Background: Personal health records

Background: Personal health records (PHRs) have emerged as an important tool with which patients can electronically
communicate with their doctors and doctor’s offices. However, there is a lack of theoretical and empirical research on how patients
perceive the PHR and the differences in perceptions between users and non-users of the PHR.
Objective: To apply a theoretical model, the diffusion of innovation model, to the study of PHRs and conduct an exploratory
empirical study on the applicability of the model to the study of perceptions of PHRs. A secondary objective was to assess whether
perceptions of PHRs predict the perceived value of the PHR for communicating with the doctor’s office.
Methods: We first developed a survey capturing perceptions of PHR use and other factors such as sociodemographic
characteristics, access and use of technology, perceived innovativeness in the domain of information technology, and perceptions
of privacy and security. We then conducted a cross-sectional survey (N = 1500). Patients were grouped into five groups of 300:
PHR users (innovators, other users, and laggards), rejecters, and non-adopters. We applied univariate statistical analysis (Pearson
chi-square and one-way ANOVA) to assess differences among groups and used multivariate statistical techniques (factor analysis
and multiple regression analysis) to assess the presence of factors identified by the diffusion of innovation model and the predictors
of our dependent variable (value of PHR for communicating with the doctor’s office).
Results: Of the 1500 surveys, 760 surveys were returned for an overall response rate of 51%. Computer use among non-adopters
(75%) was lower than that among PHR users (99%) and rejecters (92%) (P < .001). Non-adopters also reported a lower score on
personal innovativeness in information technology (mean = 2.8) compared to 3.6 and 3.1, respectively, for users and rejecters (P
< .001). Four factors identified by the diffusion of innovation model emerged in the factor analysis: ease of use, relative advantage,
observability, and trialability. PHR users perceived greater ease of use and relative advantage of the PHR than rejecters and
non-adopters (P

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: ระเบียนสุขภาพส่วนบุคคล (Phr) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ป่วยสามารถทางอิเล็กทรอนิกส์สื่อสารกับแพทย์ของพวกเขาและสำนักงานแพทย์ อย่างไรก็ตาม มีการขาดของการวิจัยเชิงทฤษฎี และเชิงประจักษ์ในผู้ป่วยรับรู้การ PHR และความแตกต่างในการรับรู้ระหว่างผู้ใช้และผู้ที่ไม่ใช้ของ PHR.วัตถุประสงค์: การใช้แบบจำลองทางทฤษฎี การแพร่กระจายของนวัตกรรมแบบ เพื่อการศึกษาของ Phr และดำเนินการสำรวจการศึกษาเชิงประจักษ์ในความเกี่ยวข้องของรูปแบบการศึกษาการรับรู้ของ Phr มีวัตถุประสงค์รองคือเพื่อ ประเมินว่ารับรู้ของ Phr ทำนายรับรู้มูลค่า PHR สำหรับสื่อสารกับสำนักงานของแพทย์วิธีการ: เราได้พัฒนาครั้งแรกการสำรวจจับรับรู้ PHR และปัจจัยอื่น ๆ เช่น sociodemographicกล่าวในโดเมนของเทคโนโลยีสารสนเทศ และทัศนะการรับรู้ลักษณะ การเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เราแล้วทำการสำรวจโรงพยาบาล (N = 1500) ผู้ป่วยที่ถูกจัดกลุ่มเป็น 5 กลุ่ม 300:ผู้ใช้ PHR (นวัตกรรม ผู้ใช้ และอื่น ๆ laggards), rejecters และไม่ใช่ผู้รับบุตรบุญธรรม เราใช้การวิเคราะห์ทางสถิติไร univariate (Pearsonไคสแควร์และทางเดียว ANOVA) ในการประเมินความแตกต่างระหว่างกลุ่มและใช้เทคนิคทางสถิติตัวแปรพหุ (วิเคราะห์ปัจจัยและวิเคราะห์การถดถอย) เพื่อประเมินสถานะของปัจจัยที่ระบุ โดยการแพร่กระจายของนวัตกรรมแบบจำลองและการทำนายของเราขึ้นอยู่กับตัวแปร (ค่าของ PHR สำหรับสื่อสารกับสำนักงานของแพทย์)ผลลัพธ์: การสำรวจ 1500 สำรวจ 760 ถูกส่งกลับสำหรับอัตราการตอบสนองโดยรวมถึง 51% ใช้คอมพิวเตอร์ในหมู่ผู้รับบุตรบุญธรรมไม่(75%) ต่ำกว่าที่ผู้ใช้ PHR (99%) และ rejecters (92%) (P < .001). ไม่ใช่กลุ่มยังรายงานคะแนนต่ำกว่าการบริหารบุคคลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (หมายถึง = 2.8) เมื่อเทียบกับ 3.6 และ 3.1 ตามลำดับ สำหรับผู้ใช้และ rejecters (P< .001). ปัจจัยสี่ที่ระบุ โดยการแพร่กระจายของนวัตกรรมแบบโผล่ออกมาในการวิเคราะห์ปัจจัย: สะดวกในการใช้ ประโยชน์ญาติobservability และ trialability ผู้ใช้ PHR มองว่าใช้ง่ายขึ้นและประโยชน์จากญาติ PHR กว่า rejecters และไม่ใช่ผู้รับบุตรบุญธรรม (P < .001). วิเคราะห์การถดถอยปัจจัยต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นทำนายในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญของค่าของ PHR สำหรับสื่อสารกับสำนักงานของแพทย์: ประโยชน์ญาติ ความง่ายในการใช้ trialability การรับรู้ของระบบรักษาความปลอดภัยอายุ และใช้คอมพิวเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: บันทึกสุขภาพส่วนบุคคล (PHRs) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ป่วยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์สามารถ
สื่อสารกับแพทย์และสำนักงานแพทย์ของพวกเขา แต่มีการขาดการวิจัยเชิงทฤษฎีและเชิงประจักษ์เกี่ยวกับวิธีการที่ผู้ป่วย
รับรู้ PHR และความแตกต่างในการรับรู้ระหว่างผู้ใช้และผู้ใช้ที่ไม่ใช่ของ PHR
วัตถุประสงค์: เพื่อนำไปใช้แบบจำลองทางทฤษฎีการแพร่กระจายของรูปแบบนวัตกรรมเพื่อการศึกษาของ PHRs และดำเนินการสอบสวน
การศึกษาเชิงประจักษ์ในการบังคับใช้ของรูปแบบการศึกษาการรับรู้ของ PHRs วัตถุประสงค์รองคือการประเมินว่า
การรับรู้ของ PHRs คาดการณ์การรับรู้คุณค่าของ PHR สำหรับการสื่อสารกับสำนักงานแพทย์
วิธีการ:
ครั้งแรกที่เราได้พัฒนาแบบสำรวจการจับภาพการรับรู้ในการใช้ PHR และปัจจัยอื่น ๆ เช่นที่ยาวนาน ลักษณะการเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยีการรับรู้นวัตกรรมประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศและการรับรู้
ของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย จากนั้นเราจะดำเนินการสำรวจภาคตัดขวาง (N = 1500) ผู้ป่วยจะถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่ม 300:
ผู้ใช้ PHR (ประดิษฐ์ผู้ใช้อื่น ๆ และ laggards) ปฏิเสธและไม่ใช่ adopters-
เราใช้การวิเคราะห์ทางสถิติ univariate (เพียร์สัน ไคสแควร์และเป็นหนึ่งใน-way ANOVA) เพื่อประเมินความแตกต่างระหว่างกลุ่มและใช้เทคนิคทางสถิติหลายตัวแปร (วิเคราะห์ปัจจัย
และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ) เพื่อประเมินการปรากฏตัวของปัจจัยระบุการแพร่กระจายของรูปแบบนวัตกรรมและการพยากรณ์ที่
ของตัวแปรขึ้นอยู่กับเรา (มูลค่าของ PHR สำหรับการสื่อสารกับสำนักงานแพทย์)
ผล: Of 1500 สำรวจสำรวจ 760 ถูกส่งกลับสำหรับอัตราการตอบสนองโดยรวมของ 51% การใช้คอมพิวเตอร์ในหมู่ที่ไม่ใช่ adopters-
(75%) ต่ำกว่าในหมู่ผู้ใช้ PHR (99%) และปฏิเสธ (92%) (p <0.001) องค์กรไม่แสวงหา adopters-ยังมีรายงานคะแนนที่ลดลงใน
นวัตกรรมส่วนบุคคลในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ค่าเฉลี่ย = 2.8) เมื่อเทียบกับ 3.6 และ 3.1 ตามลำดับ
สำหรับผู้ใช้และผู้ปฏิเสธ (P <.001) ปัจจัยสี่ที่ระบุการแพร่กระจายของรูปแบบนวัตกรรมโผล่ออกมาในการวิเคราะห์ปัจจัยที่สะดวกในการใช้ประโยชน์จากญาติ
สังเกตและ trialability ผู้ใช้ PHR การรับรู้ความสะดวกมากขึ้นในการใช้ประโยชน์และญาติของ PHR กว่าปฏิเสธและ
ไม่ใช่ adopters (p <0.001) การวิเคราะห์การถดถอยหลายแสดงให้เห็นว่าปัจจัยต่อไปนี้เป็นตัวทำนายอย่างมีนัยสำคัญในเชิงบวกของค่า
ของ PHR สำหรับการสื่อสารกับสำนักงานแพทย์: ประโยชน์ญาติสะดวกในการใช้ trialability การรับรู้ของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
อายุและการใช้คอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ PHR การรับรู้ความสะดวกมากขึ้นในการใช้ประโยชน์และญาติของ PHR กว่าปฏิเสธและ ไม่ใช่ adopters (p <0.001) การวิเคราะห์การถดถอยหลายแสดงให้เห็นว่าปัจจัยต่อไปนี้เป็นตัวทำนายอย่างมีนัยสำคัญในเชิงบวกของค่าของ PHR สำหรับการสื่อสารกับสำนักงานแพทย์: ประโยชน์ญาติสะดวกในการใช้ trialability การรับรู้ของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอายุและการใช้คอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ PHR การรับรู้ความสะดวกมากขึ้นในการใช้ประโยชน์และญาติของ PHR กว่าปฏิเสธและ ไม่ใช่ adopters (p <0.001) การวิเคราะห์การถดถอยหลายแสดงให้เห็นว่าปัจจัยต่อไปนี้เป็นตัวทำนายอย่างมีนัยสำคัญในเชิงบวกของค่าของ PHR สำหรับการสื่อสารกับสำนักงานแพทย์: ประโยชน์ญาติสะดวกในการใช้ trialability การรับรู้ของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอายุและการใช้คอมพิวเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติ : ประวัติสุขภาพ ( phrs ) มีชุมนุมเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ผู้ป่วยสามารถทางอิเล็กทรอนิกส์การสื่อสารกับแพทย์และสำนักงานของแพทย์ อย่างไรก็ตาม มีการขาดของทฤษฎีและการวิจัยเชิงประจักษ์ในผู้ป่วยรู้สึกเบื่อ , และความแตกต่างในการรับรู้ระหว่างผู้ใช้ และไม่ใช้ของหยุดวัตถุประสงค์ : เพื่อใช้รูปแบบทางทฤษฎี การแพร่กระจายของรูปแบบนวัตกรรมเพื่อการศึกษาและ phrs ดำเนินการสำรวจการศึกษาเชิงประจักษ์ในการประยุกต์ใช้แบบจำลองเพื่อศึกษาการรับรู้ของ phrs . วัตถุประสงค์รองเพื่อประเมินว่าการรับรู้ของ phrs ทำนายการรับรู้คุณค่าของส่วนการสื่อสารกับสำนักงานของหมอวิธีแรกที่เราพัฒนาแบบสำรวจการใช้ภาพ , และปัจจัยอื่น ๆเช่น อุตสาหกรรมลักษณะ , การเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยี การรับรู้นวัตกรรมในโดเมนของเทคโนโลยีสารสนเทศและการรับรู้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย จากนั้นเราก็ทำการสำรวจแบบตัดขวาง ( n = 1 , 500 ) ผู้ป่วยถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มของ 300 :ผู้ใช้ phr ( นักประดิษฐ์ , ผู้ใช้อื่นและความเสี่ยง ) , rejecters และไม่ใช่ adopters . เราใช้สถิติวิเคราะห์ 2 ( เพียร์สันไคสแควร์ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ( One-way ANOVA ) เพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่มใช้สถิติหลายตัวแปรการวิเคราะห์ปัจจัยและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ) เพื่อประเมินสถานะของปัจจัยที่ระบุการแพร่กระจายของรูปแบบนวัตกรรมและตัวแปรตัวแปรของเรา ( ค่าของส่วนการสื่อสารกับสำนักงานของหมอ )ผลการสำรวจของ 1500 การสำรวจ , 760 ฉบับสำหรับอัตราการตอบสนองโดยรวมได้ 51 % การใช้คอมพิวเตอร์ของไม่ adopters( 75% ) ต่ำกว่าในหมู่ผู้ใช้ phr ( 99% ) และ rejecters ( 92% ) ( p < . 001 ) ไม่ adopters ยังมีรายงานคะแนนน้อยกว่าในนวัตกรรมส่วนบุคคลในเทคโนโลยีสารสนเทศ ( ค่าเฉลี่ย = 2.8 ) เมื่อเทียบกับ 3.6 และ 3.1 ตามลำดับ สำหรับผู้ใช้ และ rejecters ( p< . 001 ) 4 ปัจจัยที่ระบุการแพร่กระจายของรูปแบบนวัตกรรมเกิดขึ้นในการวิเคราะห์ปัจจัย : ความสะดวกในการใช้ประโยชน์จากญาติได้ และการทดลองได้ ผู้ใช้ส่วนการรับรู้มากขึ้นใช้งานง่ายและประโยชน์ของญาติของ rejecters phr และมากกว่าไม่ adopters ( P < . 001 ) การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ พบว่าปัจจัยที่เป็นปัจจัยทางบวกค่าต่อไปนี้ในส่วนสำหรับการสื่อสารกับสำนักงานของหมอ : ความได้เปรียบสัมพัทธ์ ความง่ายในการใช้งาน การทดลองได้ , การรับรู้ของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอายุ และการใช้คอมพิวเตอร์