CT Baggage ScannersWhen a passenger

CT Baggage Scanners
When a passenger puts their bags through an X-ray machine, they go through a type of electromagnetic energy. Unlike visible light, humans cannot see X-rays. In hospitals, these X-ray energy beams can see through skin tissue to detect broken bones, tumors or other injuries. In an airport, X-ray technology is used in CT (computer tomography) scanners. Suitcases from passengers ride along a conveyor belt and pass through the hollow CT scanning machines. The X-rays bounce off the objects inside the suitcases, measuring the density and mass of each object. All that data is immediately entered into a computer. CT scanners are more complex than metal detectors and can analyze chemical components in addition to metallic object. If the density and mass of items in the suitcase match items that are known to be dangerous, the objects are removed from the suitcase.

High-tech Scanners
One limitation of CT scanning technology is that bags are scanned too slowly. This means only bags from suspicious passengers are scanned. Since this is not that effective, newer high-tech systems have been developed that are capable of detecting chemical components in individual items. The X-ray scanners most people see in airport are for screening carry on bags. But these scanners are too small to scan all the luggage that goes into the cargo section of the plane. In busy airports, large trucks with built in X-ray scanners (up to 5-7 meters long) are used. These trucks pull up beside containers that hold the suitcases, bags and other cargo. The entire container is scanned at once.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

CT สแกนสัมภาระเมื่อผู้โดยสารทำให้กระเป๋าของพวกเขาผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ พวกเขาไปถึงชนิดของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างจากแสงที่มองเห็น มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นรังสีเอกซ์ ในโรงพยาบาล ลำแสงพลังงานเหล่านี้เอ็กซเรย์สามารถดูผ่านเนื้อเยื่อผิวหนังเพื่อตรวจหากระดูกหัก เนื้องอกหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ในสนามบิน X-ray เทคโนโลยีนี้จะใช้เครื่องสแกน CT (การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) กระเป๋าเดินทางจากผู้โดยสารตามสายพาน และผ่าน CT กลวงที่สแกนเครื่อง รังสีเอกซ์ตีกลับปิดวัตถุภายในกระเป๋าเดินทาง วัดความหนาแน่นและมวลของวัตถุแต่ละ ทั้งหมดที่ทันทีป้อนข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ CT สแกนเนอร์มีความซับซ้อนมากกว่าเครื่องตรวจจับโลหะ และสามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมีนอกเหนือจากวัตถุโลหะ ถ้าความหนาแน่นและมวลของรายการในกระเป๋าเดินทางตรงกับรายการที่ทราบว่าเป็นอันตราย วัตถุจะถูกเอาออกจากกระเป๋าสแกนไฮเทคข้อจำกัดหนึ่งของ CT สแกนเทคโนโลยีไม่ว่า กระเป๋าจะสแกนช้าเกินไป ซึ่งหมายความว่า จะสแกนเฉพาะกระเป๋าจากผู้โดยสารที่น่าสงสัย ตั้งแต่นี้ไม่เป็นที่มีประสิทธิภาพ ระบบไฮเทคใหม่ได้รับการพัฒนาที่สามารถตรวจจับส่วนประกอบสารเคมีในสินค้าแต่ละรายการ เครื่องสแกน X-ray ที่คนส่วนใหญ่ดูในสนามบินสำหรับคัดกรองพกในกระเป๋าได้ แต่สแกนเนอร์เหล่านี้มีขนาดเล็กเกินไปที่จะสแกนสัมภาระทั้งหมดไปลงในส่วนของเครื่องบินขนส่งสินค้า ในสนามบินที่วุ่นวาย รถบรรทุกขนาดใหญ่กับสร้างขึ้นในเครื่องสแกน X-ray (ถึง 5-7 เมตรยาว) จะใช้ รถบรรทุกเหล่านี้ดึงขึ้นข้างภาชนะที่เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทาง กระเป๋า และสินค้าอื่น ๆ ภาชนะทั้งหมดจะถูกสแกนในครั้งเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

CT สแกนเนอร์สัมภาระ
เมื่อผู้โดยสารทำให้กระเป๋าของพวกเขาผ่านเครื่อง X-ray พวกเขาไปผ่านประเภทของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างจากแสงที่มองเห็นมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นรังสีเอกซ์ ในโรงพยาบาลเหล่านี้คานพลังงาน X-ray สามารถดูผ่านเนื้อเยื่อผิวในการตรวจสอบกระดูกหักเนื้องอกหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ในสนามบินเทคโนโลยี X-ray ที่ใช้ใน CT (เอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์) สแกนเนอร์ กระเป๋าเดินทางจากผู้โดยสารนั่งพร้อมสายพานลำเลียงและผ่านกลวง CT สแกนเครื่อง รังสีเอกซ์กระเด็นวัตถุที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทางในการวัดความหนาแน่นและมวลของวัตถุแต่ละ ข้อมูลทั้งหมดที่ป้อนทันทีลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ CT สแกนเนอร์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเครื่องตรวจจับโลหะและสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีที่นอกเหนือไปจากวัตถุที่เป็นโลหะ หากมีความหนาแน่นและมวลของรายการในรายการกระเป๋าเดินทางการแข่งขันที่เป็นที่รู้จักกันจะเป็นอันตรายวัตถุที่จะถูกลบออกจากกระเป๋าเดินทาง. สแกนเนอร์ไฮเทคข้อ จำกัด หนึ่งของเทคโนโลยี CT สแกนคือว่ากระเป๋าจะถูกสแกนช้าเกินไป ซึ่งหมายความว่าถุงจากผู้โดยสารที่น่าสงสัยจะถูกสแกน ตั้งแต่นี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่ระบบใหม่ที่มีเทคโนโลยีสูงได้รับการพัฒนาที่มีความสามารถในการตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีในแต่ละรายการ สแกนเนอร์ X-ray คนส่วนใหญ่เห็นในสนามบินที่มีการดำเนินการตรวจคัดกรองในถุง แต่สแกนเนอร์เหล่านี้มีขนาดเล็กเกินไปที่จะสแกนกระเป๋าเดินทางที่จะเข้าสู่ส่วนการขนส่งสินค้าของเครื่องบิน ในสนามบินยุ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในสแกนเนอร์ X-ray (ไม่เกิน 5-7 เมตรยาว) ถูกนำมาใช้ รถบรรทุกเหล่านี้ดึงขึ้นข้างภาชนะที่ถือกระเป๋า, กระเป๋าและสินค้าอื่น ๆ ภาชนะทั้งหมดจะถูกสแกนในครั้งเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

CT สแกนสัมภาระเมื่อผู้โดยสารนำกระเป๋าผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ พวกเขาไปผ่านชนิดของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างจากแสงที่มองเห็นมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นรังสีเอกซ์ . โรงพยาบาลในเหล่านี้รังสีเอกซ์พลังงานลำแสงสามารถดูผ่านเนื้อเยื่อผิวหนังเพื่อตรวจหาเนื้องอกกระดูกแตก หรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ในสนามบินด้วย มีการใช้เทคโนโลยีในการสแกน ( เอกซเรย์คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ ) สแกนเนอร์ กระเป๋าจากผู้โดยสาร ขี่ไปตามสายพานและผ่านการสแกน CT กลวง เครื่อง รังสีเอกซ์ตีกลับออกวัตถุที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง , วัดความหนาแน่นและมวลของแต่ละวัตถุ ที่ข้อมูลได้ทันทีใส่ลงในคอมพิวเตอร์ CT สแกนเนอร์จะซับซ้อนกว่าเครื่องตรวจจับโลหะและสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีและโลหะวัตถุ ถ้าความหนาแน่นและมวลของสินค้ากระเป๋าเดินทางที่ตรงกับรายการที่เป็นที่รู้จักกันจะเป็นอันตราย วัตถุจะถูกเอาออกจากกระเป๋าเครื่องสแกนไฮเทคหนึ่งข้อ จำกัด ของ CT สแกนเทคโนโลยีคือว่าถุงจะสแกนช้ามาก นี้หมายถึงเฉพาะถุงจากผู้โดยสารที่น่าสงสัยจะถูกสแกน ตั้งแต่นี้ไม่ได้เป็นที่มีประสิทธิภาพสูง ระบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนาที่สามารถตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีในแต่ละรายการ . X-ray สแกนเนอร์ คนส่วนใหญ่เห็นในสนามบินสำหรับการแบกกระเป๋า แต่สแกนเนอร์เหล่านี้มีขนาดเล็กเกินไปที่จะสแกนกระเป๋าทั้งหมดที่เข้าไปในสินค้า ส่วนของเครื่องบิน ในสนามบินที่วุ่นวาย รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในเครื่องเอกซเรย์ ( ถึง 5-7 เมตร ) ใช้ รถบรรทุกเหล่านี้ดึงขึ้นข้างภาชนะที่ถือ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋า และสินค้าอื่น ๆ ภาชนะบรรจุทั้งหมดถูกสแกนทันที