atmospheres substantial enough to generate weather. All of them have impact craters and tectonic surface features as well, such as rift valleys and volcanoes.
Of the inner planets, Mercury is the closest to our Sun and the smallest of the terrestrial planets. This small planet looks very much like the Earth’s Moon and is even a similar grayish color, and it even has many deep craters and is covered by a thin layer of tiny particle silicates.
Its magnetic field is only about 1 percent that of Earth’s, and it’s very thin atmosphere means that it is during the day (up to 430°C) and freezing at night (as low as -187 °C) because the atmosphere can neither keep heat in or out. It has no moons of its own and, comprised mostly of iron and nickel, is one of the densest planets in the Solar System.
Venus, which is about the same size as Earth, has a thick toxic atmosphere that traps heat, making it the hottest planet in the solar system. This atmosphere is composed of various gases, including carbon dioxide, which transforms the planet into a raging storm. Much of its surface is marked with volcanoes and deep canyons — the biggest of which is over 6400 km (4,000 mi) long.
Only two spacecraft have ever penetrated Venus’s thick atmosphere, but it’s not just man-made objects that have trouble getting through. There are fewer crater impacts on Venus than other planets because all but the largest meteors can’t make it through the thick air. Venus is often called the morning star because, with the exception of Earth’s moon, it’s the brightest object in the sky. Like Mercury, it also has no moon of its own.
Earth is the third inner planet and the one we know best. Of the four terrestrial planets, Earth is the largest, and the only one that has liquid water, which is necessary for life as we know it. Earth’s atmosphere protects the planet from dangerous radiation and helps keep valuable sunlight in, which is also essential for life to survive.
Like the other terrestrial planets, Earth has a rocky surface with mountains and canyons, and a heavy metal core. Earth’s atmosphere contains water vapor, which helps to moderate daily temperatures. Like Mercury, the Earth has an internal magnetic field. And our moon, the only one we have, is comprised of a mixture of various rocks and minerals.
Mars is the fourth and final inner planet, and also known as the “Red Planet” due to the rust of iron-rich materials that form the planet’s surface. Mars also has some of the most interesting terrain features of any of the terrestrial planets. These include the largest mount in the Solar System – Olympus Mons, which rises some 21,229 m (69,649 ft) above the surface.
Much of the surface is very old and filled with craters, but there are geologically newer areas of the planet as well. At the Martian poles are polar ice caps that shrink in size during the Martian spring and summer. Mars is less dense than Earth and has a smaller magnetic field, which is indicative of a solid core, rather than a liquid one
Mars’ thin atmosphere has led some astronomers to believe that the surface water that once existed there might have actually taken liquid form, and has since leaked into space. The planet has two small moons called Phobos and Deimos. One of Mars’ best-known features is its network of canals and canyons that led many to believe there was even a civilization on this planet.
Beyond Mars are the four outer planets: Jupiter, Saturn, Uranus, and Neptune.
If you are looking for more information, check out this article from NASA on the planets of the Solar System and this article from Solstation about the inner planets.
Universe Today has numerous articles on the inner planets including the planets of the inner Solar System as well as a detailed breakdown of all the planets in the Solar System.
Astronomy Cast also has episodes on all of the inner planets including this one about Mercury.



0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ระบบสุริยะของเราเป็นสถานที่อันยิ่งใหญ่ และตื่นตาตื่นใจ ระหว่างดาวเคราะห์แปด 176 ข้อดวงจันทร์ 5 แคระดาวเคราะห์ (ร้อยอาจเพิ่มเติม), ดาวเคราะห์วิชารอง 659,212 และ 3,296 รู้จักดาวหาง มี w0nders ให้ sate ต้องห้องสารภัณฑ์ตัวอย่าง ระบบสุริยะถูกสร้างขึ้นจากภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งมี delineated ตามระยะที่ห่างจากดวงอาทิตย์ แต่ชนิดของดาวเคราะห์และร่างกายที่สามารถพบได้ในพวกเขาในภายในระบบสุริยะ เราค้นหาดาวเคราะห์ภายใน –พุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร – ซึ่งดังนั้นการตั้งชื่อเนื่องจากพวกเขาโคจรใกล้ดวงอาทิตย์ นอกจากความใกล้ชิด ดาวเคราะห์เหล่านี้มีจำนวนความแตกต่างสำคัญที่เหล่าดาวเคราะห์อื่น ๆ ในระบบสุริยะการเริ่ม ดาวเคราะห์ภายในมีหิน และ ภาคพื้น ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของ silicates และโลหะ ในขณะที่ดาวเคราะห์รอบนอกเป็นก๊าซยักษ์ ดาวเคราะห์ภายในยังมีลที่มากขึ้นอย่างใกล้ชิดมากกว่ากันของระบบภายนอก ในความเป็นจริง รัศมีของทั้งภูมิภาคไม่น้อยกว่าระยะห่างระหว่างวงโคจรของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ภูมิภาคนี้ยังเป็น "น้ำแข็งบรรทัด" ซึ่งเป็นเพียงเล็กน้อยน้อยกว่า 5 AU (ประมาณ 700 ล้านกิโลเมตร) จากดวงอาทิตย์ บรรทัดนี้แสดงถึงขอบเขตในระบบซึ่งเงื่อนไขจะอุ่นพอที่ไฮโดรเจนสารประกอบเช่นน้ำ แอมโมเนีย และมีเทนจะสามารถใช้แบบฟอร์มสภาพคล่อง นอกเหนือจากรายการน้ำแข็ง สารประกอบเหล่านี้บีบลงในน้ำแข็งธัญพืชโดยทั่วไป ดาวเคราะห์ภายในเล็ก และ denser กว่าคู่ของพวกเขา และมีไม่กี่ดวงจันทร์หรือวง circling พวกเขาไม่ ดาวเคราะห์รอบนอก ในขณะเดียวกัน มักจะมีหลายสิบของดาวเทียม และวงแหวนประกอบด้วยอนุภาคน้ำแข็งและหินจะประกอบด้วยส่วนใหญ่แร่ refractory เช่น silicates ซึ่ง crusts ของพวกเขา และ mantles และ โลหะเหล็กและนิกเกิลที่เป็นแกนของพวกเขา สามดาวเคราะห์ภายในสี่ (ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร) ได้บรรยากาศสำคัญพอสร้างสภาพอากาศ ทั้งหมดมีปิศาจและคุณลักษณะของพื้นผิวเคลื่อนเช่น เช่นหุบเขาริฟท์และภูเขาดาวพุธจะไม่ใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ของเราและเล็กที่สุดของดาวเคราะห์คล้ายของดาวเคราะห์ภายใน ดาวเคราะห์ขนาดเล็กนี้ดูมากเช่นดวงจันทร์ และเป็นแม้กระทั่งสีเงิน คล้าย และแม้มีหลายลังลึก และถูกปกคลุม ด้วยชั้นบาง ๆ ของ silicates อนุภาคเล็ก ๆของสนามแม่เหล็กมีเพียงประมาณร้อยละ 1 ที่ของโลก และมันมากบางหมายถึงบรรยากาศที่มันในระหว่างวัน (ถึง 430° C) และแช่แข็งในเวลากลางคืน (ต่ำสุด-187 ° C) เนื่องจากบรรยากาศสามารถไม่เก็บความร้อน หรือออก มีดวงจันทร์ไม่มีของตัวเอง และ ของเหล็กและนิกเกิลเป็นส่วนใหญ่ เป็นหนึ่งใน densest ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะวีนัส ซึ่งเป็นเกี่ยวกับขนาดเดียวกันกับโลก มีบรรยากาศเป็นพิษหนาที่กับดักความร้อน ทำให้โลกร้อนแรงที่สุดในระบบสุริยะ บรรยากาศประกอบด้วยก๊าซต่าง ๆ รวมทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ การเปลี่ยนโลกในพายุโกรธกัน ของพื้นผิวถูกทำเครื่องหมาย ด้วยภูเขาและหุบเขาลึก – เป็นกว่า 6400 กิโลเมตร (4000 mi) ใหญ่ที่สุดที่ยานอวกาศเพียงสองเคยมีอวัยวะบรรยากาศของดาวศุกร์หนา แต่ก็ไม่เพียงแค่จำลองวัตถุที่มีปัญหาในการผ่าน มีน้อยกว่าปล่องภูเขาไฟส่งผลกระทบต่อดาวศุกร์มากกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ เนื่องจากทั้งหมด แต่อุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดไม่ให้มันผ่านอากาศหนา ดาวศุกร์มักจะถูกเรียกว่ามอร์นิ่งสตาร์เนื่องจาก ยกเว้นดวงจันทร์ของโลก เป็นวัตถุสว่างมากที่สุดในท้องฟ้า เช่นปรอท มันยังมีดวงจันทร์ไม่มีของตัวเองโลกเป็นดาวเคราะห์ภายในสามและหนึ่งที่เรารู้ดีที่สุด ของดาวเคราะห์คล้ายสี่ โลกเป็นใหญ่ที่สุด และเพียงหนึ่งเดียวที่มีน้ำของเหลว ซึ่งจำเป็นสำหรับชีวิตเรารู้ บรรยากาศของโลกช่วยปกป้องโลกจากรังสีอันตรายและช่วยให้มีแสง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตเพื่อความอยู่รอดเช่นอื่น ๆ คล้ายดาวเคราะห์ โลกมีพื้นผิวหินภูเขา และหุบเขา และโลหะหนักหลัก บรรยากาศของโลกประกอบด้วยไอน้ำ ซึ่งช่วยบรรเทาอุณหภูมิทุกวัน เช่นปรอท โลกมีสนามแม่เหล็กฟิลด์ภายใน และดวงจันทร์ของเรา เพียงหนึ่งเดียวที่เรามี ประกอบด้วยส่วนผสมของหินและแร่ธาตุต่าง ๆดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ภายในสี่ และสุดท้าย และเรียกอีกอย่างว่า "ดาวแดง" เนื่องจากสนิมเหล็กรวยวัสดุที่พื้นผิวของดาวเคราะห์ ดาวอังคารยังมีของน่าสนใจภูมิประเทศของดาวเคราะห์คล้าย เหล่านี้มีภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะโอลิมปัสมอนส์ ซึ่งเพิ่มขึ้นบาง 21,229 เมตร (69,649 ฟุต) เหนือพื้นผิวมากผิวจะเก่ามาก และเต็มไป ด้วยลัง แต่มีพื้นที่ geologically ใหม่ของดาวเคราะห์เช่น ที่หลบ เสามีหมวกน้ำแข็งขั้วโลกที่หดขนาดระหว่างดาวอังคารฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ดาวอังคารมีความหนาแน่นน้อยกว่าโลก และมีเขตสนามแม่เหล็กขนาดเล็ก ซึ่งส่อหลักแข็ง มากกว่าหนึ่งของเหลวบรรยากาศของดาวอังคารบางได้นำบางนักดาราศาสตร์เชื่อว่า น้ำผิวดินที่เคยอยู่มีอาจมีนำฟอร์มของเหลว และตั้งแต่ได้หลุดเข้าไปในพื้นที่ โลกได้ดวงจันทร์ขนาดเล็ก 2 ที่เรียกว่าโฟบอสและดีมอส ลักษณะการทำงานสัญลักษณ์ของดาวอังคารคือเครือข่ายของคลอง และหุบเขาที่หลายคนเชื่อว่า มีแต่อารยธรรมบนโลกนี้นอกเหนือจากดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์รอบนอกสี่: ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และการหากคุณกำลังมองหาข้อมูลเพิ่มเติม ตรวจสอบบทความนี้จาก NASA บนดาวเคราะห์ของระบบสุริยะและบทความนี้จาก Solstation เกี่ยวกับดาวเคราะห์ภายในจักรวาลวันนี้มีบทความจำนวนมากอยู่ภายในดาวเคราะห์รวมทั้งดาวเคราะห์ของระบบสุริยะภายในรวมทั้งการแบ่งรายละเอียดของดาวเคราะห์ทั้งหมดในระบบสุริยะดารานักแสดงยังตอนบนทั้งหมดของดาวเคราะห์ภายในรวมถึงนี้เกี่ยวกับดาวพุธ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Our Solar System is an immense and amazing place. Between its eight planets, 176 moons, 5 dwarf planets (possibly hundreds more), 659,212 minor planets, and 3,296 known comets, it has w0nders to sate the most demanding of curiosities.
For example, the Solar System is made up of different regions, which are delineated based on their distance from the Sun, but also the types of planets and bodies that can be found within them.
In the Inner Solar System, we find the Inner Planets – Mercury, Venus, Earth, and Mars – which are so named because they orbit closest to the Sun. In addition to their proximity, these planets have a number of key differences that set them apart from planets elsewhere in the Solar System.
For starters, the inner planets are rocky and terrestrial, composed mostly of silicates and metals, whereas the outer planets are gas giants. The inner planets are also much more closely spaced than their outer Solar System counterpart. In fact, the radius of the entire region is less than the distance between the orbits of Jupiter and Saturn.
This region is also within the “frost line”, which is a little less than 5 AU (about 700 million km) from the Sun. This line represents the boundary in a system where conditions are warm enough that hydrogen compounds such as water, ammonia, and methane are able to take liquid form. Beyond the frost line, these compounds condense into ice grains.
Generally, inner planets are smaller and denser than their counterparts, and have few to no moons or rings circling them. The outer planets, meanwhile, often have dozens of satellites and rings composed of particles of ice and rock.
They are composed largely of refractory minerals, such as the silicates, which form their crusts and mantles, and metals – such as iron and nickel which form their cores. Three of the four inner planets (Venus, Earth and Mars) have atmospheres substantial enough to generate weather. All of them have impact craters and tectonic surface features as well, such as rift valleys and volcanoes.
Of the inner planets, Mercury is the closest to our Sun and the smallest of the terrestrial planets. This small planet looks very much like the Earth’s Moon and is even a similar grayish color, and it even has many deep craters and is covered by a thin layer of tiny particle silicates.
Its magnetic field is only about 1 percent that of Earth’s, and it’s very thin atmosphere means that it is during the day (up to 430°C) and freezing at night (as low as -187 °C) because the atmosphere can neither keep heat in or out. It has no moons of its own and, comprised mostly of iron and nickel, is one of the densest planets in the Solar System.
Venus, which is about the same size as Earth, has a thick toxic atmosphere that traps heat, making it the hottest planet in the solar system. This atmosphere is composed of various gases, including carbon dioxide, which transforms the planet into a raging storm. Much of its surface is marked with volcanoes and deep canyons — the biggest of which is over 6400 km (4,000 mi) long.
Only two spacecraft have ever penetrated Venus’s thick atmosphere, but it’s not just man-made objects that have trouble getting through. There are fewer crater impacts on Venus than other planets because all but the largest meteors can’t make it through the thick air. Venus is often called the morning star because, with the exception of Earth’s moon, it’s the brightest object in the sky. Like Mercury, it also has no moon of its own.
Earth is the third inner planet and the one we know best. Of the four terrestrial planets, Earth is the largest, and the only one that has liquid water, which is necessary for life as we know it. Earth’s atmosphere protects the planet from dangerous radiation and helps keep valuable sunlight in, which is also essential for life to survive.
Like the other terrestrial planets, Earth has a rocky surface with mountains and canyons, and a heavy metal core. Earth’s atmosphere contains water vapor, which helps to moderate daily temperatures. Like Mercury, the Earth has an internal magnetic field. And our moon, the only one we have, is comprised of a mixture of various rocks and minerals.
Mars is the fourth and final inner planet, and also known as the “Red Planet” due to the rust of iron-rich materials that form the planet’s surface. Mars also has some of the most interesting terrain features of any of the terrestrial planets. These include the largest mount in the Solar System – Olympus Mons, which rises some 21,229 m (69,649 ft) above the surface.
Much of the surface is very old and filled with craters, but there are geologically newer areas of the planet as well. At the Martian poles are polar ice caps that shrink in size during the Martian spring and summer. Mars is less dense than Earth and has a smaller magnetic field, which is indicative of a solid core, rather than a liquid one
Mars’ thin atmosphere has led some astronomers to believe that the surface water that once existed there might have actually taken liquid form, and has since leaked into space. The planet has two small moons called Phobos and Deimos. One of Mars’ best-known features is its network of canals and canyons that led many to believe there was even a civilization on this planet.
Beyond Mars are the four outer planets: Jupiter, Saturn, Uranus, and Neptune.
If you are looking for more information, check out this article from NASA on the planets of the Solar System and this article from Solstation about the inner planets.
Universe Today has numerous articles on the inner planets including the planets of the inner Solar System as well as a detailed breakdown of all the planets in the Solar System.
Astronomy Cast also has episodes on all of the inner planets including this one about Mercury.



การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ระบบสุริยะของเราเป็นสถานที่อันยิ่งใหญ่และน่าทึ่ง ระหว่างแปดดาวเคราะห์ดวงจันทร์ดาวเคราะห์แคระ , 176 , 5 ( อาจจะอีกหลายร้อย ) , 659212 ดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง 3296 รู้จักมันได้ w0nders ผลิตความต้องการมากที่สุดของวิทยากร .
ตัวอย่างเช่นระบบพลังงานแสงอาทิตย์ถูกสร้างขึ้นในเขตต่างๆ ซึ่งจะอธิบายได้ตามระยะทางของพวกเขาจากดวงอาทิตย์แต่ประเภทของดาวเคราะห์และร่างกายที่สามารถพบได้ภายในพวกเขา .
ในระบบสุริยะชั้นใน เราพบ ดาวเคราะห์ชั้นในและ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร – ซึ่งเป็นดังนั้นชื่อเพราะพวกเขาโคจรใกล้ดวงอาทิตย์ นอกจากความใกล้ชิดของดาวเคราะห์เหล่านี้มีจำนวนของคีย์ที่แตกต่าง ที่พวกเขาตั้งนอกเหนือจากดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะ
สำหรับผู้เริ่มต้นดาวเคราะห์ชั้นใน เป็นหินและพื้นดินประกอบด้วยส่วนใหญ่ของซิลิเกตและโลหะ ส่วนดาวเคราะห์ชั้นนอกเป็นก๊าซยักษ์ . ดาวเคราะห์ชั้นในยังมีมากขึ้นอย่างใกล้ชิดระยะห่างกว่าตนนอกระบบสุริยะคู่ ในความเป็นจริง รัศมีของพื้นที่ทั้งหมดน้อยกว่าระยะห่างระหว่างวงโคจรของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์
ภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ภายใน " น้ำค้างแข็งบรรทัด "ซึ่งเป็นเพียงเล็กน้อยน้อยกว่า 5 หน่วยดาราศาสตร์ ( ประมาณ 700 ล้านกม. ) จากดวงอาทิตย์ บรรทัดนี้แสดงถึงขอบเขตในระบบที่อากาศอุ่นพอไฮโดรเจนสารประกอบ เช่น น้ำ แอมโมเนีย และมีเทนสามารถใช้รูปแบบของเหลว นอกจากน้ำค้างแข็งบรรทัด สารประกอบเหล่านี้กลั่นตัวเป็นเม็ดน้ำแข็ง
โดยดาวเคราะห์ชั้นในมีขนาดเล็กและหนาแน่นกว่าคู่ของพวกเขาและมีเพียงไม่กี่ที่จะไม่มีดวงจันทร์ หรือ แหวนวงนั้น ดาวเคราะห์ชั้นนอกซึ่งมักจะมีหลายสิบของดาวเทียมและแหวนประกอบด้วยอนุภาคของน้ำแข็งและหิน พวกเขาจะประกอบด้วยส่วนใหญ่ของ
แร่ทนไฟ เช่น ซิลิเกต ซึ่งรูปแบบของพวกเขาและขอบอับอายขายหน้า และโลหะ เช่น เหล็กและนิกเกิล และแบบฟอร์มที่แกนของพวกเขา สามสี่ภายในดาวเคราะห์ ( ดาวศุกร์โลกและดาวอังคาร ) มีมากเพียงพอที่จะสร้างบรรยากาศ สภาพอากาศ ทั้งหมดของพวกเขามีหลุมอุกกาบาตกระทบพื้นผิวเปลือกโลกและคุณสมบัติเช่นหุบเขารอยแยกและภูเขาไฟ .
ของดาวเคราะห์ชั้นใน ดาวพุธเป็นใกล้ดวงอาทิตย์ของเรา และเล็กที่สุดของดาวเคราะห์โลก . ใบเล็กนี้ดูมากเช่นของดวงจันทร์โลกและแม้แต่คล้ายสีเทาสีและแม้แต่มีหลุมลึกมาก และปกคลุมด้วยชั้นบาง ๆของซิลิเกตอนุภาคเล็ก ๆ .
สนามแม่เหล็กของมันเป็นเพียงประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของโลก และมันบางมาก บรรยากาศดี หมายความว่า ในระหว่างวัน ( ถึง 430 ° C ) และหนาวในตอนกลางคืน ( ่ - 187 เมตร c ) เพราะบรรยากาศไม่เก็บความร้อนข้างในหรือข้างนอก มันไม่มีดาวบริวารของตัวเองและประกอบด้วยส่วนใหญ่ของเหล็กและนิกเกิลเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์หนาแน่นที่สุดในระบบสุริยะ
ดาวศุกร์ซึ่งเป็นเกี่ยวกับขนาดเดียวกับโลก มีชั้นบรรยากาศที่หนาพิษดักความร้อนทำให้ดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดในระบบสุริยะ บรรยากาศนี้ประกอบด้วยก๊าซต่างๆ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งแปลงโลกให้เป็นที่บ้าคลั่งพายุมากของพื้นผิวที่ถูกทำเครื่องหมายด้วยภูเขาไฟและหุบเขาลึก - ที่ใหญ่ที่สุดของซึ่งเป็นมากกว่า 6 , 400 กิโลเมตร ( 4 , 000 ไมล์ ) ยาว
2 ยานอวกาศเคยเจาะหนา บรรยากาศของดาวศุกร์ แต่มันไม่ใช่วัตถุเพียงธรรมชาติที่มีปัญหาในการรับผ่าน มีน้อยปล่องภูเขาไฟผลกระทบบนดาวศุกร์กว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นเพราะอุกกาบาตใหญ่ทั้งหมด แต่ไม่สามารถทำให้มันผ่านอากาศหนาดาวศุกร์ เรียกว่าดาวรุ่งเพราะมีข้อยกเว้นของโลก ดวงจันทร์เป็นวัตถุที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า เหมือนปรอท มันยังไม่มีดวงจันทร์ของตัวเอง .
โลกที่สามภายในโลกและที่เราว่าดีที่สุด ทั้งสี่ของโลกเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นคนเดียวที่ได้น้ำเหลว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่เรารู้ว่ามันชั้นบรรยากาศของโลกช่วยปกป้องโลกจากรังสีที่เป็นอันตรายและช่วยให้แสงแดดที่มีคุณค่า ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตเพื่อความอยู่รอด
ชอบอื่น ๆบนดาวเคราะห์ โลกมีพื้นผิวหินที่มีภูเขาและหุบเขา และมีแกนโลหะหนัก บรรยากาศของโลกประกอบด้วยไอน้ำ ซึ่งช่วยบรรเทาอุณหภูมิรายวัน เหมือนปรอทโลกมีสนามแม่เหล็กภายใน และดวงจันทร์ของเราคนเดียว เราต้องประกอบด้วยส่วนผสมของหินต่างๆ และ แร่ธาตุ
ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่สี่และสุดท้ายภายใน และยังเป็นที่รู้จักในฐานะ " ดาวเคราะห์สีแดง " เนื่องจากสนิมเหล็กที่อุดมไปด้วยรูปแบบวัสดุที่พื้นผิวของดาวเคราะห์ ดาวอังคารก็มีบางส่วนของภูมิประเทศที่น่าสนใจที่สุดของใด ๆ คุณสมบัติของดาวเคราะห์โลก .เหล่านี้รวมถึงภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ – โอลิมปัส มอนส์ที่เพิ่มขึ้นบางส่วน 21229 m ( 69649 ฟุต ) เหนือพื้นผิว .
มากของพื้นผิวเก่ามากและเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาต แต่จะมีพื้นที่ใหม่ geologically ของโลกเช่นกัน ที่ดาวอังคารเสาน้ำแข็งที่ขั้วโลกของดาวอังคาร ย่อขนาดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนดาวอังคารมีความหนาแน่นน้อยกว่าและเล็กกว่าโลกมีสนามแม่เหล็ก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหลักแข็งมากกว่าของเหลว 1
' ดาวอังคารบางบรรยากาศ ทำให้บางนักดาราศาสตร์เชื่อว่า น้ำผิวดินที่เคยอยู่ตรงนั้น อาจจะถ่ายรูปของเหลว และมีตั้งแต่รั่วไหลลงในช่องว่าง โลกมีดวงจันทร์โฟบอสกับไดมอสเรียกเล็ก 2 .หนึ่งของดาวอังคารที่มีชื่อเสียงคุณลักษณะเป็น เครือข่ายของคลองและหุบเขาที่นำมากมายที่จะเชื่อว่ามีอารยธรรมบนโลก ดาวอังคารมี
นอกเหนือจากดาวเคราะห์ชั้นนอก : ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน .
ถ้าคุณกำลังมองหาข้อมูลเพิ่มเติม , ตรวจสอบบทความนี้ จาก NASA บนดาวเคราะห์ของ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์และบทความนี้ จาก solstation เกี่ยวกับดาวเคราะห์ชั้นใน
วันนี้จักรวาลได้บทความจำนวนมากบนดาวเคราะห์ชั้นในได้แก่ดาวเคราะห์ระบบสุริยะชั้นใน รวมทั้งการแบ่งรายละเอียดของดาวเคราะห์ทั้งหมดในระบบสุริยะ ดาราศาสตร์หล่อ
ยังมีตอนทั้งหมดของดาวเคราะห์ชั้นใน รวมทั้งเรื่องปรอท .



การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: