Figure 7 shows examples of various

Figure 7 shows examples of various effects that can be achieved. At the top of the photo is a hologram of a deep plane of random stars with an opaque square floating in the foreground. At the bottom is a tetrahedron with one vertex penetrating the film plane and extending out into the air as a real image (the scratch radii decrease to zero, then increase again but with the scratches drawn upside down in order to produce a glowing real-image line.) To the left is a cylindrical distribution of random stars plotted by hand using trig tables. The cylinder also has a 3D curvy line extending above which was sketched entirely freehand with little effort. To the right is a 3D random starfield with a tiny galaxy in the center, complete with axial plasma streams. In the center is a square grid tilted in space (this grid was my first attempt at generating a fully 3D image rather than only creating flat image planes with constant depth.)
3.1 Speeding the production of arbitrary straight-line images
When generating virtual images composed entirely of straight lines (such as the edges of the above cube), a simple method exists which greatly speeds the process. First calculate the position and radii of the scratches that produce the endpoints of the glowing line. Scribe these scratches on the plastic. Next place the fulcrum point of your compass exactly midway along a line drawn through the two fulcrum points previously used to create the endpoint-scratches. Then set your compass radius so it generates a scratch that is positioned exactly midway between the two scratches forming the endpoints. Now scribe this "midpoint" scratch. Next, repeat the process of finding midpoints between the three existing scratches. You simply lay down the image points which divide the line into 1/2, 1/4, 1/8, 1/16, etc. The scratches resemble the markings on an English ruler, where new scratches are repeatedly placed between existing scratches. When the scratches are dense enough (say 1mm or 0.5mm apart) you're done. Observe the hologram under bright point source illumination and you'll see a glowing line connecting the two endpoints you initially calculated. Many additional hints and tricks can be found on my website [8].
3.2 Pseudoscopic images
In figures 3 through 5 the illumination comes from a source positioned vertically above the line-scatterer. If we instead illuminate the same scatterer from below, the scattered rays focus together rather than converging, and we obtain real images in front of the "film plane" rather than virtual images located behind it. If the "cube hologram" in figure 6 is illuminated from below, the cube is brightly visible and still maintains its general shape, but it turns inside-out and moves into the air in front of the plastic plate. It resembles the upper corner of a room rather than the projecting corner of a solid cube. In other words, using a conjugate illumination beam will change virtual images into real images, producing an effect that greatly resembles the pseudoscopic images of conventional holography. This probably explains why some of the images seen in car hoods appear to float in space above the abraded surface.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 7 แสดงตัวอย่างของลักษณะต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ ที่ด้านบนของภาพเป็นโฮโลแกรมของเครื่องบินลึกดาวสุ่มมีตารางทึบน้ำในเบื้องหน้า ด้านล่างเป็นทรงสี่หน้าปลายกับจุดยอดหนึ่งเจาะระนาบฟิล์ม และขยายออกไปในอากาศเป็นรูปจริง (รัศมีเริ่มต้นลดลงเป็นศูนย์ จากนั้น เพิ่มอีก แต่ มีรอยขีดข่วนออกคว่ำลงเพื่อสร้างบรรทัดจริงภาพเร่าร้อน) ด้านซ้ายเป็นทรงกระบอกกระจายสุ่มดาวลงจุด ด้วยมือโดยใช้ตาราง trig รูปทรงกระบอกมีเส้นโค้ง 3D ขยายข้างต้นซึ่งมีร่างแผนทั้งหมด freehand ด้วยความพยายามน้อย ทางด้านขวาเป็นของหมู่ดาวสุ่ม 3D กับกาแลคซีขนาดเล็กกลาง ทำกระแสพลาสมาที่แกน ใน เส้นตารางยืดในพื้นที่ (ตารางนี้เป็นความพยายามครั้งแรกของฉันที่สร้างภาพ 3D เต็ม แทนที่สร้างแบนรูปเครื่องบินกับความลึกคงเท่านั้น)
3.1 เพิ่มการผลิตรูปแบบเส้นตรงที่กำหนด
เมื่อสร้างรูปเสมือนประกอบด้วยทั้งหมดของเส้นตรง (เช่นขอบของลูกบาศก์ด้านบน), วิธีการง่าย ๆ มีอยู่ที่มากความเร็วในการ ก่อน คำนวณตำแหน่งและรัศมีของรอยขีดข่วนที่ปลายทางของรายการเร่าร้อน Scribe พลาสติกเป็นรอยเหล่านี้ ถัดไป วางจุด fulcrum ของเข็มทิศของคุณจึงมิดเวย์ตรงตามเส้นที่ลากผ่านจุด fulcrum สองก่อนหน้านี้ ใช้ในการสร้างปลายทางรอยขีดข่วน จากนั้น ตั้งเข็มทิศของคุณรัศมีเพื่อสร้างรอยขีดข่วนที่ตำแหน่งตรงกึ่งกลางระหว่างรอยขีดข่วนสองขึ้นปลายทาง ตอนนี้ scribe นี้ตั้งแต่ "จุดกึ่งกลาง" ทำซ้ำกระบวนการหาจ้างของระหว่างรอยขีดข่วนอยู่สาม คุณเพียงแค่วางจุดรูปบรรทัดแบ่ง 1/2, 1/4, 1/8, 1/16 ฯลฯ รอยขีดข่วนคล้ายกับเครื่องหมายบนไม้บรรทัดภาษาอังกฤษ ที่รอยขีดข่วนใหม่ซ้ำ ๆ อยู่ระหว่างรอยขีดข่วนที่มีอยู่ เมื่อรอยขีดข่วนหนาแน่นพอ (พูด 1 มม.หรือ 0.5mm กัน) คุณทำ สังเกตโฮโลแกรมใต้แหล่งจุดสว่างรัศมี และคุณจะเห็นบรรทัดเร่าร้อนที่เชื่อมต่อปลายทางสองคุณเริ่มคำนวณ คำแนะนำเพิ่มเติมและเทคนิคมากมายสามารถพบบนเว็บไซต์ของฉัน [8]
3.2 ภาพ pseudoscopic
เลข 3 ถึง 5 แสงสว่างมาจากแหล่งที่วางแนวตั้งเหนือเส้น-scatterer ถ้าเราแทนส่อง scatterer เดียวกัน from below โฟกัสรังสีกระจายกันแทนที่จะบรรจบ และเราได้ภาพจริงอยู่หน้า "เครื่องบินฟิล์ม" แทนภาพเสมือนอยู่หลังมัน ถ้า "ลูกบาศก์โฮโลแกรม" ในรูปที่ 6 เป็นอร่ามจากด้านล่าง cube อยู่สดใส และยัง รักษารูปร่างทั่วไปของ แต่มันจะออกภายใน และย้ายไปในอากาศหน้าจานพลาสติก มันคล้ายกับมุมห้องแทนมุมประเมินของ cube แข็ง ในคำอื่น ๆ ใช้แสงรัศมี conjugate จะเปลี่ยนภาพเสมือนเป็นภาพจริง ผลิตผลที่คล้ายคลึงกับภาพ pseudoscopic ของฮอโลกราฟีแบบเดิมอย่างมาก นี้คงอธิบายว่า ทำไมบางภาพที่เห็นในรถ hoods ปรากฏลอยอยู่ในอวกาศเหนือพื้นผิว abraded

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 7 แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างของผลกระทบต่างๆที่สามารถทำได้ ที่ด้านบนของภาพเป็นโฮโลแกรมของเครื่องบินลึกของดาวสุ่มที่มีตารางทึบแสงที่ลอยอยู่ในเบื้องหน้า ที่ด้านล่างเป็นจัตุรมุขกับจุดสุดยอดทะลุเครื่องบินฟิล์มและขยายออกไปในอากาศเป็นภาพที่แท้จริง (ลดลงรอยขีดข่วนรัศมีเป็นศูนย์แล้วเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่มีรอยขีดข่วนที่วาดคว่ำลงเพื่อผลิตเรืองแสงจริงภาพ เส้น). ด้านซ้ายเป็นรูปทรงกระบอกกระจายดาวสุ่มวางแผนด้วยมือโดยใช้ตารางหนุน กระบอกนอกจากนี้ยังมีเส้นโค้ง 3D ขยายดังกล่าวข้างต้นซึ่งได้รับการสเก็ตช์อย่างสิ้นเชิงอย่างอิสระมีความพยายามน้อย ไปทางขวาเป็น Starfield สุ่ม 3D กับกาแลคซีขนาดเล็กในศูนย์ที่สมบูรณ์ด้วยลำธารตามแนวแกนพลาสม่า ในศูนย์เป็นตารางสี่เหลี่ยมเอียงในพื้นที่ (ตารางนี้เป็นความพยายามครั้งแรกของฉันที่สร้างภาพ 3 มิติได้อย่างเต็มที่มากกว่าเพียงการสร้างภาพเครื่องบินแบนที่มีความลึกคงที่).
3.1 การส่งเสริมการผลิตของพลภาพเส้นตรง
เมื่อสร้างภาพที่เสมือนประกอบด้วย สิ้นเชิงของเส้นตรง (เช่นขอบของก้อนดังกล่าวข้างต้น) ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายที่มีอยู่ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในกระบวนการ แรกคำนวณตำแหน่งและรัศมีของรอยขีดข่วนที่ผลิตจุดสิ้นสุดของเส้นเรืองแสง อาลักษณ์รอยขีดข่วนเหล่านี้ในพลาสติก สถานที่ถัดไปจุดศูนย์กลางของเข็มทิศของคุณว่าตรงกลางตามเส้นที่ลากผ่านจุดสองจุดศูนย์กลางใช้ก่อนหน้านี้เพื่อสร้างจุดรอยขีดข่วน- จากนั้นตั้งค่ารัศมีเข็มทิศของคุณเพื่อให้มันสร้างรอยขีดข่วนที่อยู่ในตำแหน่งตรงกลางระหว่างสองรอยขีดข่วนสร้างจุดสิ้นสุด ตอนนี้อาลักษณ์นี้ "จุดกึ่งกลาง" รอยขีดข่วน ถัดไปทำซ้ำขั้นตอนในการหาจุดกึ่งกลางระหว่างสามรอยขีดข่วนที่มีอยู่ คุณเพียงแค่วางจุดภาพซึ่งแบ่งสายเป็น 1/2, 1/4, 1/8, 1/16 เป็นต้นรอยขีดข่วนคล้ายเครื่องหมายบนไม้บรรทัดภาษาอังกฤษที่รอยขีดข่วนใหม่จะวางซ้ำ ๆ ระหว่างรอยขีดข่วนที่มีอยู่ เมื่อรอยขีดข่วนที่มีความหนาแน่นมากพอ (พูด 1mm หรือ 0.5mm กัน) ที่คุณกำลังทำ สังเกตโฮโลแกรมที่อยู่ภายใต้แสงแหล่งกำเนิดสดใสและคุณจะเห็นเส้นเรืองแสงที่เชื่อมระหว่างสองจุดสิ้นสุดที่คุณคำนวณในขั้นต้น คำแนะนำเพิ่มเติมมากมายและเทคนิคที่สามารถพบได้บนเว็บไซต์ของฉัน [8]
3.2 ภาพ Pseudoscopic
ในตัวเลขที่ 3 ถึง 5 ไฟส่องสว่างมาจากแหล่งในตำแหน่งแนวตั้งด้านบนบรรทัด scatterer ถ้าเราแทนสว่าง scatterer เดียวกันจากด้านล่างรังสีกระจายมุ่งเน้นร่วมกันมากกว่าที่จะมาบรรจบกันและเราได้ภาพที่แท้จริงในด้านหน้าของ "เครื่องบินฟิล์ม" มากกว่าภาพที่เสมือนตั้งอยู่ด้านหลังมัน ถ้า "ก้อนโฮโลแกรม" ในรูป 6 สว่างจากด้านล่างลูกบาศก์จะมองเห็นได้สดใสและยังคงรักษารูปร่างทั่วไป แต่ปรากภายในออกและย้ายไปในอากาศที่อยู่ด้านหน้าของแผ่นพลาสติก มันคล้ายกับมุมบนของห้องมากกว่ามุมที่ยื่นออกจากก้อนแข็ง ในคำอื่น ๆ โดยใช้ลำแสงส่องสว่างคอนจูเกตจะเปลี่ยนภาพเป็นภาพที่เสมือนจริงการผลิตที่มีผลอย่างมากคล้ายกับภาพ pseudoscopic ของภาพสามมิติแบบเดิม นี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมบางส่วนของภาพที่เห็นในหมวกรถดูเหมือนจะลอยอยู่ในอวกาศเหนือพื้นผิว abraded

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 7 แสดงให้เห็นตัวอย่างของผลกระทบต่าง ๆ ที่ได้ ที่ด้านบนของเป็นภาพโฮโลแกรมของระนาบลึกของดาวแบบสุ่มกับทึบสี่เหลี่ยมลอยอยู่เบื้องหน้า ที่ด้านล่างเป็นจัตุรมุข ยอดทะลุฟิล์มกับเครื่องบิน และขยายไปในอากาศเป็นรูปจริง ( ขีดรัศมีลดลงถึงศูนย์แล้วเพิ่มอีกครั้ง แต่รอยขีดข่วนวาดกลับหัวเพื่อสร้างบรรทัดของภาพที่แท้จริง . . ) ด้านซ้ายเป็นทรงกระบอก ดาววางแผนการสุ่มโดยใช้ตารางโดยมือหนุน กระบอกยังมี 3D โค้งเส้นขยายข้างต้นซึ่งวาดด้วยมือทั้งหมดมีความพยายามน้อย ด้านขวาคือเดสสุ่ม 3D กับดาราจักรเล็ก ๆในศูนย์สมบูรณ์ด้วยแกนพลาสม่าธาร ในศูนย์เป็นตารางกริดเอียงในพื้นที่ ( ตารางนี้เป็นความพยายามครั้งแรกของฉันที่สร้างภาพอย่างเต็มที่ 3D มากกว่าเพียงการสร้างเครื่องบินภาพแบนกับความลึก คงที่ )
3.1 เร่งการผลิตโดยพลการ - ภาพ
เมื่อสร้างเสมือนภาพประกอบด้วยทั้งหมดของเส้นตรง ( เช่นขอบของก้อนด้านบน ) ,วิธีการง่าย ๆมีอยู่ ซึ่งอย่างมากความเร็วกระบวนการ แรกคำนวณตำแหน่งและรัศมีของรอยขีดข่วนที่ผลิตฐานของเส้นเรืองแสง อาลักษณ์รอยขีดข่วนเหล่านี้บนพลาสติก สถานที่ต่อไปที่จุดฟัลครัมของเข็มทิศของคุณตรงกึ่งกลาง ตามเส้นที่ลากผ่านสองจุดฟัลครัม ก่อนหน้านี้ใช้ในการสร้างข้อมูลจากรอยขีดข่วนแล้วรัศมีตั้งค่าเข็มทิศของคุณเพื่อให้มันสร้างรอย ตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างสองเกา สร้างฐาน ตอนนี้นักเขียน " จุดกึ่งกลาง " เกา ถัดไป ทำซ้ำกระบวนการของการหา midpoints ระหว่างสามที่มีอยู่ รอยขีดข่วน คุณเพียงแค่วางภาพจุดที่แบ่งบรรทัดลงใน 1 / 2 , 1 / 4 , 1 / 8 , 1 / 16 เป็นต้นรอยขีดข่วนคล้ายเครื่องหมายบนไม้บรรทัดภาษาอังกฤษที่รอยขีดข่วนใหม่ซ้ำๆ อยู่ระหว่างรอยขีดข่วนที่มีอยู่ เมื่อรอยขีดข่วนจะหนาแน่นพอ ( พูด 1 mm หรือ 0.5mm กัน ) เสร็จแล้ว สังเกตโฮโลแกรมภายใต้แหล่งแสงสว่างสดใสจุดและคุณจะเห็นเรืองแสงเส้นเชื่อมสองช่วยคุณในการคำนวณคำแนะนำเพิ่มเติมมากมายและเทคนิคที่สามารถพบได้ในเว็บไซต์ของฉัน [ 8 ]

pseudoscopic 3.2 ภาพตัวเลข 3 ถึง 5 ไฟส่องสว่างมาจากแหล่งวางแนวตั้งเหนือเส้น scatterer . ถ้าเราแทนเปล่ง scatterer เดียวกันจากด้านล่าง รังสีกระเจิงไปบรรจบด้วยกันมากกว่า ,และเราได้รับภาพที่แท้จริงในด้านหน้าของ " ภาพยนตร์เครื่องบิน " มากกว่าภาพที่เสมือนจริงที่อยู่เบื้องหลังมัน ถ้า " คิวบ์โฮโลแกรม " ในรูปที่ 6 คือ ส่องจากด้านล่าง ก้อนจะสดใสมองเห็นได้และยังคงรักษารูปร่างทั่วไป แต่มันกลับข้างในออก และย้ายไปในอากาศในด้านหน้าของแผ่นพลาสติกมันคล้ายกับมุมบนของห้องมากกว่า จากมุมของก้อนแข็ง ในคำอื่น ๆที่ใช้ผันแสงรัศมีจะเปลี่ยนรูปเป็นรูปเสมือนจริง ผลิตผลที่เป็นอย่างมากที่คล้ายกับภาพ pseudoscopic ของฮอโลกราฟีแบบปกติ นี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมบางรูปเห็นใน hoods รถปรากฏให้ลอยในพื้นที่ข้างถลอก พื้นผิว