Diwali (ดิวาลี) หรือ ดีปาวาลี หมายถึง แถวหรือแนวของตะเกียงไฟ (rows of lighted lamps) ดังนั้น Diwali จึงเป็นเทศกาลแห่งแสงไฟและความรื่นเริง เพื่อต้อนรับปีใหม่ของชาวฮินดู อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของคุณงามความดีที่มีต่อความชั่วร้าย และแสงสว่างที่อยู่เหนือความมืดมน ยังแสดงถึงการเริ่มต้นฤดูหนาวอีกด้วย จริงๆ แล้ว Diwali นั้นเป็นการเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแด่ พระราม และ นางสีดา พระมเหสี ในการเสด็จกลับมาสู่พระนคร อโยธยา (Ayodhya) ตามความเชื่อของชาวฮินดู
เทพเจ้าองค์สำคัญที่นิยมบูชากันในเทศกาลนี้ก็คือ พระลักษมี เทวีแห่งความมั่งคั่ง และพระคเณศ เทพเจ้าแห่งการกำจัดอุปสรรคทั้งปวง เชื่อกันว่าพระลักษมีจะทรงไปเยือนทุกบ้านเรือนในช่วงเทศกาลนี้ เพื่อนำพาความมั่งคั่งและโชคลาภมาให้ กล่าวกันว่าพระนางจะมาเยือนบ้านหลังที่สะอาดที่สุดเป็นแห่งแรก ดังนั้นผู้คนจึงต้องทำความสะอาดบ้านจนแน่ใจว่าสะอาดพอ จากนั้นจึงจะจุดตะเกียงไฟเพื่อเชื้อเชิญพระนางเข้ามาในบ้าน
การเริ่มต้นเฉลิมฉลองเทศกาลนี้อยู่ในช่วงเดือนตุลาคม หรือเดือนพฤศจิกายน ตามปฏิทินจันทรคติ และเฉลิมฉลองต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน ในแต่ละวันของการเฉลิมฉลองก็จะมีความหมายแตกต่างกันออกไป
ในระหว่างเทศกาล Diwali ชาวอินเดียจะทำความสะอาดบ้านเรือน ตกแต่งประดับประดาบ้านให้สวยงามเพื่อต้อนรับปีใหม่ และเปิดหน้าต่าง เพื่อต้อนรับพระลักษมี เทพธิดาแห่งความมั่งคั่ง มีการจุดตะเกียง หรือดวงไฟให้สว่างไสวไปทั่วบ้านเรือน เพื่อต้อนรับพระองค์ มีการสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ และซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ๆ ให้กับสมาชิกในครอบครัว มีการแลกเปลี่ยนของขวัญ ขนมหวาน อาหารต่างๆ นานา ตระเตรียมขึ้นไว้เพื่อเฉลิมฉลอง และเพราะความหลากหลายด้านวรรณนะและภูมิภาคทำให้การปฏิบัติตามประเพณีนี้มีความแตกต่างกัน
ในศาสนาเชนก็มีการเฉลิมฉลอง Diwali กัน ถือว่าพระมหาวีระ (Mahavira) ผู้ก่อตั้งศาสนาเชน ปรินิพพานในช่วง Diwali พอดี ในศาสนาซิกซ์ ก็เฉลิมฉลอง Diwali เพื่อแสดงความยินดีในการกลับมาสู่ Amritsar ในปี 1620 ของ คุรุ ลำดับที่ 6 ซึ่งจักรพรรดิ Jahangir ได้กักขังท่านไว้พร้อมกับกษัตริย์ของฮินดูอีก 52 พระองค์
Diwali ถือว่าเป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองอย่างกระตือรือร้นสนุกสนานกันมากที่สุดในอินเดีย ผู้คนจากต่างสัญชาติ ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และภูมิหลัง มารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันความสุข ภารดรภาพ และความกลมเกลียวกันของคนจากต่างเชื้อชาติศาสนา ทั้งชาวฮินดู ซิกซ์ เชน และแม้แต่ชาวพุทธ ทั่วโลกก็ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ด้วยกัน โดยลึกๆ แล้วดีวาลี มีความหมายทางด้านสังคมมากกว่าด้านศาสนาเสียอีก
“ดิวาลี (Diwali)” เทศกาลแห่งแสงไฟ และปีใหม่ของชาวฮินดูหมุนเวียนมาอีกครั้งแล้ว ในปีนี้ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2010 เทศกาลนี้สำคัญมากและเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับชาวฮินดู เรียกว่าเป็นมหาเทศกาลเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นเทศกาลแห่งครอบครัว ความรื่นเริง และการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งใหม่ๆ ที่ดีในชีวิต
“ดิวาลี (Diwali)” บ้างก็เรียก “ดีปาวาลี (Deepaawali)” หมายถึง แนวหรือแถวของตะเกียง “ดีป (Deep)” หมายถึง “ตะเกียง” และ “วาลี (Vali)” หมายถึง “แถว” ดิวาลี จึงเป็นเทศกาลแห่งแสงไฟ และเป็นเป็นเทศกาลต่อเนื่องมาจากเทศกาลนวราตรี ที่เฉลิมฉลองชัยชนะของความดีต่อความชั่วร้าย และในวันนี้เป็นวันฉลองการนิวัตสู่พระนครอโยธยาของพระราม พระลักษณ์ และนางสีดา ตามความเชื่อของชาวฮินดู หลังจากที่ถูกเนรเทศให้เสด็จไปอยู่นอกเมืองนานถึง 14 ปี
ในช่วงเวลานี้ชาวฮินดูจะทำความสะอาดบ้านเรือน เปิดหน้าต่างเพื่อต้อนรับ “พระลักษมี” เทวีแห่งความมั่งคั่ง ให้เข้ามาเยือนบ้านเรือนของตน การจุดเทียนและตะเกียง เป็นการต้อนรับและบอกทางแก่พระนาง มีการแลกเปลี่ยนของขวัญและตระเตรียมอาหารมาเลี้ยงฉลองกัน
ทุกบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการต่างๆ จะตกแต่งประดับประดาด้วยแสงไฟตระการตา ทั้งที่มาจาก หลอดไฟ โคมไฟ และตะเกียงน้ำมันดินเผา ที่เรียกว่า “ดิยา” ที่วางตั้งเป็นแถวริมหน้าต่าง ประตู และวางไว้รอบนอกบริเวณบ้าน ในอินเดียยังนิยมจุดดิยา ให้ลอยเป็นสายเหมือนกระทงสายในแม่น้ำต่างๆ โดยเฉพาะแม่น้ำคงคา ถ้าตะเกียงนั้นลอยไปได้ตลอดรอดฝั่งก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
วันนี้ยังเป็นวันดีสำหรับธุรกิจร้านค้าต่างๆ ที่มีการบูชาพระลักษมีเทวีเพื่อความเจริญก้าวหน้าในธุรกิจการงาน แม้วันนี้จะเป็นเป็นหยุด สำนักงานและธุรกิจร้านค้าหลายแห่งจะปิดทำการก็ตาม แต่หลังหกโมงเย็นในวันดิวาลีนี้จะเปิดทำการช่วงสั้นๆ เพื่อเริ่มต้นทำบัญชีใหม่ของร้าน
การจุดดอกไม้ไฟและประทัด ยังเป็นส่วนสำคัญในการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้อย่างขาดไม่ได้ แม้ว่าจะส่งเสียงดัง สร้างมลพิษ และอาจทำให้ทั้งคนเล่นและคนดูบาดเจ็บเอาได้ แต่คนอินเดียก็ไม่กลัว เล่นพลุและประทัดกันเป็นว่าเล่น อีกอย่างที่เป็นที่นิยมเล่นกันในช่วงเวลานี้ก็คือ การพนันขันต่อ ตามตำนานกล่าวว่า พระแม่ปารวตี ทรงเล่นพนันกับพระศิวะ พระสวามีในวันนี้ และทรงกล่าวไว้ว่าผู้ใดที่เล่นพนันในวันดิวาลีก็จะได้ชัยชนะ
ดิวาลี ยังเป็นช่วงเวลาที่ซื้อหาและแลกเปลี่ยนของขวัญกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะขนมหวานและผลไม้แห้ง เป็นของขวัญที่นิยมซื้อให้กัน รวมทั้งแจกจ่ายขนมหวานในหมู่ญาติและมิตรสหาย ดิวาลี จึงเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานและเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ มากเลยทีเดียว
และไม่เฉพาะแต่ชาวฮินดูเท่านั้นที่เฉลิมฉลองเทศกาลนี้ ทั้งเชน ซิกข์ รวมทั้งศาสนาอื่นๆ ทั่วอินเดียก็มีส่วนร่วมกันอย่างสนุกสนานในเทศกาลนี้ด้วยกัน ก็ขอให้เทศกาลแห่งแสงไฟนี้นำความสว่างสดใส และร่ำรวยมั่งคั่ง มาสู่ชีวิตของทุกคน
ข้อควรปฏิบัติ (จากสยามคเณศ)
ดีปาวาลี เป็นวันปีใหม่ของอินเดียครับ ในวันปีใหม่นี้ ศาสนิกชนจะทำการบูชาพระแม่ลักษมีกันให้ยิ่งใหญ่ จุดธูปสามหรือแปดดอกก็ได้ ถวายผลไม้ให้มากอย่าง ดอกไม้ก็จัดหามาให้หลากหลาย เนื่องจากเป็นวันพิเศษจึงควรถวายทุกอย่างในปริมาณมากกว่าที่ถวายปกติ ส่วนดอกไม้และผลไม้จะเป็นชนิดไหนก็ได้ทั้งนั้นไม่จำกัด ควรจัดหาถั่วดิบ และ ข้าวสาร ใส่จานมาถวายด้วย เนื่องจากพระแม่ลักษม