Interference study was carried out

Interference study was carried out with several chemical
substances prior to the application of the proposed method to
Fig. 5. Photocurrent of Ti/TiO2 electrode for several on–off cycles of illumination
at an applied potential of 0.6 V vs. reference electrode in (a) phosphate buffer
solution (pH 7.0), (b) as aþ7.00 mM formaldehyde and (c) as aþ14.00 mM
formaldehyde.
Fig. 6. Effect of pH value of solution on difference between phototocurrents
Ti/TiO2 electrode in the absence and the presence of 13.00 mM formaldehyde at
bias potential 0.6 V vs. reference electrode.
Fig. 7. Effect of bias potential on difference between phototocurrents Ti/TiO2
electrode in the absence and the presence of 13.00 mM formaldehyde in
phosphate buffer solution (pH 7.0).
Fig. 8. Six successive hydrodynamic amperograms of Ti/TiO2 electrode in the
phosphate buffer solution (pH 7.0) at bias potential 0.6 V vs. reference electrode.
280 R. Ojani et al. / Talanta 99 (2012) 277–282
determine formaldehyde. The potential interfering substances
were chosen from some substances commonly found with formaldehyde.
The tolerance limit is defined as the maximum
concentration of the interfering substance that causes relative
error less than 5% for the determination of 13.00 mM formaldehyde.
The results showed that 20-fold quantities of glucose,
fructose and sucrose and 40-fold quantities of Kþ, Naþ, Mg2þ,
Ca2þ, Cl, F, HCO3
and SO4
2 had no interference on formaldehyde
determination. However, ascorbic acid had major interference
for determination of formaldehyde at the surface of Ti/TiO2
electrode. Interference from ascorbic acid can be minimized by
us

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รบกวนศึกษาได้ดำเนินการ ด้วยสารเคมีหลายสารก่อนการประยุกต์ใช้วิธีการนำเสนอในการFig. 5 Photocurrent ของอิเล็กโทรด ตี้/TiO2 สำหรับหลาย – ปิดรอบของรัศมีที่มีศักยภาพใช้ 0.6 V เทียบกับอิเล็กโทรดอ้างอิงในฟอสเฟตบัฟเฟอร์ (a)โซลูชัน (pH 7.0) (b) เป็นฟอร์มาลดีไฮด์มม. aþ7.00 และ (ค) เป็นมม. aþ14.00ฟอร์มาลดีไฮด์Fig. 6 ผลของค่า pH ของการแก้ปัญหาความแตกต่างระหว่าง phototocurrentsอิเล็กโทรด ตี้/TiO2 ในการขาดงานและการเป็นฟอร์มาลดีไฮด์ 13.00 มม.ที่ตั้งเป็น 0.6 V เทียบกับอิเล็กโทรดอ้างอิงFig. 7 ผลของความโน้มเอียงไปในความแตกต่างระหว่าง phototocurrents ตี้/TiO2อิเล็กโทรดในการขาดงานและการเป็นฟอร์มาลดีไฮด์ 13.00 มม.ในฟอสเฟตบัฟเฟอร์โซลูชัน (pH 7.0)Fig. 8 หก amperograms hydrodynamic ต่อ ๆ มาของอิเล็กโทรด ตี้/TiO2 ในการฟอสเฟตบัฟเฟอร์การแก้ปัญหา (pH 7.0) ที่อคติเป็น 0.6 V เทียบกับอิเล็กโทรดอ้างอิง280 R. Ojani et al. / 99 Talanta (2012) 277-282ตรวจสอบฟอร์มาลดีไฮด์ สารรบกวนอาจเกิดขึ้นถูกเลือกจากสารบางอย่างโดยทั่วไปพบกับฟอร์มาลดีไฮด์กำหนดขีดจำกัดการยอมรับเป็นสูงสุดความเข้มข้นของสารรบกวนที่ทำให้ญาติข้อผิดพลาดน้อยกว่า 5% ในการกำหนดการ 13.00 mM ฟอร์มาลดีไฮด์ผลพบว่า 20-fold ปริมาณของกลูโคสฟรักโทส และซูโครส และปริมาณ 40-fold Kþ, Naþ, Mg2þCa2þ, Cl, F, HCO3 และ SO42 มีสัญญาณรบกวนบนฟอร์มาลดีไฮด์กำหนด อย่างไรก็ตาม กรดแอสคอร์บิคมีสัญญาณรบกวนที่สำคัญสำหรับการกำหนดของฟอร์มาลดีไฮด์ที่พื้นผิวของ ตี้/TiO2อิเล็กโทรด สามารถลดสัญญาณรบกวนจากกรดแอสคอร์บิคโดยเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แทรกแซงการศึกษาได้รับการดำเนินการที่มีสารเคมีหลาย
สารก่อนที่จะมีการประยุกต์ใช้วิธีการที่จะนำเสนอ
รูป 5. photocurrent ของ Ti / TiO2 อิเล็กโทรหลายรอบเปิดปิดของการส่องสว่าง
ที่มีศักยภาพใช้ 0.6 V กับขั้วอ้างอิงใน (ก) ฟอสเฟตบัฟเฟอร์
การแก้ปัญหา (pH 7.0), (ข) เป็นฟอร์มาลดีไฮด์aþ7.00มิลลิและ ( ค) เป็นaþ14.00มิลลิ
ฟอร์มาลดีไฮด์.
รูป 6. ผลกระทบจากค่าพีเอชของการแก้ปัญหาความแตกต่างระหว่าง phototocurrents
ตี / อิเลคโทร TiO2 ในกรณีที่ไม่มีและการปรากฏตัวของฟอร์มาลดีไฮด์ 13.00 มิลลิที่
อคติที่อาจเกิดขึ้นกับ 0.6 V ขั้วอ้างอิง.
รูป 7. ผลของการที่มีศักยภาพมีอคติกับความแตกต่างระหว่าง phototocurrents ตี / TiO2
ในกรณีที่ไม่มีขั้วไฟฟ้าและการปรากฏตัวของฟอร์มาลดีไฮด์ 13.00 มิลลิใน
สารละลายบัฟเฟอร์ฟอสเฟต (pH 7.0).
รูป 8. หก amperograms อุทกพลศาสตร์ต่อเนื่องของตี / อิเลคโทร TiO2 ใน
สารละลายบัฟเฟอร์ฟอสเฟต (pH 7.0) ที่มีอคติที่อาจเกิดขึ้นกับ 0.6 V ขั้วอ้างอิง.
280 อาร์ Ojani et al, / Talanta 99 (2012) 277-282
ตรวจสอบลดีไฮด์ สารรบกวนที่อาจเกิดขึ้น
ได้รับการแต่งตั้งจากสารบางชนิดที่พบบ่อยกับฟอร์มาลดีไฮด์.
ขีด จำกัด ของความอดทนถูกกำหนดให้เป็นสูงสุดที่
ความเข้มข้นของสารที่ทำให้เกิดการรบกวนญาติ
ข้อผิดพลาดน้อยกว่า 5% สำหรับการกำหนดฟอร์มาลดีไฮด์ 13.00 มิลลิ.
ผลการศึกษาพบว่า 20 เท่า ปริมาณของน้ำตาลกลูโคส
ฟรุกโตสและซูโครสและปริมาณ 40 เท่าของ KTH, ภูมิพลอดุลยเดช, Mg2þ,
Ca2þ, Cl, F, HCO3
และ SO4
2 มีการรบกวนไม่มีฟอร์มาลดีไฮด์
ความมุ่งมั่น แต่วิตามินซีมีการรบกวนที่สำคัญ
สำหรับการตัดสินใจของฟอร์มาลดีไฮด์ที่พื้นผิวของ Ti / TiO2
อิเล็กโทรด การแทรกแซงจากวิตามินซีสามารถลดลงโดย
เรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รบกวนศึกษาจากหลายทางเคมี
สารก่อนการใช้วิธีที่เสนอ

รูปที่ 5 บูบูของ Ti / TiO2 electrode สำหรับหลาย–ปิดรอบรัศมี
ที่ใช้ศักยภาพของ 0.6 V กับขั้วไฟฟ้าอ้างอิงในสารละลายบัฟเฟอร์ ( )
ฟอสเฟต ( pH 7.0 ) , ( b ) เป็นþ 7.00 มม. ฟอร์มาลดีไฮด์และ ( c ) เป็นþ 14.00 mm

ฟอร์มาลดีไฮด์ รูปที่ 6ผลของค่าพีเอชของสารละลายในความแตกต่างระหว่าง phototocurrents
Ti / TiO2 electrode ในการขาดงานและการปรากฏตัวของฟอร์มาลดีไฮด์ 13.00 มม. ที่ศักยภาพ 0.6 V
อคติกับขั้วไฟฟ้าอ้างอิง .
รูปที่ 7 ผลกระทบของอคติที่อาจเกิดขึ้นในความแตกต่างระหว่าง phototocurrents Ti / TiO2
ขั้วไฟฟ้าในการขาดงานและการปรากฏตัวของ 13.00 มม. ฟอร์มาลดีไฮด์ในสารละลายฟอสเฟตบัฟเฟอร์ pH 7
)
รูปที่ 8หกต่อเนื่องของดัชนี amperograms Ti / TiO2 electrode ในสารละลายฟอสเฟตบัฟเฟอร์ pH 7
) ที่อาจเกิดขึ้นกับขั้วไฟฟ้าอ้างอิงคติ 0.6 V .
280 . ojani et al . / talanta 99 ( 2012 ) ( 277 282
ตรวจสอบฟอร์มาลดีไฮด์ ศักยภาพรบกวนสาร
ถูกเลือกจากสารบางอย่างที่พบบ่อยกับฟอร์มาลดีไฮด์
ความอดทนจำกัด หมายถึง สูงสุด
ความเข้มข้นของสารที่ทำให้เกิดความผิดพลาดสัมพัทธ์
รบกวนน้อยกว่า 5% เพื่อหาปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์ 13.00 มม.
พบว่า 20 เท่าปริมาณของกลูโคสและฟรุคโตสและซูโครส
40 เท่าปริมาณของ K þ นาþ mg2 þ
, , แคลเซียมþ , Cl , F , hco3

และ ปา 2 ไม่มีการรบกวนในฟอร์มาลดีไฮด์
ความมุ่งมั่น อย่างไรก็ตาม กรดแอสคอร์บิคมีสัญญาณรบกวน
.หาปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์ที่พื้นผิวของ Ti / TiO2
อิเล็กโทรด การแทรกแซงจากวิตามินซีสามารถลดโดย
เรา