IntroductionJob Design in the Funct

Introduction
Job Design in the Functionalist Paradigm
Job design is defined as “the application of motivational theories to the structure
of work for improving productivity and satisfaction” (Daft, 1994: 530). Job design has
also been defined as “the process by which managers decide individual job tasks and
authority” (Gibson, Ivancevich & Donnelly, 1994: 505). The meaning derived from
these definitions refers to job design as something that is used and decided upon by
managers of the organization. For purposes of this paper we will look at how researchers
study job design and how organizations have used job design analysis.
Researchers analyzing job design from the functionalist perspective rely on
gathering information through instruments or tools such as the Job Diagnostic Survey
(Hackman & Oldham, 1975) and the Multimethod Job Design Questionnaire (Campion &
Thayer, 1985). The results obtained depend on quantifying the responses from workers
prompted by the JDS and JFDQ instruments. The tools used to analyze job design
attempt to tap the worker’s outlook on his or her job through a method couched in the
scientific method. It is interesting that these tools come from long established beliefs
about the instrumentality of organizations. Morgan (1997: 15) states that because of the
Industrial Revolution, it’s the organization’s dependence on tools and machines that
required organizations to adapt to the needs of the machines. Thus the information from
these tools that was obtained from workers is systematically calculated to produce a
“score” which is then used to make predictions about outcomes. Such outcomes
generated are employee motivation and satisfaction that are important to the organization.
The management or dominant coalition of an organization places a high level of meaning
to these outcomes because such phenomena as motivation and satisfaction are assumed to
influence organizational performance.
It is the organization’s performance that drives management or the dominant
coalition to place emphasis on the information received from job design analysis.
Management is interested in the motivation and satisfaction of the workers because the
workers’ performance is the means by which organizational goals can be achieved. The
performance of the organization may also ultimately reflect on management’s ability to
effectively manage employees and maintain smooth operations of the organization. So to
the extent that management can utilize information that may affect the organization’s
performance, job design analysis plays an important role in constructing an essential part
of that information.
Job Design from an Interpretivist’s Perspective
The interpretivist’s perspective strives to obtain understanding about how an
individual comes to have their knowledge. The interpretivist paradigm’s history stems
from the German idealist tradition maintaining that reality is found in the spirit or idea
rather than in the data of sense perception (Burrell & Morgan, 1979).
The interpretivist researcher, however, much more than the functionalist
researcher concentrates on a framework centering on the participants and how the
participants make sense of the world around them. Another characteristic of the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การออกแบบการแนะนำ
งานในการออกแบบกระบวนทัศน์ functionalist
งานหมายถึง "การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างแรงบันดาลใจกับโครงสร้าง
ทำงานสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและความพึงพอใจ" (บ้า, 1994: 530) ออกแบบงานได้
นอกจากนี้ยังหมายถึง "กระบวนการที่ผู้บริหารตัดสินใจงานงานบุคคลและผู้มีอำนาจ
" (gibson, Ivancevich & Donnelly, 1994: 505) ความหมายที่มาจาก
คำนิยามเหล่านี้หมายถึงการออกแบบงานเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้และตัดสินใจโดย
ผู้จัดการขององค์กร สำหรับวัตถุประสงค์ของบทความนี้เราจะดูที่วิธีการออกแบบวิจัย
งานการศึกษาและวิธีการที่องค์กรมีการใช้การวิเคราะห์การออกแบบงาน.
นักวิจัยวิเคราะห์การออกแบบงานจากมุมมอง functionalist พึ่งพา
การรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือหรือเครื่องมือเช่นงานสำรวจวินิจฉัย
(คนขับรถแท็กซี่& oldham, 1975) และ multimethod งานออกแบบแบบสอบถาม (เปี้ยน&
เธเออร์, 1985) ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณการตอบสนองจากคนงาน
รับแจ้งจาก jds และเครื่องมือ jfdq เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์การออกแบบงาน
พยายามที่จะแตะที่มุมมองของคนงานในงานของเขาหรือเธอด้วยวิธีการในสำนวน
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นที่น่าสนใจว่าเครื่องมือเหล่านี้มาจากความเชื่อที่จัดตั้งขึ้นยาว
เกี่ยวกับการเป็นเครื่องมือขององค์กร มอร์แกน (1997: 15) กล่าวว่าเนื่องจาก
ปฏิวัติอุตสาหกรรมก็พึ่งพาอาศัยกันขององค์กรเกี่ยวกับเครื่องมือและเครื่องที่
องค์กรจำเป็นต้องมีการปรับให้เข้ากับความต้องการของเครื่อง ดังนั้นข้อมูลจาก
เครื่องมือเหล่านี้ที่ได้รับมาจากคนงานที่มีการคำนวณอย่างเป็นระบบในการผลิต
"คะแนน" ซึ่งถูกนำมาใช้แล้วจะทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับผล ผลลัพธ์ดังกล่าว
สร้างเป็นแรงจูงใจของพนักงานและความพึงพอใจที่มีความสำคัญกับองค์กร
.บริหารหรือรัฐบาลที่โดดเด่นขององค์กรที่วางระดับสูงของความหมาย
ไปสู่​​ผลลัพธ์เหล่านี้เพราะปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นแรงจูงใจและความพึงพอใจจะถือว่า
อิทธิพลปฏิบัติงานขององค์กร.
มันเป็นผลการดำเนินงานขององค์กรที่ผลักดันการจัดการหรือที่โดดเด่น
รัฐบาลจะให้ความสำคัญ ข้อมูลที่ได้รับจากการวิเคราะห์การออกแบบงาน.
การจัดการมีความสนใจในการสร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจของคนงานเพราะประสิทธิภาพ
แรงงานเป็นวิธีการที่เป้าหมายขององค์กรสามารถทำได้
ประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรในที่สุดก็อาจสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของผู้บริหารในการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
พนักงานและบำรุงรักษาดำเนินงานที่ราบรื่นขององค์กร เพื่อ
เท่าที่การจัดการสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อ
ประสิทธิภาพให้กับองค์กรการวิเคราะห์การออกแบบงานที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างส่วนสำคัญ
ของข้อมูลที่.
ออกแบบงานจากมุมมอง interpretivist ของ
มุมมอง interpretivist ที่มุ่งมั่นที่จะได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ
บุคคลมาถึงการมีความรู้ของพวกเขาประวัติศาสตร์กระบวนทัศน์ interpretivist ของลำต้น
จากประเพณีอุดมการณ์เยอรมันที่ยังคงรักษาความเป็นจริงที่พบในจิตวิญญาณหรือความคิด
มากกว่าในข้อมูลของความรู้สึกการรับรู้ (เบอร์เรล&มอร์แกน, 1979).
วิจัย interpretivist แต่มากขึ้นกว่า functionalist
นักวิจัยมุ่งเน้นที่ตรงกลางกรอบในการเข้าร่วมและวิธี
ผู้เข้าร่วมให้ความรู้สึกของโลกรอบตัวพวกเขา ลักษณะของอื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แนะนำ
ออกแบบงานในกระบวนทัศน์ Functionalist
งานออกแบบถูกกำหนดเป็น "การประยุกต์ทฤษฎีหัดโครงสร้าง
งานปรับปรุงประสิทธิภาพและความพึงพอใจ" (Daft, 1994:530) ออกแบบงานได้
ยัง ถูกกำหนดเป็น "กระบวนการที่ผู้บริหารตัดสินใจว่า แต่ละงาน และ
อำนาจ" (กิบสัน Ivancevich & Donnelly, 1994:505) ความหมายมาจาก
ข้อกำหนดเหล่านี้ถึงออกแบบงานเป็นสิ่งที่ใช้ และตัดสินใจตามด้วย
ผู้บริหารขององค์กร สำหรับวัตถุประสงค์ของเอกสารนี้ เราจะดูว่านักวิจัย
ศึกษางานออกแบบและว่าองค์กรได้ใช้งานออกแบบวิเคราะห์งาน
พึ่งนักวิจัยวิเคราะห์งานออกแบบจากมุมมองผลงาน
รวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือหรือเครื่องมือเช่นแบบสำรวจวินิจฉัยงาน
(Hackman & Oldham, 1975) และ Multimethod งานออกแบบแบบสอบถาม (Campion &
ท่าที 1985) ผลได้รับขึ้นอยู่กับ quantifying ตอบสนองจากแรง
รับแจ้งจากเครื่อง JDS และ JFDQ เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์งานออกแบบ
พยายามเคาะ outlook ของผู้ปฏิบัติงานบนเขา หรืองานของเธอโดยใช้วิธีการ couched ในการ
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นที่น่าสนใจว่า เครื่องมือเหล่านี้มาจากความเชื่อที่สร้างไว้นาน
เกี่ยวกับ instrumentality ขององค์กร มอร์แกน (1997:15) ระบุว่า เนื่องจาก
การปฏิวัติอุตสาหกรรม เป็นองค์กรของพึ่งพาเครื่องมือ และเครื่องที่
องค์กรต้องปรับตัวรับกับความต้องการของเครื่องยนต์ ดังนั้นข้อมูลจาก
ระบบมีคำนวณเครื่องมือเหล่านี้ที่ได้รับจากผู้ปฏิบัติงานในการผลิตเป็น
"คะแนน" ซึ่งถูกใช้เพื่อทำการคาดคะเนเกี่ยวกับผลการ ผลเช่น
สร้างมีแรงจูงใจของพนักงานและความพึงพอใจที่มีความสำคัญสำหรับองค์กร
รัฐบาลจัดการหรือ dominant ขององค์กรมีระดับของความหมาย
เพื่อผลลัพธ์เหล่านี้เนื่องจากปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นแรงจูงใจและความพึงพอใจจะถือว่ามี
มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพขององค์กร
มีประสิทธิภาพขององค์กรที่ไดรฟ์จัดการหรือ dominant
รัฐบาลเพื่อเน้นข้อมูลที่ได้รับจากการวิเคราะห์งานออกแบบ
จัดการได้รับความสนใจในแรงจูงใจและความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงานเนื่องจากการ
ประสิทธิภาพผู้ปฏิบัติงานเป็นวิธีการที่สามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กร ใน
สุดยังอาจสะท้อนประสิทธิภาพขององค์กรในความสามารถในการบริหารการ
จัดการพนักงาน และรักษาการดำเนินงานที่ราบรื่นขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ดังนั้นการ
ขอบเขตการจัดการสามารถใช้ข้อมูลที่อาจมีผลกระทบต่อองค์กรที่
ประสิทธิภาพ วิเคราะห์งานออกแบบมีบทบาทสำคัญในการสร้างเป็นส่วนสำคัญ
ของข้อมูลที่
งานออกแบบจากมุมมองของ Interpretivist การ
มุมมองของ interpretivist พยายามเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ
ละมาให้ความรู้ ประวัติของกระบวนทัศน์ interpretivist ลำต้น
จาก idealist เยอรมัน ประเพณีรักษาความจริงที่อยู่ในจิตใจหรือความคิด
แทนข้อมูลของการรับรู้ความรู้สึก (Burrell &มอร์แกน 1979) .
นัก interpretivist วิจัย แต่ มากขึ้นกว่าที่ functionalist
นักวิจัยเน้นการมุ่งเน้นกรอบในผู้เข้าร่วม และวิธีการ
ผู้เรียนทำให้ความรู้สึกของโลกรอบ ๆ อีกลักษณะของการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานการออกแบบการแนะนำ
ซึ่งจะช่วยในการออกแบบ functionalist กระบวนทัศน์
ซึ่งจะช่วยงานจะกำหนดเป็น"แอปพลิเคชันที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของทฤษฎีโครงสร้าง
ซึ่งจะช่วยในการทำงานสำหรับการปรับปรุงความพึงพอใจและความสามารถในการทำงาน"(โง่ 1994530 ) การออกแบบงานได้มีการกำหนด"ในฐานะที่เป็นกระบวนการที่ผู้จัดการตัดสินใจงานงานและ
"(บริการ Gibson ' s ivancevich & Donnelly , TI Automotive 1994505 )
ยัง ความหมายที่ได้มาจาก
ตามมาตรฐานคำนิยามนี้หมายถึงการออกแบบงานเป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะนำมาใช้และมีมติตาม
ซึ่งจะช่วยผู้จัดการฝ่ายไอทีขององค์กรได้ สำหรับวัตถุประสงค์ของเอกสารฉบับนี้เราจะดูว่านักวิจัย
ซึ่งจะช่วยการศึกษางานการออกแบบและว่าองค์กรต่างๆมีการใช้งานการออกแบบงานการออกแบบการวิเคราะห์.
นักวิจัยการวิเคราะห์จากมุมมองของ functionalist จะอาศัย
การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือหรือตราสารเช่นงานการวินิจฉัยการสำรวจ
( hackman & Oldham ห่างที่. 1975 )และ multimethod งานการออกแบบแบบสอบถาม( campion &
thayer ; Spark , 1985 ) ผลที่ได้รับนั้นขึ้นอยู่กับการตอบกลับจาก Quantifying Pile Head Condition Before Basement Excavation by
ซึ่งจะช่วยคนงานได้รับแจ้งจาก JDS Uniphase jfdq และเครื่องมือที่ เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์การออกแบบงาน
ตามมาตรฐานความพยายามในการแตะ Outlook ของคนงานในงานของตนผ่านวิธีการที่หมอบลงใน
ทางวิทยาศาสตร์วิธีที่ มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าเครื่องมือเหล่านี้มาจากความเชื่อความยาวขึ้น
เกี่ยวกับเครื่องมือขององค์กร Morgan ( 199715 )รัฐว่าเป็นเพราะการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ซึ่งจะช่วยทำให้การพึ่งพาขององค์กรที่อยู่บนเครื่องและเครื่องมือต่างๆที่
ต้องมีองค์กรต่างๆสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของเครื่องได้ ทำให้ข้อมูลที่ได้จาก
เครื่องมือเหล่านี้ซึ่งได้มาจากคนงานได้อย่างเป็นระบบคำนวณในการผลิต
ซึ่งจะช่วย"คะแนน"ซึ่งมีการใช้ในการทำให้การทำนายเกี่ยวกับผลลัพธ์แล้ว
ซึ่งจะช่วยสร้างผลลัพธ์ดังกล่าวมีแรงจูงใจของพนักงานและความพึงพอใจที่มีความสำคัญต่อองค์กรที่.
การจัดการหรือมีอิทธิพลของการจัดตั้งรัฐบาลผสมซึ่งเป็นองค์กรที่ระดับสูงของความหมาย
ซึ่งจะช่วยในการนี้เพราะผลลัพธ์ดังกล่าวปรากฎการณ์เป็นแรงบันดาลใจและความพึงพอใจการมีอิทธิพลต่อ
ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ ขององค์กร.
เป็นองค์กรของการทำงานที่การจัดการหรือการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีอิทธิพล
ซึ่งจะช่วยในการออกให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ได้รับจากงานการออกแบบการวิเคราะห์.
การจัดการการมีส่วนได้เสียในแรงบันดาลใจและความพึงพอใจของคนงานได้เพราะการทำงานของคนงานที่
ซึ่งจะช่วยเป็นวิธีการซึ่งเป้าหมายขององค์กรจะสามารถทำได้
ประสิทธิภาพ ขององค์กรที่อาจจะสะท้อนให้เห็นถึงในการจัดการความสามารถในการจัดการพนักงานและรักษาการทำงานขององค์กรที่
ซึ่งจะช่วยได้อย่างมี ประสิทธิภาพ อีกด้วย ดังนั้นการตอบแทน
ส่วนที่การจัดการจะสามารถใช้ข้อมูลที่อาจมีผลกระทบต่อ' sorganization ที่
การวิเคราะห์ ประสิทธิภาพ การออกแบบงานมีบทบาทสำคัญที่สร้างในส่วนสำคัญ
ของข้อมูลที่.
งานการออกแบบจากมุมมองของของ interpretivist interpretivist มุมมอง
ซึ่งจะช่วยให้ได้ความพยายามที่จะได้รับการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ
แบบเฉพาะรายที่มาพร้อมกับจะมีความรู้ของพวกเขาที่ interpretivist กระบวนทัศน์ของประวัติศาสตร์ก้าน
จากที่เยอรมันเป็นอุดมคติประเพณีการรักษาที่เป็นความจริงพบได้ในที่วิญญาณหรือความคิด
ซึ่งจะช่วยมากกว่าในที่ข้อมูลของการรับรู้( burrell & Morgan , 1979 )..
ที่ interpretivist นักวิจัย,อย่างไรก็ตาม,มากกว่าที่ functionalist
นักวิจัยเกษตรในกรอบจากผู้เข้าร่วมประชุมและวิธีที่
ผู้มีส่วนร่วมทำให้เกิดความรู้สึกของโลกที่อยู่โดยรอบได้ มีลักษณะอันโดดเด่นของที่อื่น