Developed over a number of stages,

Developed over a number of stages, the glasshouse complex was designed by a world leader in glasshouse construction, Dutch builders Van der Hoeven.
Featuring a roof-span designed to minimise shade, the glasshouse maximises daylight through 130,000 panes of strengthened glass on the roof and 45,000 panes on the walls – each measuring 1.8m by 1.2m.
This makes them the largest panes used in Australian glasshouse construction to date.
Special glass panes that filter UV rays have also been used, allowing more useful light to reach the plants. Internal steel structures have been painted white to reflect light and help boost crop yield.
Some 300km of drip-house piping is used to irrigate the plants; a further 510km of heating pipe is used to heat the glasshouse.
The wet-wall evaporative cooling system designed and supplied by Munters helps to maintain an optimum temperature that averages 21°C over
any 24-hour period. It also maintains humidity of between 65 and 75 per cent inside the glasshouse.
Munters national sales engineer Sudhee Satyan says the company’s state-of-the-art pad and fan technology was already at the heart of the d’VineRipe first-phase 8Ha glasshouse complex.
This involvement meant it wasn’t difficult to adopt the same technology for the second and third stages.
A total of around 10,000 pads, each measuring 1.53m high, 0.6m wide and 0.15m thick were used to create the wet-wall system for the three stages of the d’VineRipe complex.
These are held securely by a Munters wet-wall

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพัฒนามากกว่าจำนวนของขั้นตอนที่ซับซ้อนเรือนกระจกได้รับการออกแบบโดยเป็นผู้นำระดับโลกในการก่อสร้างเรือนกระจกสร้างดัตช์ Van der Hoeven.
มีหลังคาช่วงการออกแบบเพื่อลดเงาเรือนกระจกเพิ่มกลางวัน 130,000 ผ่านบานหน้าต่างกระจกเข้มแข็งบนหลังคาและ 45,000 บานหน้าต่างบนผนัง -. แต่ละ 1.8 เมตรวัดโดย 1.2m
นี้ทำให้พวกเขาบานหน้าต่างที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้ในการก่อสร้างเรือนกระจกออสเตรเลียวัน.
บานหน้าต่างกระจกพิเศษว่ารังสีกรองรังสี UV ได้ถูกนำมาใช้นอกจากนี้ยังช่วยให้แสงมีประโยชน์มากขึ้นไปถึงพืช โครงสร้างเหล็กภายในได้รับการทาสีขาวจะสะท้อนแสงและช่วยเพิ่มผลผลิตของพืช.
บาง 300 กิโลเมตรของท่อน้ำหยดบ้านจะใช้ในการทดน้ำพืช; 510km ต่อของท่อความร้อนที่ถูกนำมาใช้เพื่อให้ความร้อนเรือนกระจก.
ระเหยเปียกผนังระบบระบายความร้อนที่ออกแบบและจัดทำโดย Munters ช่วยในการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมว่าค่าเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียสในช่วง
ระยะเวลา 24 ชั่วโมงใด ๆ นอกจากนี้ยังรักษาความชื้นของระหว่าง 65 และร้อยละ 75 ภายในเรือนกระจก.
Munters ชาติขายวิศวกร Sudhee Satyan กล่าวว่าแผ่นรัฐของศิลปะของ บริษัท และเทคโนโลยีแฟนอยู่แล้วที่เป็นหัวใจของ VineRipe d'แรกเฟส 8HA เรือนกระจก ที่ซับซ้อน.
การมีส่วนร่วมนี้หมายความว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องยากที่จะนำมาใช้เทคโนโลยีเดียวกันสำหรับขั้นตอนที่สองและสาม.
รวมประมาณ 10,000 แผ่นแต่ละวัด 1.53m สูง 0.6m กว้างและหนา 0.15m ถูกนำมาใช้ในการสร้างผนังเปียก ระบบสามขั้นตอนที่ซับซ้อน VineRipe d'.
เหล่านี้จะถูกจัดขึ้นอย่างปลอดภัยโดย Munters เปียกผนัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พัฒนามาหลายขั้นตอน เรือนที่ถูกออกแบบโดยผู้นำโลกในการก่อสร้างเรือนกระจก , ผู้สร้างดัตช์ แวน เดอร์ โฮเวิ่น .
ที่มีหลังคาช่วงที่ออกแบบมาเพื่อลดเงา เรือนกระจกเพิ่มแสงผ่านบานหน้าต่างของแก้วก้าวขึ้นบนหลังคา และ 45 , 000 บานบนผนัง และแต่ละวัด 1.8m โดย 1.2m .
นี้ทำให้พวกเขาที่ใหญ่ที่สุดในบานหน้าต่างที่ใช้ในการก่อสร้างเรือนกระจกออสเตรเลียวันที่ .
บานหน้าต่างกระจกพิเศษที่รังสี UV กรองยังถูกใช้ให้มีประโยชน์มากขึ้น แสงไปถึงพืช โครงสร้างเหล็กภายในได้ถูกทาสีขาวสะท้อนแสง และช่วยเพิ่มผลผลิต .
บาง 300 กม. จากบ้านน้ำท่อใช้ทดน้ำพืชเป็น 510km เพิ่มเติมของท่อความร้อนที่ใช้ความร้อนเรือนกระจก .
ผนังเปียกระบบทำความเย็นออกแบบและจัดทําโดย MUNTERS ช่วยรักษาอุณหภูมิเฉลี่ย 21 องศา C ที่เหมาะสมกว่า
บริการใด ๆระยะเวลา ก็ยังรักษาความชื้นของระหว่าง 65 และ 75 เปอร์เซ็นต์ภายในเรือนกระจก .
MUNTERS แห่งชาติวิศวกรขาย sudhee satyan กล่าวว่าบริษัทและรัฐ - of - the - art pad พัดลมเทคโนโลยีอยู่ที่หัวใจของ d'vineripe แรกคือ 8ha ขั้นตอนซับซ้อน .
เกี่ยวข้องนี้หมายถึงมันไม่ยากที่จะใช้เทคโนโลยีเดียวกันในขั้นตอนที่สอง และที่สาม
รวมประมาณ 10 , 000 แผ่น แต่ละวัด 1.53m 0.6m กว้างสูง และ 0 .15m หนาถูกใช้เพื่อสร้างระบบผนังเปียกสามขั้นตอนของ d'vineripe ซับซ้อน .
เหล่านี้จัดขึ้นอย่างปลอดภัย โดย MUNTERS ผนังเปียก