In response to pressure from consum

In response to pressure from consumers and non-governmental organizations (NGOs), several
sustainability programs had emerged for the coffee industry. Organic certification precluded the use of
synthetic agrochemicals and promoted soil and water conservation. For example, the International
Federation of Organic Agriculture Movements, headquartered in Bonn, Germany, monitored standards
and offered certification




In contrast, Rainforest Alliance certification focused on the preservation of biodiversity. Based in New
York, Rainforest Alliance, an NGO, conducted annual audits of farm communities on several
environmental, social and economic criteria



More narrowly targeted, bird friendly certification
promoted the growth of coffee in the shade of trees, which also served as a habitat for migratory birds,
rather clearing land of vegetation for coffee farming. Bird friendly certification was developed by the
Smithsonian Migratory Bird Center in Washington, D.C., using three criteria: canopy height, foliage
cover and number of bird species




Other options focused on farmers. For example, UTZ certification enabled farmers to incorporate better
farming methods, improve working conditions and take better care of the environment. Headquartered in
The Netherlands, the goal of UTZ was to make sustainable farming of coffee the “most natural” thing in
the world




The Common Code for the Coffee Community (4C) was a multi-stakeholder initiative, based
in Bonn, Germany, incorporating a total of 28 principles aimed at ensuring a green coffee supply chain.
Its goal was to secure full compliance with baseline sustainability standards





However, Fairtrade was the best-known certification, launched in 2002 by the Fairtrade Labeling
Organization International (FLO). The organization had been established five years earlier in Bonn,
Germany, with a view to “unite the national Fairtrade organizations under one umbrella and harmonize
worldwide standards and certification




The certification system was aimed at safeguarding the interests
of marginalized farmers and their families. Coffee was only one of many agricultural commodities, with
other examples being cocoa, tea, sugar, cotton and bananas. FLO charged producer organizations a fee for
certification plus an annual renewal fee.





Fairtrade attempted to ensure that producers fostered healthy working conditions in the farms. To do so, it
offered farmers a guaranteed “floor” price — known as the Fairtrade minimum price — which acted as a
safety net to allow rural families to both survive in the short term and plan for the future. The floor price
was determined periodically by FLO. When coffee prices rose above the floor, farmers received a
guaranteed premium over the current market price. For example, in the early 1990s, the floor price for
Arabica coffee was $2,420 per ton, with a guaranteed premium of $100 per ton. Recently, the guaranteed
floor and premium prices rose to $2,800 and $400 per ton, respectively.13 For the other major variety,
Robusta coffee, the floor price was roughly 30 per cent lower. Depending on the retail brand, consumers
might also pay a premium for products certified by FLO.





At the end of 2012, 403 producer organizations in 28 countries held Fairtrade certificate for coffee. More
than 660,000 small-scale farmers were members of Fairtrade-certified coffee producer organizations, an
increase of 14 per cent over 2011. Collectively, these farmers cultivated nearly 881,700 hectares, which
led to Fairtrade coffee sales of 150,000 tons in 2012 (production was much higher, at 440,000 tons)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการตอบสนองแรงดันจากผู้บริโภคและองค์กรเอกชน (Ngo), หลายโปรแกรมความยั่งยืนมีเกิดอุตสาหกรรมกาแฟ รับรองอินทรีย์จรรยาบรรณการใช้กสูบสังเคราะห์และส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตัวอย่างเช่น ระหว่างประเทศสภาเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ ใน Bonn เยอรมนี ตรวจสอบมาตรฐานและการนำเสนอรับรองคมชัด พันธมิตรป่ารับรองมุ่งเน้นในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ขึ้นใหม่ดำเนินการตรวจสอบประจำปีของชุมชนฟาร์มหลายนิวยอร์ก พันธมิตรป่าฝน NGOเกณฑ์สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจเป้าหมายมากกว่าอย่างหวุดหวิด นกมิตรรับรองส่งเสริมการเจริญเติบโตของกาแฟในร่มเงาของต้นไม้ ซึ่งยัง เป็นที่อยู่อาศัยนกอพยพการ ล้างดินของพืชเลี้ยงกาแฟ นกมิตรรับรองได้รับการพัฒนาโดยการสมิธโซเนียน Migratory นกศูนย์ Washington, d.c. โดยใช้เกณฑ์ที่สาม: ความสูงหลังคา ใบไม้ฝาครอบและจำนวนของสายพันธุ์นกตัวเลือกอื่น ๆ เน้นเกษตรกร เช่น การรับรองโดย UTZ ใช้เกษตรกรให้ดีขึ้นวิธีการทำฟาร์ม ปรับปรุงสภาพการทำงาน และดูแลสิ่งแวดล้อม ในเนเธอร์แลนด์ เป้าหมายของมาตรฐาน utz นับคือการทำฟาร์มอย่างยั่งยืนของกาแฟเป็นสิ่งที่ "เป็นธรรมชาติที่สุด" ในโลกรหัสทั่วไปสำหรับชุมชนกาแฟ (4C) เป็นการริเริ่มของพหุภาคี ใช้ใน Bonn เยอรมนี เพจจำนวน 28 หลักมุ่งเป้าไปที่การสร้างห่วงโซ่อุปทานกาแฟเขียวเป้าหมายคือการ ปฏิบัติตามหลักห่วงความปลอดภัยอย่างไรก็ตาม แฟร์ถูกรับรองรู้จัก การเปิดตัวใน 2002 โดยการติดฉลากแฟร์องค์กรสากล (FLO) องค์กรที่มีการสร้างห้าปีก่อนหน้านี้ในบอนน์ประเทศเยอรมนี เพื่อ "การรวมกันข.ชาติภายใต้ร่มหนึ่ง และสอดคล้องมาตรฐานทั่วโลกและการรับรองระบบรับรองมุ่งดูแลผลของเกษตรกรเข้มและครอบครัว กาแฟเป็นเพียงหนึ่งในหลายสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรตัวอย่างอื่น ๆ โกโก้ ชา น้ำตาล ผ้าฝ้าย และกล้วย โฟลชาร์จองค์กรผลิตค่ารับรองและต่ออายุรายปีค่า แฟร์ที่พยายามเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ผลิตที่ส่งเสริมสุขภาพทำงานในฟาร์ม การทำ มันให้เกษตรกรในราคาที่รับประกัน "ชั้น" ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดของแฟร์ — ซึ่งทำหน้าที่เป็นรอดสุทธิปลอดภัยให้ครอบครัวชนบททั้งในระยะสั้นและแผนในอนาคต ราคาชั้นถูกกำหนดเป็นระยะ ๆ โดยโฟล เมื่อราคากาแฟเพิ่มขึ้นเหนือชั้น เกษตรกรได้รับการพรีเมี่ยมรับประกันมากกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ตัวอย่าง ในช่วงปี 1990 ราคาพื้นกาแฟอาราบิก้าเป็น 2,420 $ ต่อตัน กับพรีเมี่ยมรับประกัน 100 $ ต่อตัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ รับประกันกุหลาบชั้นและพรีเมี่ยมราคา 2,800 $ และ $400 ต่อตัน respectively.13 สำหรับที่สำคัญต่าง ๆกาแฟโรบัสต้า ราคาชั้นได้ประมาณร้อยละ 30 ต่ำกว่า ขึ้นอยู่กับแบรนด์ค้าปลีก ผู้บริโภคนอกจากนี้ยังอาจจ่ายพรีเมี่ยมสำหรับผลิตภัณฑ์โฟล เมื่อสิ้นสุดของ 2012, 403 ผลิตองค์กรในประเทศ 28 จัดแฟร์รับรองสำหรับกาแฟ เพิ่มเติมกว่า 660,000 เกษตรกร สมาชิกขององค์กรผู้ผลิตกาแฟแฟร์ที่ได้รับการรับรอง การเพิ่มขึ้นของร้อยละ 14 2011 รวม เกษตรกรเหล่านี้ปลูกเกือบ 881,700 ไร่ ที่นำไปขายกาแฟแฟร์ 150,000 ตันในปี 2555 (ผลิตได้มากขึ้น 440,000 ตัน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการตอบสนองต่อแรงกดดันจากผู้บริโภคและองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐ (เอ็นจีโอ) หลาย
โปรแกรมการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้โผล่ออกมาสำหรับอุตสาหกรรมกาแฟ ได้รับการรับรองอินทรีย์จรรยาบรรณการใช้
สารเคมีสังเคราะห์และการส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและน้ำ ยกตัวอย่างเช่นระหว่างประเทศ
สภาการเคลื่อนไหวของเกษตรอินทรีย์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงบอนน์, เยอรมนี, มาตรฐานการตรวจสอบ
และเสนอการรับรองในทางตรงกันข้ามการรับรองฝนพันธมิตรมุ่งเน้นไปที่การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ อยู่ใน New York, Rainforest Alliance ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนดำเนินการตรวจสอบประจำปีของชุมชนฟาร์มในหลายด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและเศรษฐกิจเกณฑ์เพิ่มเติมหวุดหวิดกำหนดเป้าหมายนกรับรองเป็นมิตรกับการส่งเสริมการเจริญเติบโตของกาแฟในร่มเงาของต้นไม้ซึ่งยังทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับ นกอพยพค่อนข้างล้างที่ดินของพืชสำหรับปลูกกาแฟ นกได้รับการรับรองเป็นมิตรได้รับการพัฒนาโดยมิ ธ โซเนียนนกอพยพ Center ในกรุงวอชิงตันดีซีโดยใช้เกณฑ์ที่สาม: ความสูงหลังคาใบปกและจำนวนของนกชนิดตัวเลือกอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นเกษตรกร ยกตัวอย่างเช่นการรับรอง UTZ เปิดการใช้งานของเกษตรกรที่จะรวมที่ดีกว่าวิธีการทำการเกษตรในการปรับปรุงสภาพการทำงานและการดูแลที่ดีขึ้นของสภาพแวดล้อม สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์เป้าหมายของ UTZ คือการทำให้ทำการเกษตรอย่างยั่งยืนของกาแฟ "ธรรมชาติมากที่สุด" สิ่งในโลกรหัสทั่วไปสำหรับชุมชนคอฟฟี่ (4C) เป็นความคิดริเริ่มของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายพื้นฐานในกรุงบอนน์, เยอรมนี, ผสมผสาน รวมของหลักการ 28 มุ่งเป้าไปที่การสร้างความมั่นใจในห่วงโซ่อุปทานกาแฟสีเขียว. เป้าหมายของมันคือการรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบกับการปฏิบัติตามมาตรฐานพื้นฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างไรก็ตาม Fairtrade เป็นรับรองที่รู้จักกันดีเปิดตัวในปี 2002 โดยการติดฉลาก Fairtrade องค์การระหว่างประเทศ (FLO) องค์กรที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อห้าปีก่อนในบอนน์ประเทศเยอรมนีที่มีมุมมองที่ "รวมกันองค์กร Fairtrade แห่งชาติภายใต้ร่มหนึ่งและสอดคล้องกับมาตรฐานที่ทั่วโลกและได้รับการรับรองระบบการรับรองมุ่งเป้าไปที่การปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรชายขอบและครอบครัวของพวกเขา กาแฟเป็นเพียงหนึ่งในสินค้าเกษตรจำนวนมากที่มีตัวอย่างอื่น ๆ เป็นโกโก้, ชา, น้ำตาล, ผ้าฝ้ายและกล้วย FLO เรียกเก็บองค์กรผลิตค่าธรรมเนียมสำหรับการรับรองบวกค่าธรรมเนียมการต่ออายุประจำปี. Fairtrade พยายามเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ผลิตเสริมสร้างสภาพการทำงานที่มีสุขภาพดีในฟาร์ม ที่จะทำเช่นนั้นก็นำเสนอเกษตรกรรับประกัน "ชั้น" ราคา - เรียกว่าราคาต่ำสุด Fairtrade - ซึ่งทำหน้าที่เป็นสุทธิความปลอดภัยที่จะอนุญาตให้ครอบครัวในชนบททั้งความอยู่รอดในระยะสั้นและวางแผนสำหรับอนาคต ราคาชั้นถูกกำหนดระยะโดย FLO เมื่อราคากาแฟเพิ่มขึ้นเหนือพื้นเกษตรกรได้รับพรีเมี่ยมรับประกันกว่าราคาของตลาดในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่นในช่วงปี 1990 ราคาชั้นสำหรับกาแฟอาราบิก้าเป็น $ 2,420 ต่อตันโดยมีพรีเมี่ยมรับประกัน $ 100 ต่อตัน เมื่อเร็ว ๆ นี้รับประกันชั้นพรีเมี่ยมและราคาเพิ่มขึ้นถึง $ 2,800 และ $ 400 ต่อตัน respectively.13 สำหรับความหลากหลายที่สำคัญอื่น ๆกาแฟโรบัสต้าราคาพื้นได้ประมาณร้อยละ 30 ลดลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบรนด์ค้าปลีกที่ผู้บริโภคอาจจะจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองโดย FLO ได้. ในตอนท้ายของ 2012, 403 องค์กรผู้ผลิตใน 28 ประเทศจัดขึ้นใบรับรอง Fairtrade สำหรับกาแฟ อื่น ๆกว่า 660,000 เกษตรกรขนาดเล็กเป็นสมาชิกขององค์กรผู้ผลิตกาแฟ Fairtrade ได้รับการรับรองเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในช่วง 2011 รวมเกษตรกรเหล่านี้ได้รับการปลูกฝังเกือบ 881,700 ไร่ซึ่งนำไปสู่การขายกาแฟ Fairtrade 150,000 ตันในปี 2012 (การผลิตได้มาก สูงกว่าที่ 440,000 ตัน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการตอบสนองต่อแรงกดดันจากผู้บริโภค และองค์กรพัฒนาเอกชน ( เอ็นจีโอ ) หลายโปรแกรมใหม่โผล่ในอุตสาหกรรมกาแฟ รับรองอินทรีย์ลบใช้สังเคราะห์สารเคมีและส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและน้ำ . ตัวอย่างเช่น , นานาชาติสหพันธ์เกษตรอินทรีย์สํานักงานใหญ่ในบอนน์ , เยอรมนี , การตรวจสอบมาตรฐานและเสนอการรับรองในทางตรงกันข้าม , Rainforest Alliance รับรองเน้นการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ อยู่ในใหม่นิวยอร์กป่าฝนพันธมิตร , NGO , ดำเนินการตรวจสอบประจำปีของชุมชนเกษตรกรในหลาย ๆสิ่งแวดล้อม เงื่อนไขทางเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มเติม ( เป้าหมาย , นกรับรองเป็นกันเองการส่งเสริมการเจริญเติบโตของกาแฟในร่มเงาของต้นไม้ซึ่งยังทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยของนกอพยพ ,ค่อนข้างล้างแผ่นดินของพืชกาแฟ ฟาร์ม นกรับรองเป็นกันเองได้รับการพัฒนาโดยศูนย์นกอพยพสมิธโซเนียนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ใช้สามเกณฑ์ : ความสูงหลังคา , ใบครอบคลุมและจำนวนชนิดนกตัวเลือกอื่น ๆที่เน้นเกษตรกร ตัวอย่างเช่นภาษีอากรการรับรองเกษตรกรรวมดีกว่า เปิดใช้งานวิธีฟาร์มปรับปรุงสภาพการทำงานและดูแลสิ่งแวดล้อม สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์ , เป้าหมายของภาษีอากร เพื่อให้เกษตรที่ยั่งยืนของกาแฟ " ธรรมชาติ " ที่สุดในโลกรหัสร่วมกันสำหรับชุมชนกาแฟ ( 4C ) คือการใช้ร่วมกันหลายในบอนน์ , เยอรมนี , incorporating ทั้งหมด 28 หลักการมุ่งมั่นใจอุปทานกาแฟสีเขียวโซ่เป้าหมายของมันคือการรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบสอดคล้องกับมาตรฐานด้านพื้นฐานอย่างไรก็ตาม แฟร์เทรดคือการรับรองที่เป็นที่รู้จักกันดี , เปิดตัวในปี 2002 โดยแฟร์เทรด การติดฉลากองค์การระหว่างประเทศ ( Flo ) องค์กรได้รับการก่อตั้ง 5 ปีก่อนหน้านี้ ใน บอนน์เยอรมัน กับมุมมอง " Unite องค์กร Fairtrade แห่งชาติภายใต้หนึ่งร่มและสามัคคีและการรับรองมาตรฐานทั่วโลกระบบการรับรองมาตรฐานมีวัตถุประสงค์ในการปกป้องผลประโยชน์ชายขอบของเกษตรกรและครอบครัวของพวกเขา กาแฟ เป็นเพียงหนึ่งในสินค้าเกษตรหลาย กับตัวอย่างอื่น ๆ เป็น โกโก้ ชา น้ำตาล ฝ้าย และกล้วย โฟลชาร์จค่าธรรมเนียมสำหรับองค์กรผู้ผลิตการรับรองบวกค่าธรรมเนียมการต่ออายุประจำปีพยายามเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ผลิตแฟร์เทรด ( สุขภาพสภาพการทำงานในฟาร์ม ทำดังนั้นให้เกษตรกรรับประกัน " พื้น " ราคา - เรียกว่าแฟร์เทรด ราคาขั้นต่ำ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครือข่ายความปลอดภัยเพื่อให้ครอบครัวอยู่รอดในชนบททั้งในระยะสั้น และวางแผนสำหรับอนาคต ราคาพื้นพิจารณาเป็นระยะ ๆโดย Flo . เมื่อราคากาแฟเพิ่มขึ้นเหนือพื้น เกษตรกรได้รับรับประกัน พรีเมี่ยม ราคาตลาดปัจจุบัน ตัวอย่างเช่นในช่วงต้นทศวรรษ 1990 พื้นราคากาแฟอาราบิก้าจากดอลลาร์ต่อตัน กับการประกันพรีเมี่ยมของ $ 100 ต่อตัน เมื่อเร็ว ๆนี้ รับประกันชั้น ราคา พรีเมี่ยม เพิ่มขึ้นถึง $ 2 , 800 และ $ 400 / ตัน respectively.13 สำหรับหลากหลายหลักอื่น ๆกาแฟโรบัสต้า , ราคาพื้นได้ประมาณร้อยละ 30 กว่า ขึ้นอยู่กับแบรนด์ค้าปลีกผู้บริโภคอาจจะจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองโดย Flo .ในตอนท้ายของ 2012 , 403 ผู้ผลิตองค์กรใน 28 ประเทศ จัดรับรอง Fairtrade สำหรับกาแฟ เพิ่มเติมกว่า 660 เกษตรกรรายย่อยเป็นสมาชิกขององค์กร Fairtrade ได้รับการรับรองผู้ผลิตกาแฟ ,เพิ่ม 14 เปอร์เซ็นต์ใน 2011 โดยรวมแล้ว เกษตรกรที่ปลูกเกือบ 881700 ไร่ ซึ่งนำไปสู่การขายกาแฟแฟร์เทรดของ 150 , 000 ตันในปี 2012 ( การผลิตที่สูงมากที่ 440 , 000 ตัน )