As if I am not humanSaudi Arabia ne

As if I am not human


Saudi Arabia needs to implement sweeping labour reforms to stamp out abuse of domestic workers in the country, a major rights group has said. US-based Human Rights Watch (HRW) said in a new report released in Indonesia that many Saudis believed they “owned” their foreign domestic workers and treated them like slaves. “Saudis treat them like chattel, slaves, like cattle. A domestic worker is like a slave and slaves have no rights,” the report quoted a “senior consular official” with a foreign embassy in the kingdom as saying. The 133-page report entitled “‘As If I Am Not Human’: Abuses against Asian Domestic Workers in Saudi Arabia,” was compiled after two years of research, the group said. The work included 42 interviews with domestic workers, officials, and labour recruiters in Saudi Arabia and the workers’ countries of origin, it said.

Out of 86 domestic workers interviewed, HRW concluded that 36 faced abuse that amounted to forced labour, trafficking or slavery-like conditions. Some of the cases outlined were horrific. “For one year and five months... no salary at all. I asked for money and they would beat me, or cut me with a knife, or burn me,” Sri Lankan domestic worker Ponnamma S was quoted as telling the rights group. Haima G, a Filipina domestic worker, said her employer called her into his bedroom one day soon after she had arrived and told her she had been “bought” for 10,000 riyals ($2,670). “The employer raped me many times. I told everything to madam. The whole family, madam, the employer, they didn’t want me to go. They locked the doors and gates,” she was quoted as saying. Nour Miyati, an Indonesian domestic worker, had her fingers and toes amputated due to daily beatings and starvation. Charges against her employers were dropped after a three-year legal process, despite a confession from them. “Employers often take away passports and lock workers in the home, increasing their isolation and risk of psychological, physical, and sexual abuse,” HRW said in a statement. It said Saudi labour laws excluded domestic workers, so many were forced to work 18 hours a day, seven days a week - often without pay - for years. Sleeping quarters included closets and bathrooms.


Nisha Varia, HRW’s senior women’s rights researcher, said that in the worst cases the women were “treated like virtual slaves.” The kingdom’s “kafala” or sponsorship system gave employers control over the workers’ visas, meaning they could refuse to allow domestic staff to change jobs or stop them from leaving the country. Indonesia, Sri Lanka, the Philippines and Nepal accounted for the bulk of the women, thousands of whom sought shelter each year at the Saudi social affairs ministry or at their respective embassies. Varia said conditions in the Sri Lankan and Indonesian shelters were described as “horrific.” “I was shocked - you have 200 women in a room that should be for maybe 50 people at the maximum,” she told a press conference. Few of the abusers were ever brought to justice as migrant women who dared to complain risked counter-charges of adultery, witchcraft or moral degradation, punishable by up to ten years’ imprison-ment and 490 lashes. The government has spent years considering labour reform “without taking any action,” Varia said. “It’s now time to make these changes, which include covering domestic workers under the 2005 Labour Law and changing the kafala system so that workers’ visas are no longer tied to their employers,” she said. “The Saudi government should extend Labour Law protections to domestic workers and reform the visa sponsorship system so that women desperate to earn money for their families don’t have to gamble with their lives.” More than eight million migrants work in Saudi Arabia, including 1.5 million domestic workers, most of whom send money back home to their families.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขณะที่หากไม่มนุษย์ซาอุดีอาระเบียต้องการดำเนินการปฏิรูปแรงงานกวาดเพื่อประทับตราออกของแรงงานในประเทศในประเทศ กลุ่มสิทธิหลักได้กล่าวว่า แบบสิทธิมนุษยชนนาฬิกา (ปี้) กล่าวว่า ในรายงานใหม่ในอินโดนีเซียที่ Saudis จำนวนมากเชื่อว่า พวกเขา "เจ้าของ" ของแรงงานในประเทศต่างประเทศ และปฏิบัติเยี่ยงทาส "Saudis ถือเหล่านั้นเช่น chattel ทาส เช่นวัว ผู้ปฏิบัติงานภายในประเทศเป็นเหมือนทาส และทาสไม่มีสิทธิ รายงานอ้างอิงเป็น "อาวุโสกงสุลทาง" กับสถานทูตต่างประเทศในราชอาณาจักรเป็นคำพูด การรายงานหน้า 133 "' ว่าไม่มนุษย์ ': ละเมิดต่อแรงงานในประเทศเอเชียในซาอุดีอาระเบีย, " คอมไพล์หลังจากสองปีของการวิจัย กลุ่มกล่าวว่า การทำงานรวม 42 บทสัมภาษณ์แรงงานในประเทศ เจ้าหน้าที่ และนายหน้าแรงงานในประเทศซาอุดิอาระเบียและประเทศของผู้ปฏิบัติงานของ กล่าวจาก 86 ประเทศแรงงานสัมภาษณ์ ปี้ได้ข้อสรุปว่า 36 ประสบการละเมิดที่มีการบังคับเงื่อนไขแรงงาน ค้ามนุษย์ หรือ เหมือนทาส บางกรณีที่ระบุไว้ได้แบบผิด ๆ ที่นำ "สำหรับหนึ่งปีห้าเดือน...ไม่มีเงินเดือนที่ ขอเงิน และพวกเขาจะชนะฉัน หรือตัดผม ด้วยมีด หรือเขียนฉัน ผู้ปฏิบัติงานในประเทศศรีลังกา Ponnamma S ถูกยกมาเป็นกลุ่มสิทธิบอก Haima G ผู้ปฏิบัติงานในประเทศฟิลิปปิ กล่าวว่า นายจ้างของเธอเรียกเธอเข้าไปในห้องนอนของเขาวันหนึ่งเร็ว ๆ นี้หลังจากที่เธอมาถึง และบอกเธอว่า เธอได้ถูก "ซื้อ" สำหรับไว้ 10,000 (2,670$) "นายจ้างข่มขืนฉันหลายครั้ง ผมบอกทุกอย่างกับผู้หญิง ครอบครัว ผู้หญิง นาย จ้าง ไม่ต้องให้ผมไป พวกเขาถูกล็อคประตูและประตู เธอถูกยกมาเป็นคำพูด Miyati นูร งานในประเทศอินโดนีเซีย มีนิ้วมือและเท้าด้วนเฆี่ยนทุกวันและความอดอยากของเธอ ค่าบริการจากนายจ้างของเธอถูกทิ้งไปหลังจากสามปีกฎหมายกระบวนการ แม้มีการสารภาพจากพวกเขา "นายจ้างมักจะพกพาหนังสือเดินทาง และล็อคคนในบ้าน การแยกและความเสี่ยงของจิตใจ ร่างกาย กาย ปี้กล่าวในแถลงการณ์ มันกล่าวว่า แรงงานในประเทศถูกกฏหมายแรงงานซาอุ จำนวนมากถูกบังคับให้ทำงาน 18 ชั่วโมงต่อวัน เจ็ดวันต่อสัปดาห์ -มักจะไม่มีค่าจ้าง - ปี นอนสี่รวมตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำNisha Varia นักวิจัยอาวุโสสิทธิสตรีของปี้ กล่าวว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุด ผู้หญิง "รับการดูแลเยี่ยงทาสเสมือน" ของ "kafala" หรือระบบสนับสนุนให้นายจ้างควบคุมคนงานวีซ่า หมายความว่า พวกเขาอาจปฏิเสธที่จะอนุญาตให้พนักงานในประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงงาน หรือหยุดการออกจากประเทศ อินโดนีเซีย ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ และเนปาลคิดของผู้หญิง พันที่ขอพักพิงแต่ละปี ที่กระทรวงกิจการสังคมซาอุ หรือกฎเกณฑ์ของพวกเขา Varia กล่าวว่า เงื่อนไขในน้องศรีลังกา และอินโดนีเซียถูกอธิบายไว้เป็น "แบบผิด ๆ ที่นำ" "ตกใจ - คุณมีผู้หญิง 200 ห้องที่ควรบางที 50 คนสูงสุด เธอบอกการแถลง ไม่กี่คนที่เคยถูกนำสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้หญิงแรงงานข้ามชาติที่กล้าบ่นตระหนักค่าเคาน์เตอร์เป็นชู้ คาถา หรือศีลธรรม ลด โทษค่าถัวจำคุก 10 ปีและตา 490 รัฐบาลได้ใช้เวลาปีพิจารณาปฏิรูปแรงงาน "โดยจะดำเนินการใดๆ" Varia กล่าว เธอกล่าวว่า "เวลาที่จะทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงครอบคลุมแรงงานในประเทศภายใต้กฎหมายแรงงาน 2005 และเปลี่ยนแปลงระบบ kafala เพื่อให้ไม่ยึดวีซ่าแรงงานกับนายจ้าง "รัฐบาลซาอุดีควรขยายการคุ้มครองแรงงานกฎหมายแรงงานในประเทศ และปฏิรูประบบสนับสนุนวีซ่าให้ผู้หญิงหมดหวังที่จะได้รับเงินสำหรับครอบครัวของพวกเขาไม่มีการเล่นพนันกับชีวิต" กว่าแปดล้านอพยพทำงานในซาอุดีอาระเบีย รวม 1.5 ล้านแรงงานในประเทศ ส่วนใหญ่ของผู้ที่ส่งเงินกลับบ้านให้ครอบครัวของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถ้าเป็นผมไม่ใช่มนุษย์ซาอุดิอารเบียต้องการที่จะดำเนินการปฏิรูปแรงงานกวาดประทับตราออกละเมิดของแรงงานในประเทศที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่สำคัญได้กล่าวว่า US-based Rights Watch มนุษย์ (เอช) กล่าวในรายงานใหม่ที่ออกในประเทศอินโดนีเซียที่หลายคนเชื่อว่าพวกเขาซาอุดิอาระเบีย "เจ้าของ" คนงานในประเทศของพวกเขาต่างประเทศและรับการรักษาพวกเขาเช่นทาส "ซาอุดิอาระเบียรักษาพวกเขาเช่นสังหาริมทรัพย์ทาสเหมือนวัว คนงานในประเทศเป็นเหมือนทาสและทาสไม่มีสิทธิ "รายงานอ้าง" อย่างเป็นทางการกงสุลอาวุโส "ที่มีสถานทูตต่างประเทศในราชอาณาจักรเป็นคำพูด รายงาน 133 หน้าชื่อ "'ถ้าเป็นผมไม่ได้มนุษย์: การละเมิดต่อแรงงานในประเทศเอเชียในซาอุดิอาระเบีย" ถูกรวบรวมหลังจากสองปีของการวิจัยกลุ่มดังกล่าว งานรวม 42 ให้สัมภาษณ์กับแรงงานเจ้าหน้าที่และนายหน้าแรงงานในซาอุดิอาระเบียและประเทศของคนงานที่มาก็กล่าวว่า. จาก 86 คนงานในประเทศสัมภาษณ์เอชได้ข้อสรุปว่า 36 การละเมิดต้องเผชิญกับการที่มีจำนวนการบังคับใช้แรงงานการค้าหรือการเป็นทาส สภาพเหมือน บางส่วนของกรณีที่ระบุไว้เป็นที่น่ากลัว "สำหรับหนึ่งปีและห้าเดือน ... เงินเดือนที่ไม่ทั้งหมด ผมขอเงินและพวกเขาจะชนะฉันหรือตัดฉันด้วยมีดหรือเผาฉัน "ในประเทศศรีลังกาคนงาน Ponnamma S ถูกยกมาเป็นบอกกลุ่มสิทธิมนุษยชน Haima G, คนงานในประเทศฟิลิปปิกล่าวว่านายจ้างของเธอเรียกเธอเข้าไปในห้องนอนของเขาวันหนึ่งเร็ว ๆ นี้หลังจากที่เธอได้มาถึงแล้วและบอกว่าเธอได้รับการ "ซื้อ" สำหรับ Riyals 10,000 ($ 2,670) "นายจ้างข่มขืนฉันหลายครั้ง ผมบอกทุกอย่างเพื่อแหม่ม ทั้งครอบครัวแหม่มนายจ้างที่พวกเขาไม่ต้องการให้ผมไป พวกเขาล็อคประตูและประตู "เธออ้างว่า Nour Miyati, คนงานในประเทศอินโดนีเซียมีนิ้วมือและนิ้วเท้าของเธอด้วนเนื่องจากการเฆี่ยนตีในชีวิตประจำวันและความอดอยาก ค่าใช้จ่ายกับนายจ้างของเธอถูกทิ้งไว้หลังจากสามปีกระบวนการทางกฎหมายแม้จะมีคำสารภาพจากพวกเขา "นายจ้างมักจะนำมาใช้พาสปอร์ตและคนงานล็อคในบ้านที่เพิ่มขึ้นการแยกและความเสี่ยงของทางด้านจิตใจของพวกเขาทางกายภาพและการล่วงละเมิดทางเพศ" เอชกล่าวในการแถลง มันบอกว่ากฎหมายแรงงานซาอุดีอาระเบียยกเว้นแรงงานจำนวนมากถูกบังคับให้ทำงาน 18 ชั่วโมงต่อวันเจ็ดวันต่อสัปดาห์ - มักจะไม่มีการจ่ายเงิน - ปีที่ผ่านมา นอนรวมตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ. Nisha Varia, เอชของนักวิจัยสิทธิสตรีอาวุโสกล่าวว่าในกรณีที่เลวร้ายที่สุดในผู้หญิงที่ได้รับการ "รับการปฏิบัติเหมือนทาสเสมือน." อาณาจักรของ "kafala" หรือระบบการให้การสนับสนุนให้นายจ้างควบคุมวีซ่าแรงงานหมาย พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธที่จะอนุญาตให้พนักงานในประเทศที่จะเปลี่ยนงานหรือหยุดพวกเขาจากการเดินทางออกนอกประเทศ อินโดนีเซีย, ศรีลังกา, ฟิลิปปินส์และเนปาลคิดเป็นส่วนใหญ่ของผู้หญิงหลายพันคนหาที่หลบภัยในแต่ละปีที่กระทรวงกิจการสังคมซาอุดีอาระเบียหรือที่สถานทูตของตน Varia กล่าวว่าเงื่อนไขในที่พักอาศัยของศรีลังกาและอินโดนีเซียได้รับการอธิบายว่า "ผมตกใจ" ที่น่ากลัว. "- คุณมี 200 ผู้หญิงในห้องที่ควรจะเป็นสำหรับบางที 50 คนที่สูงสุด" เธอบอกแถลงข่าว บางส่วนของผู้ที่ทำร้ายถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่เคยเป็นแรงงานข้ามชาติหญิงที่กล้าที่จะบ่นเสี่ยงค่าใช้จ่ายที่เคาน์เตอร์เป็นชู้คาถาหรือความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมโทษถึงสิบปีจำคุก-ment และ 490 ขนตา รัฐบาลได้ใช้เวลาหลายปีพิจารณาการปฏิรูปแรงงาน "โดยไม่มีการดำเนินการใด ๆ " Varia กล่าวว่า "ก็ตอนนี้ถึงเวลาที่จะทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ซึ่งรวมถึงการครอบคลุมแรงงานภายใต้ 2005 กฎหมายแรงงานและการเปลี่ยนแปลงระบบ kafala เพื่อให้การขอวีซ่าของคนงานที่ถูกผูกไว้ไม่ให้นายจ้างของพวกเขา" เธอกล่าว "รัฐบาลซาอุควรขยายการคุ้มครองกฎหมายแรงงานให้กับแรงงานในประเทศและปฏิรูประบบการให้การสนับสนุนการขอวีซ่าเพื่อให้ผู้หญิงที่หมดหวังที่จะได้รับเงินสำหรับครอบครัวของพวกเขาจะได้ไม่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตของพวกเขา." มากกว่าแปดล้านแรงงานข้ามชาติที่ทำงานในซาอุดิอาระเบียรวมทั้ง 1.5 ล้านคนงานในประเทศซึ่งส่วนใหญ่ส่งเงินกลับบ้านไปครอบครัวของพวกเขา