Callaghan et al. (2014) recently at

Callaghan et al. (2014) recently attempted to renew interest in understanding infantile amnesia, and urged the use of new technologies in molecular biology to unpack the molecular basis of this phenomenon. In a similar vein, here we suggest that it may be time for the infant memory field to take on board new theories of memory and hippocampal function, and embrace technologies such as MRI that could offer a means of progressing points of dispute. To be clear, we are not advocating the abandonment of cognitive testing of infants in favour of fMRI, rather we suggest that the use of MRI could help to motivate and constrain neurocognitive theories of memory development in human infants. Indeed, grounding infant memory in neurobiology may be even more important than for adults given the inability of infants to disclose anything about their own capabilities. The challenges of utilising techniques such as fMRI are substantial, however, the potential rewards we believe could be manifold.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คัลลาฮาน et al. (2014) ล่าสุดพยายามสนใจใน amnesia infantile เข้าใจต่ออายุ และเรียกร้องให้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ในอณูชีววิทยาแยกโมเลกุลพื้นฐานของปรากฏการณ์นี้ ในหลอดเลือดดำที่คล้ายกัน นี่เราขอแนะนำว่า อาจเป็นเวลาสำหรับฟิลด์หน่วยความจำทารกบนทฤษฎีใหม่ของหน่วยความจำและฟังก์ชัน hippocampal และโอบกอดเทคโนโลยีเช่น MRI ที่สามารถนำเสนอเป็นค่าเฉลี่ยของคะแนนความก้าวหน้าของข้อโต้แย้ง พ้น เราไม่มี advocating abandonment ของทดสอบรับรู้ของทารกลง fMRI แต่เราขอแนะนำว่า การใช้ MRI จะช่วยจูงใจ และทฤษฎี neurocognitive ของหน่วยความจำในทารกมนุษย์จำกัด แน่นอน กฟผจำทารกใน neurobiology ได้ยิ่งสำคัญกว่าสำหรับผู้ใหญ่รับไม่ทารกจะเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับความสามารถของตนเอง ความท้าทายของโดยเทคนิคเช่น fMRI จะพบ ไร รางวัลศักยภาพที่เราเชื่ออาจความหลากหลายนับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แกห์นและอัล (2014) เมื่อเร็ว ๆ นี้พยายามที่จะต่ออายุความสนใจในความทรงจำในวัยแรกเกิดความเข้าใจและกระตุ้นการใช้เทคโนโลยีใหม่ในการอณูชีววิทยาที่จะแกะโมเลกุลพื้นฐานของปรากฏการณ์นี้ ในทำนองเดียวกันที่นี่เราแสดงให้เห็นว่ามันอาจจะมีเวลาสำหรับสนามเด็กทารกหน่วยความจำที่จะใช้ในคณะกรรมการทฤษฎีใหม่ของหน่วยความจำและฟังก์ชั่น hippocampal และโอบกอดเทคโนโลยีเช่น MRI ที่สามารถนำเสนอวิธีการของความคืบหน้าจุดที่มีข้อพิพาท ต้องมีความชัดเจนเราไม่ได้เรียกร้องให้ยกเลิกการทดสอบความรู้ความเข้าใจของทารกในความโปรดปรานของ fMRI ค่อนข้างเราขอแนะนำว่าการใช้ MRI จะช่วยในการกระตุ้นและ จำกัด neurocognitive ทฤษฎีของการพัฒนาหน่วยความจำในทารกมนุษย์ อันที่จริงดินหน่วยความจำของทารกในชีววิทยาอาจจะยิ่งมีความสำคัญมากกว่าสำหรับผู้ใหญ่ได้รับการไร้ความสามารถของทารกที่จะเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับความสามารถของตัวเอง ความท้าทายของการใช้เทคนิคเช่น fMRI เป็นอย่างมาก แต่ผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นเราเชื่อว่าอาจจะมีมากมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แฮน et al . ( 2014 ) เมื่อเร็ว ๆนี้พยายามที่จะต่ออายุดอกเบี้ยในความเข้าใจในความจำเสื่อม และเรียกร้องให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการศึกษาชีววิทยาระดับโมเลกุลของพื้นฐานระดับโมเลกุลของปรากฏการณ์นี้ ในหลอดเลือดดำที่คล้ายกันที่นี่เราแนะนำว่ามันอาจจะถึงเวลาที่ทารกหน่วยความจำสนามที่จะใช้ในบอร์ดใหม่ของหน่วยความจำและน้ำหนักทฤษฎีฟังก์ชัน ,และโอบกอดเทคโนโลยีเช่น MRI ที่ได้เสนอวิธีการพัฒนาจุดของความขัดแย้ง ให้ชัดเจน เราไม่สนับสนุนการทดสอบสติปัญญาของทารกในความโปรดปรานของ fMRI แต่เราแนะนำให้ใช้เครื่อง MRI จะช่วยในการกระตุ้นและผลักดันทฤษฎีการพัฒนาหน่วยความจำ neurocognitive ในทารกมนุษย์ แน่นอนสายดินหน่วยความจำของทารกในประสาทชีววิทยาที่อาจจะสำคัญกว่าสำหรับผู้ใหญ่ได้รับการไร้ความสามารถของทารกให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของตนเอง ความท้าทายของการใช้เทคนิคเช่น fMRI เป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าศักยภาพรางวัลได้มากมาย