Prospective and working memoryAs we

Prospective and working memory
As we age, slight increases in episodic prospective memory
loss (e.g. occasionally forgetting to keep an appointment)
become more prevalent (Ba¨ckman et al. 2004, Guimond
et al. 2006). Kliegel and Ja¨ger (2006) examined prospective
and working memory among four age-groupings (n = 127),
separating older adults by 10-year groupings from age 60 to
91 years; the data derived were then compared to those from
a group of younger people ranging from age 22 to 31 years.
The results of Kliegel and Ja¨ ger’s research revealed a statistically
significant decline in prospective memory among the
older age groups, with a steady decrease noted between
groups as age increased. Interestingly, these researchers found
that through limiting demands on working memory and allowing participants to rehearse or focus, prospective
memory performance actually improved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คาดหวังและการทำงานหน่วยความจำเป็นเรา อายุ เล็กน้อยที่เพิ่มขึ้นในอนาคตจำ episodicขาดทุน (เช่นบางครั้งลืมให้นัดหมาย)เป็นการ แพร่หลายมากขึ้น (Ba¨ckman et al. 2004, Guimondร้อยเอ็ด al. 2006) Kliegel และ Ja¨ger (2006) ตรวจสอบเป้าหมายและหน่วยความจำทำงานระหว่างอายุกลุ่มที่ 4 (n = 127),แยกผู้ใหญ่เก่า โดยจัดกลุ่ม 10 ปีจากอายุ 60 ไปปี 91 ได้ข้อมูลมาแล้วเปรียบเทียบจากกลุ่มคนอายุตั้งแต่อายุ 22-31 ปีผลการวิจัยของ Kliegel และ Ja¨ เกออาร์ตเป็นที่เปิดเผยเป็นทางสถิติลดลงอย่างมีนัยสำคัญในหน่วยความจำที่มีแนวโน้มในการกลุ่มอายุเก่า กับ steady การลดตามระหว่างกลุ่มตามอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นเรื่องน่าสนใจ นักวิจัยเหล่านี้พบจำกัดกล่าวถึงความต้องการในการทำงานหน่วยความจำ และช่วยให้ผู้เข้าร่วมทดสอบ หรือ โฟกัส อนาคตประสิทธิภาพของหน่วยความจำดีขึ้นจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หน่วยความจำและการทำงานในอนาคตขณะที่เราอายุเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในหลักการหน่วยความจำที่คาดหวังการสูญเสีย( กลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น et al. 2006) Kliegel การตรวจสอบในอนาคตหน่วยความจำและการทำงานในกลุ่มอายุสี่กลุ่ม( แยกผู้สูงอายุโดยการจัดกลุ่ม 91 Prospective and working memory
As we age, slight increases in episodic prospective memory
loss (e.g. occasionally forgetting to keep an appointment)
become more prevalent (Ba¨ckman et al. 2004, Guimond
et al. 2006). Kliegel and Ja¨ger (2006) examined prospective
and working memory among four age-groupings (n = 127),
separating older adults by 10-year groupings from age 60 to
91 years; the data derived were then compared to those from
a group of younger people ranging from age 22 to 31 years.
The results of Kliegel and Ja¨ ger’s research revealed a statistically
significant decline in prospective memory among the
older age groups, with a steady decrease noted between
groups as age increased. Interestingly, these researchers found
that through limiting demands on working memory and allowing participants to rehearse or focus, prospective
memory performance actually improved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อนาคตและหน่วยความจำทำงาน
เราอายุเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตอนอนาคตความทรงจำ
การสูญเสีย ( เช่นบางครั้งลืมที่จะเก็บนัด )
กลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ( BA ตั้ง ckman et al . 2004 guimond
et al . 2006 ) kliegel และจาตั้ง GER ( 2006 ) ตรวจสอบอนาคต
และหน่วยความจำในการทำงานสี่อายุการจัดกลุ่ม ( n = 127 )
แยกผู้สูงอายุโดยกลุ่ม 10 ปีจากอายุ 91 ปี 60

;ข้อมูล แล้วเปรียบเทียบกับจาก
กลุ่มของน้องคนตั้งแต่อายุ 22 ถึง 35 ปี
ผล kliegel และจาตั้ง GER Research เปิดเผยสถิติอย่างมีนัยสำคัญลดลงในความทรงจำ

อายุคาดหวังของกลุ่มกับการลดลงคงที่ไว้ระหว่าง
กลุ่มตามอายุที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นักวิจัยเหล่านี้พบ
ที่ผ่านการเรียกร้องในหน่วยความจำการทำงาน และให้ผู้เข้าร่วมฝึกซ้อม หรือเน้นประสิทธิภาพหน่วยความจำในอนาคต
จริงขึ้น