Starch is the most important carboh

Starch is the most important carbohydrate in the human diet and serves as a major energy source. Based on in vivo digestion, starch is classified into rapidly digestible starch (RDS), slowly digestible starch (SDS) and resistant starch (RS) according to the rate of glucose release and its absorption in the gastrointestinal tract ( Englyst, Kingman, & Cummings, 1992). RDS and SDS represent the starch fractions that are completely digested, while RS is the portion which resists digestion and absorption in the small intestines of healthy individuals and is available for fermentation in the large bowel by human colonic microflora to short-chain fatty acids (SCFA), mainly acetate, propionate, and butyrate ( Englyst et al., 1996 and Topping and Clifton, 2001). The products of RS fermentation help to prevent colorectal cancer, to lower the risk of heart disease, and to influence metabolic and inflammatory bowel diseases such as diabetes and diverticulitis ( Craig et al., 1998 and Topping and Clifton, 2001). The SDS fraction has also been reported to possess potential health benefits such as stable glucose metabolism, diabetes management, mental performance, and satiety ( Lehmann & Robin, 2007).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญในอาหารมนุษย์ และทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ ใช้ย่อยอาหารในสัตว์ทดลอง แป้งจะแบ่งแป้ง digestible อย่างรวดเร็ว (RDS), แป้งช้า digestible (SDS) และแป้งทน (RS) ตามอัตราการดูดซึมในระบบทางเดิน (Englyst คิง & Cummings, 1992) และปล่อยน้ำตาลกลูโคส RDS และ SDS แสดงเศษแป้งที่มีทั้งหมดเจ่า ในขณะที่ RS ส่วนที่พยายามขัดขวางการย่อยอาหารและดูดซึมในลำไส้เล็กของบุคคลที่มีสุขภาพดี และมีการหมักในลำไส้ใหญ่โดย microflora colonic มนุษย์กับกรดไขมันสายสั้น (SCFA), ส่วนใหญ่ acetate, propionate และ butyrate (Englyst et al., 1996 และ Topping และคลิ ฟตั้น 2001) ผลิตภัณฑ์ของ RS หมักช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และมีอิทธิพลต่อการเผาผลาญ และอักเสบลำไส้โรคเบาหวานและ diverticulitis (Craig et al., 1998 และ Topping และคลิ ฟตั้น 2001) ส่วนองค์กรยังมีการรายงานจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น เช่นมั่นคงกระชับสัดส่วน จัดการโรคเบาหวาน จิตเวชประสิทธิภาพ สามารถ (Lehmann และโรบิน 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญที่สุดในการรับประทานอาหารของมนุษย์และทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ ขึ้นอยู่กับในร่างกายการย่อยแป้งแบ่งเป็นแป้งที่ย่อยอย่างรวดเร็ว (RDS) ช้าแป้งที่ย่อย (SDS) และแป้งทน (RS) ตามอัตราของการปล่อยกลูโคสและการดูดซึมในทางเดินอาหาร (Englyst คิงแมนและคัมมิง , 1992) RDS และ SDS เป็นตัวแทนของเศษแป้งที่ถูกย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ในขณะที่อาร์เอสเป็นส่วนหนึ่งที่ต่อต้านการย่อยและดูดซึมในลำไส้เล็กของบุคคลที่มีสุขภาพดีและสามารถใช้ได้สำหรับการหมักในลำไส้ขนาดใหญ่โดยมนุษย์จุลินทรีย์ลำไส้ใหญ่จะห่วงโซ่สั้นกรดไขมัน (SCFA ) ส่วนใหญ่ acetate, propionate และ butyrate (Englyst et al., 1996 และ Topping และคลิฟตัน, 2001) ผลิตภัณฑ์ของความช่วยเหลือหมักอาร์เอสเพื่อป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและการเผาผลาญที่มีอิทธิพลและโรคลำไส้อักเสบเช่นโรคเบาหวานและ diverticulitis (เครก et al., 1998 และ Topping และคลิฟตัน, 2001) ส่วน SDS ยังได้รับรายงานจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นเช่นการเผาผลาญกลูโคสที่มีเสถียรภาพ, การจัดการโรคเบาหวานประสิทธิภาพจิตใจและความเต็มอิ่ม (มาห์และโรบิน 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญในอาหารของมนุษย์ และทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานหลัก ใช้ในการย่อยที่ตัวแป้งจะแบ่งเป็นอย่างรวดเร็วที่ย่อยแป้ง ( RDS ) ค่อยๆ ย่อยแป้ง ( SDS ) และแป้งป้องกัน ( RS ) ตามอัตราการปล่อยกลูโคสและการดูดซึมในทางเดินอาหาร ( englyst คิงแมน , & , คัมมิง , 1992 )เด่น SDS แทนแป้ง เศษส่วนย่อยที่สมบูรณ์ ขณะที่อาร์เอสเป็นส่วนที่ทนทานต่อการย่อยและการดูดซึมในลำไส้ของบุคคลที่มีสุขภาพดี และมีการหมักในลำไส้ขนาดใหญ่ โดยจุลินทรีย์สมองมนุษย์กรดไขมันโซ่สั้น ( scfa ) ส่วนใหญ่ acetate , propionate และบิว ( englyst et al . , 1996 และติดตามและคลิฟตัน , 2001 )ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และจะมีผลต่อการเผาผลาญอาหาร และลําไส้อักเสบ โรคเช่นโรคเบาหวานและสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ( Craig et al . , 1998 และติดตามและคลิฟตัน , 2001 ) โดยเฉพาะส่วนที่ยังได้รับรายงานว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น เช่น มั่นคงกลูโคสการเผาผลาญอาหาร , การจัดการโรคเบาหวานประสิทธิภาพของจิต และความเต็มอิ่ม ( เลห์มันน์&โรบิน , 2007 )