The decrease in Return on Assets in

The decrease in Return on Assets indicates that the company is generating
less profits from all of its resources in the year 2012 as compared to the year 2011. The higher of this ratio is, the better for the company. Therefore this decrease in Coca-Cola’s ratio is indicating that the company is not that much prospering.

The ratio should be higher. Here starting from 2011, the ratio was 27.10% and goes up in 2012 to 27.51%. This increase in Return on Equity is a good thing for stockholders and indicates that Coca Cola is using the equity provided by stockholders during this specific year effectively and using it to generate more equity for the owners.

Coca-Cola’s price-earnings ratio has decreased 0.6 times in 2012, because in 2011 the ratio was 19.00 times but in 2012 it become 18.40 times which suggests that investors may be looking less favorably at the Coca-Cola. This ratio should be high, because the higher the P/E ratio, the higher will be the investors confidence in company.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลดลงกลับสินทรัพย์ที่บ่งชี้ว่า บริษัทสร้างกำไรน้อยจากทั้งหมดของทรัพยากรในปี 2555 เมื่อเทียบกับปี 2554 การสูงขึ้นของอัตราส่วนนี้ได้ ดีกว่าสำหรับบริษัท ดังนั้น การลดลงของอัตราส่วนของโคคาโคล่าจะแสดงให้เห็นว่า บริษัทไม่ได้ที่ศูนย์อัตราส่วนควรจะสูง ที่นี่เริ่มจาก 2554 อัตราส่วนร้อยละ 27.10 และขึ้นไปในปี 2555 ร้อยละ 27.51 การเพิ่มขึ้นของผู้ถือหุ้นเป็นสิ่งดีสำหรับผู้ถือหุ้น และบ่งชี้ว่า โคคาโคล่าใช้หุ้นโดยผู้ถือหุ้นในระหว่างปีนี้เฉพาะอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ในการสร้างทุนของเจ้าของโคคาโคล่าราคา–กำไรอัตราส่วนลดลง 0.6 เท่าใน 2012 เนื่องจากในปี 2554 อัตราการแก้ไขเวลา 19.00 แต่ใน 2012 มันกลายเป็นเวลา 18.40 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนอาจจะมองพิทน้อยที่โคคาโคล่า อัตราส่วนนี้ควรจะสูง เพราะสูงกว่าอัตรา p/e สูงจะมีความเชื่อมั่นนักลงทุนในบริษัท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การลดลงของผลตอบแทนจากสินทรัพย์บ่งชี้ว่า บริษัท จะสร้าง
ผลกำไรน้อยจากทั้งหมดของทรัพยากรที่มีอยู่ในปี 2012 เมื่อเทียบกับปี 2011 ที่สูงขึ้นของอัตราส่วนนี้เป็นที่ดีสำหรับ บริษัท ดังนั้นการลดลงในอัตราส่วน Coca-Cola คือการแสดงให้เห็นว่า บริษัท ไม่ว่ามากเจริญรุ่งเรือง

อัตราส่วนควรจะสูง นี่คือการเริ่มต้นจาก 2011 อัตราส่วนคือ 27.10% และเพิ่มขึ้นใน 2012-27.51% การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ถือหุ้นและแสดงให้เห็นว่าโคคาโคล่าคือการใช้ทุนที่ได้รับจากผู้ถือหุ้นในช่วงปีนี้โดยเฉพาะอย่างมีประสิทธิภาพและใช้มันในการสร้างทุนมากขึ้นสำหรับเจ้าของ

อัตราส่วนกำไรราคา Coca-Cola ได้ลดลง 0.6 เท่าในปี 2012 เนื่องจากในปี 2011 อัตราส่วนดังกล่าวเป็น 19.00 เท่าในปี 2012 แต่มันกลายเป็น 18.40 เท่าซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนอาจจะมองที่แย่กว่าที่ Coca-Cola อัตราส่วนนี้ควรจะสูงเพราะอัตราส่วน P / E สูงกว่าจะเป็นความเชื่อมั่นของนักลงทุนใน บริษัท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การลดลงของอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ ระบุว่า บริษัทจะสร้างน้อยกว่ากำไรจากทรัพยากรทั้งหมดของปี 2555 เมื่อเทียบกับปี 2011 ที่สูงขึ้นของอัตราส่วนนี้เป็นที่ดีสำหรับบริษัท ดังนั้น การลดลงในอัตราส่วน โคคา โคล่า ก็แสดงให้เห็นว่า บริษัท ไม่มากที่ prospering .อัตราส่วนน่าจะสูงกว่า มาเริ่มจาก 2011 , อัตราส่วนและร้อยละ 27.10 ขึ้นใน 2012 27.51 % เพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น นี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ถือหุ้นและบ่งชี้ว่า โคคา - โคล่า คือใช้ทุนให้ผู้ถือหุ้นในปีนี้โดยเฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้มันเพื่อสร้างทุนมากขึ้นสำหรับเจ้าของโคคา - โคล่า คืออัตราส่วนราคากำไรลดลง 0.6 เท่า ในปี 2012 เนื่องจากในปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็น 3 ครั้ง แต่ในปี 2012 มันกลายเป็น 876 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนอาจจะดูน้อยกว่าพ้องต้องกันที่โคคา โคล่า อัตราส่วนนี้จะสูง เพราะค่า P / E Ratio , ที่สูงขึ้นจะเป็นนักลงทุนเชื่อมั่นในบริษัทฯ