A study on performance characterist

A study on performance characteristics of tyres such as deflection and contact area is useful to determine the optimum condition for maximizing tyre efficiency. Differences in design and dimensions of pneumatic tyre affect the output power of the tyre. Present study was conducted to evaluate the vertical deflection and contact area of 13.6–28 bias-ply and radial tyres at different ballasted conditions with five normal loads which are (i) Base weight (B0 = 1050 kg), (ii) Base weight + 50% water (B50), (iii) Base weight + iron weight equivalent to 50% water (BFe50), (iv) Base weight + 75% water (B75) and (v) Base weight + iron weight equivalent to 75% water (BFe75) at various inflation pressures ranging from 68.9 to 206.8 kPa on hard surface in controlled soil bin. It was observed that both the selected tyres showed better performance under ballast load of BFe75 over the other selected loads. At all the selected loads, the radial tyre showed 13% higher contact area and 6.5% greater deflection than the bias-ply. The obtained results at various test conditions were compared with the existing predicting models for deflection and contact area using curve fitting technique in order to select the best suitable model.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาลักษณะการปฏิบัติงานของยางเช่นโก่งและพื้นที่ติดต่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ยาง ความแตกต่างในการออกแบบและขนาดของยางลมส่งผลกระทบต่อการส่งออกพลังงานของยาง การศึกษาปัจจุบันได้ดำเนินการในการประเมินการโก่งแนวตั้งและพื้นที่ติดต่อของ 13.6-28 อคติและยางเรเดียลที่สภาวะบัลลาสต์ที่แตกต่างกันกับห้าโหลดปกติซึ่งเป็น (i) น้ำหนักฐาน (B0 = 1,050 กิโลกรัม) (ii) น้ำหนัก Base + น้ำ 50% (B50), (iii) เทียบเท่าน้ำหนัก Base + เหล็กน้ำหนักลงไปในน้ำ 50% (BFe50), (iv) น้ำหนัก Base + 75% น้ำ (B75) และ (v) เทียบเท่าน้ำหนัก Base + เหล็กน้ำหนักลงไปในน้ำ 75% (BFe75) ที่ความดันอัตราเงินเฟ้อต่างๆตั้งแต่ 68.9-206.8 kPa บนพื้นผิวที่แข็งในถังดินควบคุม มันถูกตั้งข้อสังเกตว่ายางทั้งสองเลือกที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นภายใต้ภาระบัลลาสต์ของ BFe75 กว่าโหลดเลือกอื่น ๆ ที่ทุกคนโหลดที่เลือกยางเรเดียลแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ติดต่อที่สูงขึ้น 13% และการโก่งมากขึ้น 6.5% กว่าอคติ ผลที่ได้รับในเงื่อนไขการทดสอบต่าง ๆ เมื่อเทียบกับแบบจำลองการคาดการณ์ที่มีอยู่สำหรับการโก่งและพื้นที่ติดต่อโดยใช้เส้นโค้งเทคนิคที่เหมาะสมในการที่จะเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาลักษณะการทำงานของยางเช่นการโก่งและพื้นที่การติดต่อมีประโยชน์ในการกำหนดสภาพที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของยาง ความแตกต่างในการออกแบบและขนาดของยางลมมีผลต่อกำลังขับของยาง การศึกษาปัจจุบันได้ดำเนินการประเมินการโก่งแนวตั้งและพื้นที่ติดต่อของ13.6 –28และยางเรเดียลที่มีสภาพแตกต่างกันกับห้าโหลดปกติซึ่งเป็น (i) น้ำหนักฐาน (B0 = ๑๐๕๐กก.), (ii) น้ำหนักพื้นฐาน + ๕๐% น้ำ (B50), (iii) ฐาน น้ำหนักและน้ำหนักเหล็กเทียบเท่ากับ๕๐% น้ำ (BFe50), (iv) น้ำหนักฐาน + ๗๕% น้ำ (B75) และ (v) น้ำหนักฐาน + น้ำหนักเหล็กเทียบเท่ากับ๗๕% น้ำ (BFe75) ที่แรงกดดันอัตราเงินเฟ้อต่างๆตั้งแต่๖๘.๙ถึง๒๐๖.๘ kPa บนพื้นผิวแข็งในถังเก็บดินที่มีการควบคุม มันถูกสังเกตว่ายางที่เลือกแสดงให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นภายใต้โหลดบัลลาสต์ของ BFe75 ผ่านโหลดที่เลือกอื่นๆ ในทุกโหลดที่เลือกยางเรเดียลจะแสดงพื้นที่ติดต่อที่สูงขึ้น13% และมีการโก่งตัวสูงขึ้น๖.๕% กว่าอคติชั้น ผลที่ได้รับในเงื่อนไขการทดสอบต่างๆถูกเปรียบเทียบกับรูปแบบการทำนายที่มีอยู่สำหรับการโก่งและพื้นที่ติดต่อโดยใช้เทคนิคที่เหมาะสมโค้งเพื่อเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาคุณสมบัติเช่นการโก่งตัวของยางและพื้นที่สัมผัสจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของยาง การออกแบบและความแตกต่างของขนาดของยางพองจะมีผลต่อผลผลิตพลังงานของยาง การโก่งตัวของแนวตั้งและพื้นที่สัมผัสของ 136-28 และยางเรเดียลภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกันของบัลลาสต์ที่แตกต่างกันรวมทั้งน้ำหนักพื้นฐานของ b0 82950 ซึ่งรวมถึงน้ำหนักและปริมาณของน้ำหนักที่เทียบเท่ากับน้ำหนักของเหล็ก บนพื้นผิวที่แข็งของดินในถังควบคุมภายใต้แรงกดดันจาก 68.9 ถึง 206.8 กิโลกรัมน้ำหนักพื้นฐานของน้ำหนัก b795 b75 และน้ำหนักของเหล็กตาม ผลการศึกษาพบว่าทั้งสองชนิดของยางมีสมรรถนะที่ดีภายใต้โหลด bfe75 บัลลาสต์ ภายใต้การโหลดที่เลือกพื้นที่ติดต่อของยางเรเดียลสูงกว่าชั้นวางลวดเอียงและ 6.5 เปอร์เซ็นต์ของการแอ่นตัว ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองที่แตกต่างกันจะพอดีกับที่มีอยู่การโก่งตัวและพื้นที่ติดต่อแบบจำลองเพื่อเลือกรูปแบบที่ดีที่สุด