So what made this specimen so pecul

So what made this specimen so peculiar? For starters, the skeleton was only 15 centimeters (6 inches) long. Many initially speculated that the remains were from a premature birth or miscarried fetus, though others disregarded the whole thing as a hoax.

Ata’s size isn’t the only thing that perplexed researchers; a host of physical deformities did not make it entirely clear if the skeleton is human or a non-human primate. Humans have 12 ribs, but this individual only had 10. The skull indicated the organism could have had turricephaly, which gives the head a cone-shaped appearance (which really didn’t help dissuade people from thinking Ata was an alien). Additional deformity of the face and jaw made the head look squished, giving it an appearance that was even further away from a typical human. 

The skeleton remained in a private collection until 2009, when it had been brought to a symposium in Barcelona. In the fall of 2012, scientists were given an opportunity to study Ata via x-rays, CAT scans, and genetic sampling. Imaging showed that the chest cavity still had the remains of lungs and a heart inside. The Atacama Desert is one of the most arid regions on the planet, and would allow biological material to preserve incredibly well. 

The preliminary genetic results do indicate the skeleton is definitely of human origin, but about 9% of the DNA tested did not match the human genome reference. While 9% sounds like a huge discrepancy, it just refers to the sequence portions used for reference, not the entire genome. These results are well within the expected parameters for contamination and degradation of the DNA after spending so long exposed to the elements. The preliminary results of the mitochondrial DNA were consistent with a haplotype found in Chile, meaning Ata’s mother was local to the area where the remains were found. 

One of the most amazing discoveries from the analysis was that Ata was not a fetus. There were mature teeth present in the mouth and the bones were well-developed, with the leg bones showing growth plates that one would expect to see in a 6-8 year old child. While the testing did provide answers, it also raised many more questions. How could a 6 year old child only be 6 inches long? 

There are a few possibilities to explain this:

Dwarfism: It is possible that Ata was the afflicted with an extreme case of dwarfism, though the smallest person ever confirmed was 54.6 cm (21.5 in) tall. Also, no genetic indicators of dwarfism have been identified yet.

Progeria: Ata could be a fetus that suffered from an extreme form of progeria, which brings about symptoms of aging very early in life. However, there aren’t any genetic indicators of that disease yet, either.

Mummification: It is possible that the genotype and phenotype aren’t matching up because there weren’t any genetic anomalies. Ata may have been stillborn or miscarried and then subjected to badly-performed desiccation or mummification, causing the bones to take on such an odd appearance. But, this explanation can’t account for the two missing ribs or growth plates within the bones.

While we do know that Ata was human and most definitely not an extraterrestrial (no matter what the “documentary” Sirius has to say), that’s about the extent of what can be said for sure. More thorough genetic testing is still ongoing and researchers are trying to reconcile the base pairs that did not match up with the human reference. The only information that has been released so far has been preliminary, though the researchers have pledged that further results will go through the appropriate peer-review channels and be published in an accredited scientific journal. 

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้น สิ่งที่ทำตัวอย่างนี้ดังนั้นแปลกประหลาด การเริ่ม โครงกระดูกถูกเพียง 15 เซนติเมตร (6 นิ้ว) ยาว หลายเริ่มคาดว่า เหลือได้จากการคลอดก่อนกำหนด หรือ miscarried อ่อน แม้ผู้อื่นละเว้นสิ่งทั้งหมดเป็นการหลอกลวงสิ่งเดียวที่งงนักวิจัย ไม่ใช่ขนาดของ Ata โฮสต์ของ deformities ทางกายภาพไม่ทำให้มันชัดเจนว่าโครงกระดูกมนุษย์หรือถือไม่ใช่มนุษย์ มนุษย์มีซี่โครง 12 แต่บุคคลนี้มีเพียง 10 กะโหลกศีรษะระบุสิ่งมีชีวิตที่ไม่มี turricephaly ซึ่งทำให้หัวมีลักษณะรูปทรงกรวย (ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้ช่วยคนจากคิด Ata dissuade เป็นคนต่างด้าว) หัวมองให้มันลักษณะที่เพิ่มเติมจากบุคคลทั่วไป squished, deformity เพิ่มเติมของใบหน้าและขากรรไกรได้ โครงกระดูกที่อยู่ในคอลเลกชันส่วนตัวจนกระทั่ง 2009 เมื่อมันได้รับมาให้วิชาการบาเซโลน่า ในฤดูใบไม้ร่วง 2012 นักวิทยาศาสตร์ได้รับโอกาสศึกษา Ata ผ่านรังสีเอกซ์ CAT สแกน และสุ่มตัวอย่างทางพันธุกรรม ภาพแสดงให้เห็นว่า ช่องอกยังมีของปอดและหัวใจภายใน ทะเลทรายอาตากามาเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่แห้งแล้งที่สุดในโลก และจะช่วยให้วัสดุชีวภาพเพื่อรักษาชิ้นดี ผลทางพันธุกรรมเบื้องต้นบ่งชี้ว่า โครงกระดูกเป็นต้นกำเนิดมนุษย์ แต่ประมาณ 9% ของดีเอ็นเอที่ผ่านทดสอบไม่ตรงกับการอ้างอิงมมนุษย์ ในขณะที่เสียง 9% ชอบขัดแย้งขนาดใหญ่ ก็เพียงอ้างถึงส่วนลำดับที่ใช้สำหรับการอ้างอิง ไม่ทั้งจีโนม ผลลัพธ์เหล่านี้ได้ดีภายในพารามิเตอร์การปนเปื้อนของ DNA คาดไว้หลังจากใช้จ่ายนาน สัมผัสกับองค์ประกอบ ผลเบื้องต้นของ mitochondrial DNA ได้สอดคล้องกับ haplotype ที่พบในประเทศชิลี หมายถึง แม่ของ Ata ได้ในบริเวณที่ค้นพบอยู่ การค้นพบที่ดีที่สุดจากการวิเคราะห์อย่างใดอย่างหนึ่งได้ว่า Ata ไม่อ่อนตัว มีฟันอยู่ในปากผู้ใหญ่ และได้พัฒนาห้อง กระดูกกับกระดูกขาแสดงแผ่นเจริญเติบโตคาดว่าจะเห็นในเด็กอายุ 6-8 ปี ในขณะที่การทดสอบไม่ได้ให้คำตอบ จะยกหลายคำถามเพิ่มเติม วิธีอาจเป็นเด็กอายุ 6 ปีจะยาว 6 นิ้ว มีกี่ไปอธิบายนี้:Dwarfism: เป็นไปได้ว่า Ata ถูกทรมานกับกรณี dwarfism มีมาก แม้ว่าคนน้อยที่สุดเคยได้รับการยืนยันเป็น 54.6 ซม. (21.5 ใน) สูง ยัง ไม่ชี้ทางพันธุกรรมของ dwarfism มีระบุยังProgeria: Ata อาจจะอ่อนที่จากฟอร์มมากของ progeria ซึ่งนำเกี่ยวกับอาการของริ้วรอยแรกสุดในชีวิต อย่างไรก็ตาม ไม่มีตัวบ่งชี้ใด ๆ ทางพันธุกรรมของโรคนั้นแต่ อย่างใดอย่างหนึ่งMummification: It is possible that the genotype and phenotype aren’t matching up because there weren’t any genetic anomalies. Ata may have been stillborn or miscarried and then subjected to badly-performed desiccation or mummification, causing the bones to take on such an odd appearance. But, this explanation can’t account for the two missing ribs or growth plates within the bones.While we do know that Ata was human and most definitely not an extraterrestrial (no matter what the “documentary” Sirius has to say), that’s about the extent of what can be said for sure. More thorough genetic testing is still ongoing and researchers are trying to reconcile the base pairs that did not match up with the human reference. The only information that has been released so far has been preliminary, though the researchers have pledged that further results will go through the appropriate peer-review channels and be published in an accredited scientific journal.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นสิ่งที่ทำให้ชิ้นงานที่แปลกประหลาดนี้เพื่อ? สำหรับการเริ่มโครงกระดูกเป็นเพียง 15 เซนติเมตร (6 นิ้ว) ยาว หลายคนคาดการณ์ว่าในขั้นต้นยังคงมาจากการคลอดก่อนกำหนดหรือทารกในครรภ์แท้ง แต่คนอื่นมองข้ามสิ่งที่ทั้งเป็นหลอกลวง. ขนาด Ata ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่งงนักวิจัย; โฮสต์ของความผิดปกติทางกายภาพไม่ได้ทำให้มันชัดเจนถ้าเป็นโครงกระดูกของมนุษย์หรือเจ้าคณะไม่ใช่มนุษย์ มนุษย์มี 12 ซี่โครง แต่บุคคลนี้มีเพียง 10 กะโหลกศีรษะพบสิ่งมีชีวิตจะได้มี turricephaly ซึ่งจะช่วยให้หัวลักษณะรูปทรงกรวย (ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ช่วยห้ามปรามคนที่มาจากความคิด Ata ถูกมนุษย์ต่างดาว) ความผิดปกติเพิ่มเติมของใบหน้าและขากรรไกรที่ทำหัวดู squished ให้มันปรากฏว่าก็ยิ่งห่างไกลจากมนุษย์ทั่วไป.  โครงกระดูกยังคงอยู่ในคอลเลกชันส่วนตัวจนกระทั่งปี 2009 เมื่อมันถูกนำตัวไปที่การประชุมสัมมนาในบาร์เซโลนา ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2012 นักวิทยาศาสตร์ได้รับโอกาสในการศึกษา Ata ผ่านรังสีเอกซ์สแกน CAT และการสุ่มตัวอย่างทางพันธุกรรม การถ่ายภาพแสดงให้เห็นว่าช่องอกยังคงมีซากของปอดและหัวใจภายใน ทะเลทรายอาตากาเป็นหนึ่งในดินแดนแห้งแล้งที่สุดในโลกและจะช่วยให้วัสดุชีวภาพที่จะรักษาได้ดีอย่างเหลือเชื่อ.  ผลทางพันธุกรรมเบื้องต้นบ่งชี้ถึงการทำโครงกระดูกแน่นอนของการกำเนิดของมนุษย์ แต่ประมาณ 9% ของการทดสอบดีเอ็นเอไม่ตรงกับ อ้างอิงจีโนมมนุษย์ 9% ในขณะที่เสียงเหมือนความแตกต่างอย่างมากก็แค่หมายถึงลำดับส่วนที่ใช้สำหรับการอ้างอิงไม่จีโนมทั้งหมด ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นอย่างดีภายในพารามิเตอร์คาดว่าการปนเปื้อนและการเสื่อมสภาพของดีเอ็นเอหลังจากที่การใช้จ่ายเพื่อให้สัมผัสยาวกับองค์ประกอบ ผลการศึกษาเบื้องต้นของยลดีเอ็นเอมีความสอดคล้องกับ haplotype พบในชิลีหมายถึงแม่ของ Ata ท้องถิ่นที่จะเป็นพื้นที่ที่มีการพบซาก.  หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดจากการวิเคราะห์คือการที่ไม่ได้ Ata ทารกในครรภ์ มีผู้ใหญ่ฟันอยู่ในปากและกระดูกที่ถูกพัฒนาที่ดีกับกระดูกขาแผ่นแสดงการเจริญเติบโตที่จะคาดหวังที่จะเห็นใน 6-8 ปีเด็กอายุ ขณะที่การทดสอบไม่ให้คำตอบก็ยังยกคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรจะ 6 ปีเด็กอายุเพียง 6 นิ้วยาว  มีความเป็นไปได้ไม่กี่ที่จะอธิบายนี้: แคระแกร็น: มันเป็นไปได้ว่า Ata เป็นทุกข์กับกรณีที่รุนแรงของแคระแกร็น แต่คนที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยได้รับการยืนยันเป็น 54.6 เซนติเมตร (21.5 ใน) สูง นอกจากนี้ยังไม่มีตัวชี้วัดทางพันธุกรรมของแคระแกร็นได้รับการระบุยัง. Progeria: Ata อาจเป็นทารกในครรภ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากรูปแบบที่รุนแรงของ progeria ซึ่งนำเกี่ยวกับอาการของริ้วรอยมากในช่วงต้นชีวิต แต่มีไม่ได้ตัวชี้วัดทางพันธุกรรมใด ๆ ของโรคที่ยังอย่างใดอย่างหนึ่ง. มัมมี่: มันเป็นไปได้ว่าจีโนไทป์และฟีโนไทป์จะไม่ได้รับการจับคู่ขึ้นเพราะมีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ไม่ได้ใด ๆ Ata อาจได้รับการสำเร็จหรือสาส์นแล้วภายใต้การดำเนินการไม่ดีหรือผึ่งให้แห้งมัมมี่ทำให้กระดูกที่จะใช้ในลักษณะดังกล่าวที่แปลก แต่คำอธิบายนี้ไม่สามารถบัญชีสำหรับสองซี่โครงที่ขาดหายไปหรือแผ่นการเจริญเติบโตของกระดูกภายใน. ในขณะที่เราจะรู้ว่า Ata เป็นมนุษย์และแน่นอนที่สุดไม่ต่างดาว (ไม่ว่าสิ่งที่ "สารคดี" ซิเรียสมีจะบอกว่าไม่มี) ที่เกี่ยวกับ ขอบเขตของสิ่งที่สามารถกล่าวว่าสำหรับการตรวจสอบ การทดสอบทางพันธุกรรมอย่างละเอียดมากขึ้นยังคงต่อเนื่องและนักวิจัยที่มีความพยายามที่จะเจรจาต่อรองฐานคู่ที่ไม่ตรงกับการอ้างอิงของมนุษย์ ข้อมูลเดียวที่ได้รับการเผยแพร่เพื่อให้ห่างไกลได้รับเบื้องต้นแม้ว่านักวิจัยได้ให้คำมั่นสัญญาว่าผลต่อไปจะไปผ่านช่องทบทวนความเหมาะสมและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการรับรอง 

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรที่ทำให้ตัวอย่างนี้แปลกจริงๆ ? สำหรับ starters , โครงกระดูกเพียง 15 เซนติเมตร ( 6 นิ้ว ) ยาว หลายคนเริ่มคาดการณ์ว่ายังคงมีจากคลอดก่อนกําหนด หรือแท้งบุตร แม้คนอื่นไม่สนใจเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวง

ATA ขนาดไม่ใช่สิ่งเดียวที่งงงวย นักวิจัย ;โฮสต์ของการเสื่อมสภาพของร่างกาย ไม่ให้มันแจ่มแจ้ง ถ้าโครงกระดูกของมนุษย์หรือมนุษย์ลิง . มนุษย์มี 12 ซี่ แต่บุคคลนี้มีเพียง 10 กะโหลกศีรษะ พบสิ่งมีชีวิตที่สามารถมี turricephaly ซึ่งจะช่วยให้หัวเป็นลักษณะรูปทรงกรวย ( ซึ่งจริงๆไม่ได้ช่วยห้ามปรามคนคิด ATA เป็นเอเลี่ยน )ความผิดปกติอื่นของใบหน้าและขากรรไกร ทำให้หัวดูเหนอะหนะ ให้มีลักษณะที่ยังห่างไกลจากปกติมนุษย์ รึเปล่า

โครงกระดูกอยู่ในคอลเลกชันส่วนตัวจนกว่า 2009 , เมื่อมันมาถึงโลกในบาร์เซโลนา ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2012 นักวิทยาศาสตร์ได้รับโอกาสในการศึกษาถึงทางรังสีเอกซ์ , CAT สแกน และพันธุกรรม การสุ่มตัวอย่างภาพแสดงที่ช่องอกยังคงมีซากของปอดและหัวใจข้างใน ทะเลทรายอะตาคามาเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่แห้งแล้งที่สุดบนโลก และจะช่วยให้วัสดุทางชีวภาพ เพื่อรักษาอย่างดี รึเปล่า

เบื้องต้นการศึกษาพันธุกรรมทำพบโครงกระดูกของมนุษย์แน่นอน แต่ประมาณ 9% ของการทดสอบดีเอ็นเอไม่ตรงกับการอ้างอิงจีโนมมนุษย์ในขณะที่ 9% เหมือนความแตกต่างขนาดใหญ่ มันหมายถึงลำดับส่วนที่ใช้สำหรับอ้างอิง ไม่ใช่ทั้งจีโนม . ทำไมผลเหล่านี้เป็นอย่างดีภายในคาดว่าพารามิเตอร์การปนเปื้อนและการเสื่อมของ DNA หลังจากใช้เวลานาน สัมผัสกับองค์ประกอบ อะไรผลลัพธ์เบื้องต้นของ mitochondrial DNA ที่สอดคล้องกับพบ พบ ในชิลีความหมายคือแม่ ATA เป็นพื้นที่ที่ศพถูกพบ รึเปล่า

หนึ่งของการค้นพบที่น่าทึ่งที่สุดจากการวิเคราะห์คือ ATA เป็นทารกในครรภ์ มีผู้ใหญ่ฟันอยู่ในปาก และกระดูกเต่ง กับขาจานกระดูกแสดงการเจริญเติบโตที่คาดหวังที่จะเห็นใน 6-8 ปีเด็กเก่า ในขณะที่การทดสอบไม่ได้ให้คำตอบมันยังยกอีกหลายคำถาม ทำไม 6 ปีเด็กอายุแค่ 6 นิ้วยาว รึเปล่า

มีไม่กี่ ความเป็นไปได้ที่จะอธิบายนี้ :

แคระ : เป็นไปได้ว่า ATA คือ afflicted กับกรณีที่รุนแรงของร่างกาย แม้ว่าคนตัวเล็กที่สุด เคยยืนยันเป็น 54.6 เซนติเมตร ( 21.5 นิ้ว ) สูง ยังไม่มีพันธุกรรมบ่งชี้อย่างชัดแจ้งได้ระบุได้

โปรจีเรีย :ATA สามารถทารกในครรภ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากรูปแบบสุดโต่งของโพรจีเรีย ซึ่งนำเกี่ยวกับอาการของริ้วรอยมากก่อนในชีวิต อย่างไรก็ตาม , มีไม่ใด ๆตัวบ่งชี้ทางพันธุกรรมของโรคเหมือนกัน

เป็นมัมมี่ : เป็นไปได้ว่าพันธุกรรม กับการไม่ตรงกันเพราะไม่มีพันธุกรรมความผิดปกติ