Severe and sometimes fatal infusion

Severe and sometimes fatal infusion reactions may occur with rituximab. These reactions may occur while you receive rituximab or within 24 hours after you receive it. Tell your doctor right away if you develop blurred vision, chest pain, cough, dizziness, drowsiness, fainting, fast or irregular heartbeat, headache, hives, itching, numbness of an arm or leg, shortness of breath, swelling (eg, lips, tongue, throat, face), trouble breathing, weakness, or wheezing while you receive or after you receive rituximab.

Severe and sometimes fatal skin and mouth reactions (Stevens-Johnson syndrome/toxic epidermal necrolysis) may occur during treatment with rituximab. Tell your doctor right away if you experience red, swollen, peeling, or blistered skin; or sores or ulcers on your skin, lips, or in your mouth.

If you have had hepatitis B before or carry the virus, rituximab can cause the virus to become active again. This can lead to severe and sometimes deadly liver problems. Your doctor will watch you for hepatitis B infection before treatment, while you take rituximab, and for several months after you stop rituximab. Do not take rituximab if you have active hepatitis liver disease.

A rare viral infection of the brain (progressive multifocal leukoencephalopathy [PML]) can occur with the use of rituximab in certain patients. PML is serious and sometimes fatal. Most cases of PML have occurred within 12 months of the last dose of rituximab. Tell your doctor right away if you notice new or worsening medical problems, such as confusion, disorientation, or problems thinking; decreased strength or weakness; unusual vision problems (eg, blurred vision, loss of vision); trouble walking or talking; or loss of balance or coordination.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รุนแรงและบางครั้งปฏิกิริยาแช่ร้ายแรงอาจเกิดขึ้นกับ rituximab ปฏิกิริยาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในขณะที่คุณได้รับ rituximab หรือภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่คุณได้รับมัน แจ้งให้แพทย์ของคุณทันทีถ้าคุณพัฒนาตาพร่ามัวเจ็บหน้าอกไอเวียนศีรษะ, ง่วงนอนเป็นลมหัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ, ปวดหัว, ลมพิษอาการคันอาการชาของแขนหรือขา, หายใจถี่บวม (เช่นริมฝีปาก ลิ้นลำคอใบหน้า) ปัญหาในการหายใจอ่อนแอหรือหายใจในขณะที่คุณได้รับหรือหลังจากที่คุณได้รับ rituximab. ผิวอย่างรุนแรงและร้ายแรงบางครั้งและเกิดอาการปาก (สตีเว่นจอห์นสันซินโดรม-/ เป็นพิษที่ผิวหนัง necrolysis) อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษาด้วย rituximab แจ้งให้แพทย์ของคุณได้ทันทีหากคุณพบแดงบวมปอกเปลือกหรือผิวพอง; หรือแผลหรือแผลบนผิวของคุณริมฝีปากหรือในปากของคุณ. หากคุณมีไวรัสตับอักเสบบีก่อนที่จะดำเนินการหรือไวรัส rituximab สามารถก่อให้เกิดไวรัสที่จะกลายเป็นใช้งานอีกครั้ง นี้สามารถนำไปสู่ปัญหาตับอย่างรุนแรงและร้ายแรงบางครั้ง แพทย์จะดูคุณเชื้อไวรัสตับอักเสบบีก่อนการรักษาในขณะที่คุณใช้เวลา rituximab และเป็นเวลาหลายเดือนหลังจากที่คุณหยุด rituximab ไม่ได้ใช้ rituximab ถ้าคุณมีโรคตับโรคตับอักเสบที่ใช้งาน. การติดเชื้อไวรัสที่หายากของสมอง (โรค multifocal leukoencephalopathy [PML]) สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ rituximab ในผู้ป่วยบางอย่าง PML ร้ายแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตบางครั้ง ส่วนกรณีของ PML เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 12 เดือนของปริมาณที่ล่าสุดของ rituximab แจ้งให้แพทย์ของคุณทันทีถ้าคุณสังเกตเห็นปัญหาทางการแพทย์ใหม่หรือเลวลงเช่นความสับสนสับสนหรือคิดปัญหา ลดลงความแข็งแรงหรืออ่อนแอ; ปัญหาการมองเห็นที่ผิดปกติ (เช่นตาพร่ามัว, การสูญเสียการมองเห็น); ปัญหาในการเดินหรือพูดคุย; หรือการสูญเสียความสมดุลหรือการประสานงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บางครั้งปฏิกิริยารุนแรงและร้ายแรงอาจเกิดขึ้นกับยาริทูซิแมบ . ปฏิกิริยาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในขณะที่คุณได้รับริทูกซิแม็บ หรือภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่คุณได้รับมัน บอกแพทย์ของคุณทันทีถ้าคุณพัฒนาวิสัยทัศน์ blurred , เจ็บหน้าอก , ไอ วิงเวียนศีรษะ ซึม หมดสติ รวดเร็ว หรือหัวใจเต้นผิดปกติ , ปวดหัว , ลมพิษ , คัน , อาการชาของแขนหรือขา หายใจถี่ บวมได้ ( เช่นริมฝีปาก ลิ้น คอ ใบหน้า ) , ปัญหาการหายใจ , อ่อนแอ , หรือหอบในขณะที่คุณได้รับหรือหลังจากที่คุณได้รับริทูซิแมบ

รุนแรงและบางครั้งร้ายแรง ผิว ปาก ปฏิกิริยา ( สตีเวนจอห์นสันซินโดรม / พิษระยะตื่นตัว ) ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษาด้วยริทูซิแมบ . บอกแพทย์ของคุณทันทีถ้าคุณพบ แดง บวม ลอกหรือพองหรือแผลที่ผิวหนัง หรือแผลที่ผิวหนัง ปากหรือในปากของคุณ .

ถ้าคุณมีไวรัสตับอักเสบบีก่อน หรือแบกไวรัส ริทูซิแม็บสามารถทำให้เกิดไวรัสมาใช้งานอีกครั้ง นี้สามารถทำให้รุนแรง และบางครั้งร้ายแรงปัญหาเกี่ยวกับตับ แพทย์ของคุณจะดูที่คุณการติดเชื้อตับอักเสบบี ก่อนการรักษา ในขณะที่คุณใช้ริทูซิแมบ และเป็นเวลาหลายเดือนหลังจากที่คุณหยุดริทูซิแมบ .ไม่ใช้ริทูซิแมบถ้าคุณมีโรคตับอักเสบโรคตับ

การติดเชื้อไวรัสที่หายากของสมอง ( progressive multifocal เป็น โรค leukoencephalopathy ละ [ 2.1 ] ) สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ริทูซิแมบในผู้ป่วยบาง ความพิการร้ายแรง และบางครั้งร้ายแรง กรณีส่วนใหญ่ของความพิการที่เกิดขึ้นภายใน 12 เดือนสุดท้ายของยาริทูซิแมบ .บอกแพทย์ของคุณทันทีถ้าคุณสังเกตเห็นใหม่หรือเลวลงปัญหาทางการแพทย์ เช่น ความสับสน ความสับสน หรือปัญหาการคิด ลดความแรงหรือความอ่อนแอ ปัญหาสายตาผิดปกติ ( เช่น ตาพร่ามัว การสูญเสียของวิสัยทัศน์ ) ; เดินหรือพูดคุย หรือเสียสมดุล หรือประสานงาน