However,as shown by Abidi et al. (2

However,as shown by Abidi et al. (2009), a hybrid system could optimize the contribution of the plants and improve the hydraulics, especially regarding retention times in the planted and unplanted units. The different retention times in the planted and unplanted unit.The differant retention times of the wastewaterlogger in a H-SSF system than in a V-SSF one-would determine a change in the general aerobic/anaerobic conditions and affect the chemical oxidation mechanisms regarding pathogens.
An interesting aspect of this study regarded waterloss in the planted subunits of the pilot system.The main reason for studying water balance in the CW was to establish if the choice of plant hydraulic and design conditions, and to determine water savings. In dry ares of the Mediterranean, where treated wastewater is often used in irrigation, it makes sense to look for macrophytes with non-excessive water loss in a CW planted with emergent macrophytes can be 7 or 8 times higher than that of normal evaporation without plants. There is very little in literature, especially concerning Mediterranean regions, on choosing macrophytes based purely on ET water consumption.
In morocco found ET values to be around 40 mm in a CW planted with Arundo donax and 60 mm in a CW planted with Phragmites australis, in two sites which were climatically highly different, stated that the role of plants in dispersing water is similar even under different, stated that the role of plants in dispersing water is similar even under different environmental conditions but that ET differs depending on the site and throunghout the growing season of both the same year and also different years. In our research, data showed greater water losses in the reedmace-based treatment than the umbrella-sedge, probanly due to different average leaf surface and foliar density, as sustained by Sanchez-Carillo et.al.(2001)However, differences in ET water loss for the two macrophytes were not excessively hight using average values and, therefore, we cannot determine, based only on water consumption, which species is better than another under identical field conditions. It is clear that further researh is needed regarding various aspects in this area in order to provide a more complete picture.
5. conclusions
The comparison of two emergent mscrophytes grown under indentical conditions snd subjected to the same hydraulic load highlighted the fact, in a monospecies system and in the absence of interspecific competition, there was a significant difference in plant ability to treat the main pollutants and to influence the purification efficiency of the chosen wastewater treatment system. The role of the plant species must not, therefore, be condidered of secondary importance insofar as, under constant conditions(daily hydraulic load, gravel size and substrate depth), as was the case in this study, it is clear that the treatment efficacy of a system can vary significantly with the species and based on interactions between the plants. Our results showed that T. latifolia outperformed C. alternifolius. Our results showed that T. latifolia outperformed C. alternifolius, both in terms of biomass production and nitrogen uptake and storage, and this is due not only to its competitive and aggressive nature in colonizing the inert substrates but also to ability to adapt to diverse and not always optimal climate conditions. These findings highlight that, regarding selection criteria of plant species, knowledge on the adaptability of a species to climatic conditions is fundamental in order to ensure maximum results from the plants in wastewater treatments. It is clear that a series of from the plants in wastewater treatments. It is clear that a series of longterm experiments to compare other species which are typical of the Mediterranean environment but which have been studied little to date should be carried out in order to increase knowledge on plant ability to treat wastewater in both mono-and poly-species systems(also an aspect which has enjoyed little attention to date).

Acknoledgements
the authors would like to the thank the Sicilian Regional Ministry of Food and Agricultural Resources, Research Centre Corissia and the University of Palermo for having provided the funds for the funds for the study. A special thanks also goes to Branwen Hornsby for her continuing support to the research and linguistic contribution. We would also like to thank the reviewers for their constructive comments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม แสดงโดย Abidi et al. (2009), ลูกผสมระบบสามารถปรับสัดส่วนของพืช และปรับปรุงระบบไฮดรอลิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเวลาเก็บข้อมูลในหน่วยปลูก และ unplanted เวลาเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในหน่วยปลูก และ unplantedเวลาเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของ wastewaterlogger ในระบบ H SSF กว่าใน V-SSF หนึ่ง-จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในสภาพแอโรบิก/ไม่ใช้ทั่วไป และมีผลต่อกลไกการเกิดออกซิเดชันทางเคมีเกี่ยวกับโรค
ข้อมูลด้านต่าง ๆ ที่น่าสนใจของการศึกษานี้ว่า waterloss subunits planted ระบบนำร่องเหตุผลหลักสำหรับการศึกษาสมดุลน้ำตามน้ำหนักจริงถูกสร้างถ้าเลือกพืชไฮโดรลิค และออกแบบเงื่อนไข การกำหนดประหยัดน้ำ ในปล่องแห้งของ ซึ่งน้ำเสียที่บำบัดมักใช้ในการชลประทาน มันทำให้รู้สึกดู macrophytes กับการสูญเสียน้ำไม่มากเกินไปในการตามน้ำหนักจริงที่ปลูกกับ macrophytes โผล่ออกมาสามารถจะ 7 หรือ 8 เท่าสูงกว่าของปกติระเหยโดยพืช มีน้อยมากในวรรณคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน การเลือก macrophytes เพียงอย่างเดียวตามปริมาณการใช้น้ำ ET.
ในประเทศโมร็อกโกพบค่า ET จะประมาณ 40 mm ตามน้ำหนักจริงที่ปลูก ด้วย Arundo donax และ 60 มม.น้ำหนักจริงที่ปลูกกับออสเตรลิ Phragmites ในเว็บไซต์ที่สองที่มี climatically สูงแตกต่างกัน ระบุว่า บทบาทของพืชในน้ำสลายเป็นคล้ายแม้ภายใต้แตกต่างกัน ระบุว่า บทบาทของพืชในน้ำสลายคล้ายแม้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่ว่า ET แตกต่างขึ้นอยู่กับไซต์และ throunghout ฤดูกาลเติบโตทั้งในปีเดียวกันและปีต่าง ๆ งานวิจัยของเรา ข้อมูลแสดงให้เห็นการสูญเสียน้ำมากขึ้นในการบำบัดรักษาตาม reedmace กว่าร่ม-sedge probanly จากค่าเฉลี่ยต่าง ๆ ใบไม้ foliar และพื้นผิวความหนาแน่น เป็น sustained โดยแซนเชซ Carillo et.al(2001)อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างในการสูญเสียน้ำ ET สำหรับ macrophytes สองไม่มากเกินไปทาขนมปังโดยใช้ค่าเฉลี่ย และ ดังนั้น เราไม่สามารถกำหนด ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้น้ำเท่านั้น ชนิดใดจะสูงกว่าอื่นภายใต้เงื่อนไขที่มีฟิลด์ที่เหมือนกัน เป็นที่ชัดเจน researh ที่เพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ในบริเวณนี้เพื่อให้การแก่รูปภาพ
5 บทสรุป
mscrophytes โผล่ออกมาสองที่เติบโตขึ้นภายใต้เงื่อนไข indentical snd ต้องโหลดไฮดรอลิกเหมือนกันเปรียบเทียบ ในระบบ monospecies และ ในการขาดงานแข่งขัน interspecific ความจริง เน้น มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในพืชสามารถรักษาสารมลพิษหลัก และมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียท่านฟอก บทบาทของสปีชีส์พืชต้องไม่ ดังนั้น เป็น condidered สำคัญรอง insofar สภาวะคง (โหลดบริการไฮดรอลิก ขนาดและพื้นผิวความลึกของกรวด), เป็นคนในการศึกษานี้ ชัดเจนว่า รักษาประสิทธิภาพของระบบอาจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญกับสายพันธุ์ และตามระหว่างพืชได้ ผลของเราแสดงให้เห็นว่า ต. latifolia outperformed C. alternifolius ผลของเราแสดงให้เห็นว่า ต. latifolia outperformed C. alternifolius ทั้งในแง่ ของการผลิตชีวมวล และการดูดซับไนโตรเจน และการจัด เก็บ และนี่คือครบกำหนดไม่เพียง แต่ลักษณะแข่งขัน และก้าวร้าวใน colonizing พื้นผิว inert แต่ยังสามารถปรับให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย และไม่เหมาะสมเสมอ ผลการวิจัยเหล่านี้เน้นที่ เกี่ยวกับเกณฑ์การเลือกพันธุ์ พืช ความรู้ในหลากหลายพันธุ์เพื่อเงื่อนไข climatic เป็นพื้นฐานเพื่อให้ผลลัพธ์สูงสุดจากพืชในการบำบัดรักษา ล้างที่เป็นชุดจากพืชในการบำบัดน้ำเสีย เป็นที่ชัดเจนว่า ชุดของตนทดลองเปรียบเทียบพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเป็นปกติของสภาพแวดล้อมที่เมดิเตอร์เรเนียน แต่ที่ได้รับการศึกษาน้อยวันที่ควรจะดำเนินการเพื่อเพิ่มความรู้ในโรงงานความสามารถในการบำบัดน้ำเสียในทั้งโมโน- และโพลีชนิด systems(also an aspect which has enjoyed little attention to date).

Acknoledgements
ผู้เขียนอยากขอบคุณซิซิลีภูมิภาคกระทรวงของอาหาร และ ทรัพยากรการเกษตร Corissia ศูนย์วิจัย และมหาวิทยาลัยของปาแลร์โมสำหรับไม่ให้เงินทุนสำหรับการศึกษา ขอบคุณพิเศษยังจะไป Branwen ฮอร์นส์สำหรับสนับสนุนงานวิจัยและสัดส่วนภาษาศาสตร์เธอต่อ เรายังอยากจะขอบคุณผู้ตรวจทานสำหรับข้อคิดเห็นของพวกเขาสร้างสรรค์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตาม ที่แสดงโดย abidi et al . ( 2009 ) , ระบบไฮบริดสามารถปรับสัดส่วนของพืชและปรับปรุง ระบบไฮดรอลิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความคงทนในการปลูกครั้งและหน่วย unplanted . ต่างเวลากักในปลูกและหน่วย unplanted .ที่ differant เวลากักของ wastewaterlogger ในระบบ h-ssf กว่าใน v-ssf หนึ่งจะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในทั่วไปแอโรบิก / ไร้เงื่อนไข และส่งผลกระทบต่อทางเคมีออกซิเดชันกลไกเกี่ยวกับเชื้อโรค .
ด้านที่น่าสนใจของการศึกษานี้ถือว่า waterloss ในปลูกย่อยของระบบต้นแบบเหตุผลหลักสำหรับการศึกษาสมดุลน้ำใน CW ถูกสร้างถ้าเลือกพืชไฮโดรลิคและเงื่อนไขการออกแบบและตรวจสอบการประหยัดน้ำ ในบริการ Ares ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งน้ำเสียที่ได้รับมักจะใช้ในการชลประทานมันทำให้รู้สึกที่จะมองหาพืชปลอดการสูญเสียน้ำมากเกินไปใน CW ซึ่งสามารถปลูกพืช 7 หรือ 8 ครั้งสูงกว่าปกติโดยการระเหยของน้ำในพืช มีอยู่น้อยมากในวรรณกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน ในการเลือกพืชยึดหมดจดและการบริโภคน้ำ
.พบในโมร็อกโกและค่าประมาณ 40 มม. ใน CW ที่ปลูก arundo donax 60 มม. ใน CW ที่ปลูกก่อน Australis , สองเว็บไซต์ที่แตกต่างกันอย่างมาก climatically ระบุว่า บทบาทของพืชในการกระจายน้ำที่คล้ายกัน แม้อยู่ภายใต้ที่แตกต่างกันกล่าวว่า บทบาทของพืชในน้ำกระจายคล้าย แม้ภายใต้สภาวะสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่ที่และขึ้นอยู่กับเว็บไซต์และ throunghout ฤดูกาลเติบโตของทั้งสองในปีเดียวกัน และปีต่างๆ ในการวิจัยของเราแสดงข้อมูลมากขึ้นการสูญเสียน้ำใน reedmace ตามการรักษากว่ากกร่ม ,probanly เนื่องจากผิวใบเฉลี่ยแตกต่างกันและความหนาแน่นของใบอย่างยั่งยืนโดย Sanchez Carillo และคณะ ( 2544 ) แต่ความแตกต่างระหว่างและการสูญเสียน้ำสำหรับสองพืชไม่สูงมากเกินไป ใช้ค่าเฉลี่ยและดังนั้นเราจึงไม่สามารถระบุได้ โดยเฉพาะในการใช้น้ำ ซึ่งชนิดดีกว่าอื่น ภายใต้เงื่อนไขที่สนามเหมือนกันเป็นที่ชัดเจนว่า การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นในด้านต่าง ๆ ในพื้นที่นี้เพื่อให้ภาพที่สมบูรณ์มากขึ้น .
5 สรุปการเปรียบเทียบสอง mscrophytes
ซึ่งปลูกภายใต้สภาพ indentical และภายใต้โหลดไฮดรอลิกเดียวกันเน้นความเป็นจริงในระบบ monospecies และในการแข่งขัน interspecific ขาด ,มีความแตกต่างในความสามารถในการรักษาพืชและมลพิษหลักที่มีอิทธิพลต่อการเลือกประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสีย . บทบาทของพืชจะต้องไม่ ดังนั้น ต้อง condidered ของระดับความสำคัญตราบเท่าที่ภายใต้สภาวะคงที่ ( ทุกวัน ไฮดรอลิกโหลด ขนาดกรวดและความลึกของพื้นผิว ) , เป็นกรณีที่ในการศึกษานี้เป็นที่ชัดเจนว่า การรักษาประสิทธิภาพของระบบสามารถแตกต่างกันอย่างมากกับชนิดและขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ระหว่างพืช ผลของเราแสดงให้เห็นว่า ต. latifolia เมื่อ C alternifolius . ผลของเราแสดงให้เห็นว่า ต. latifolia C . alternifolius เพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ของการผลิตมวลชีวภาพไนโตรเจนและการจัดเก็บและนี้เป็นเพราะไม่เพียง แต่ในการแข่งขันของธรรมชาติในพื้นผิวและก้าวร้าว colonizing เฉื่อย แต่ยังความสามารถในการปรับให้เข้ากับความหลากหลายและไม่เสมอที่ดีที่สุดสภาพภูมิอากาศ . การศึกษานี้เน้นเกี่ยวกับเกณฑ์การเลือกชนิดพืชความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวของสภาพภูมิอากาศเป็นชนิดพื้นฐานในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์สูงสุดจากพืชในการบำบัดรักษา เป็นที่ชัดเจนว่า ชุดจากพืชในการบำบัดรักษามันเป็นที่ชัดเจนว่าชุดการทดลองระยะยาวเพื่อเปรียบเทียบสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเป็นปกติของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สภาพแวดล้อม แต่ที่ได้รับการศึกษาน้อย วันที่ควรดำเนินการเพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับพืช สามารถที่จะรักษาน้ำเสียทั้งระบบโมโนโพลีชนิด ( ด้านที่ได้เพลิดเพลินกับความสนใจเพียงเล็กน้อย
วันที่ )

acknoledgementsผู้เขียนขอขอบคุณกระทรวงแคว้นซิซิลีของอาหารและทรัพยากรการเกษตร corissia ศูนย์วิจัยและมหาวิทยาลัยปาแลร์โมสำหรับการให้เงินทุนสำหรับกองทุนเพื่อการศึกษา ขอบคุณพิเศษยังไปบรานเวน Hornsby เธอสนับสนุนต่อเนื่องเพื่อการวิจัยและผลงานทางด้านภาษาศาสตร์เรายังอยากจะขอบคุณความคิดเห็นสำหรับข้อคิดเห็นสร้างสรรค์