Hi, I’m Joe Weiss, and I’m one of t

Hi, I’m Joe Weiss, and I’m one of the directors of Learn Real English. And today I’m going to be teaching
you Rule Number 2 for Excellent English Speaking.

Okay, so what is Rule Number 2? Well Rule Number 2 is quite simple. Rule Number 2 is do not study
grammar rules. Do not study grammar rules. Now, I know this may be a surprise to you because your
English teachers have always told you that you must study grammar rules. In high schools or secondary
schools, in universities, in language schools, the English teachers teach grammar, and then they teach
more grammar, and then they teach even more grammar. And that is the method you have used to study
English.

So now I have a question for you. Have you been successful using that method? If you’re watching this
video then you’ve studied English before. That means you have probably studied a lot of grammar rules.
So you need to ask yourself this question. Can you speak English quickly, easily and automatically? If
the answer is no, then you need to ask why not. Why not? Because you have been studying English for
many years.

Why can’t you speak English quickly, easily and automatically? Well the answer for most people is
because they studied too much grammar. But you are not to blame for this, no. Your English teachers
are to blame for this. Because your English teachers made you study grammar. I bet you hated studying
grammar rules. But you did it because your English teachers made you study them.

Okay, so why is it bad to study grammar rules? Well, when you study grammar rules then you think
about these grammar rules. You think about the past perfect tense, the present perfect tense, the future
perfect tense, prepositions. You think about all these grammar rules before you speak. And when you
speak, you do not have a lot of time. When you’re writing, you have a lot more time. You can write
slowly. You can correct your mistakes. You can even look in a book if you need help. When you’re
writing, you have a lot of time. But when you’re speaking, you do not have a lot of time.

When you are speaking, there is no time to think about verb tenses and verb conjugations and definite
articles, indefinite articles, adverbs. There is no time to think about those grammar rules when you are
speaking. When someone asks you a question, they want you to answer that question immediately.
They don’t want to wait one minute while you’re thinking about grammar rules. No, no, no.

So that is why it is important that you not study grammar rules. When you study grammar rules, then you
think about those grammar rules before you speak. And that means that you hesitate before you speak,
and you speak much slower and you understand much slower.

Okay, so how do native speakers learn grammar then? Well, I am an English native speaker and I can
tell you that I never studied grammar rules when I was a young boy and I was learning how to speak English. When I was 3 years old and I was learning how to speak English, my mother and father never
made me study grammar rules. They didn’t do it. So I still speak English very well and I use correct
grammar. And I never studied grammar rules. Well, when I was 12 years old, I studied grammar rules in
school, but that was for writing. It was only for writing, it was not for speaking. You do not want to study
grammar rules for speaking. For writing, it’s different.

Okay, so how do native speakers learn grammar then?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สวัสดี ฉันโจ Weiss และฉันผู้รู้จริงภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง และวันนี้ผมจะสอน คุณกฎหมายเลข 2 ที่พูดภาษาอังกฤษดีเยี่ยม โอเค กฎหมายเลข 2 คือ ด้วยกฎหมายเลข 2 จะค่อนข้างง่าย กฎหมายเลข 2 คือไม่ได้ศึกษา กฎไวยากรณ์ ศึกษากฎไวยากรณ์ ตอนนี้ ฉันรู้นี้อาจจะแปลกใจกับคุณเพราะคุณ ครูสอนภาษาอังกฤษได้มักจะบอกคุณว่า คุณต้องศึกษากฎไวยากรณ์ ในโรงเรียนมัธยมหรือรอง โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนภาษา ครูสอนภาษาอังกฤษสอนไวยากรณ์ แล้ว พวกเขาสอน ไวยากรณ์เพิ่มเติม แล้วพวกเขาสอนไวยากรณ์มากยิ่งขึ้น และนั่นคือวิธีที่คุณใช้ในการศึกษา อังกฤษ ตอนนี้ ผมมีคำถามสำหรับคุณ คุณได้รับโดยใช้วิธีการที่ประสบความสำเร็จ ถ้าคุณกำลังดูนี้ วิดีโอแล้วคุณได้ศึกษาภาษาอังกฤษก่อน หมายความ ว่า คุณอาจจะศึกษากฎไวยากรณ์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นคุณต้องถามตัวเองคำถามนี้ คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว ได้อย่างง่ายดาย และโดยอัตโนมัติ ถ้า คำตอบคือไม่มี คุณต้องถามทำไมไม่ ทำไมล่ะ เนื่องจากคุณได้รับการศึกษาภาษาอังกฤษสำหรับ เป็นเวลาหลายปี เหตุใดคุณจึงไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว ได้อย่างง่ายดาย และโดยอัตโนมัติ ดีเป็นคำตอบสำหรับคนส่วนใหญ่ เนื่องจากพวกเขาศึกษาไวยากรณ์มากเกินไป แต่คุณไม่ติเตียนนี้ ไม่ ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ จะกลับนี้ เนื่องจากครูผู้สอนภาษาอังกฤษทำให้คุณเรียนไวยากรณ์ ฉันเดิมพันคุณเกลียดการเรียน กฎไวยากรณ์ แต่คุณไม่ได้เนื่องจากครูผู้สอนภาษาอังกฤษที่ทำให้คุณเรียนได้ เอาล่ะ ดังนั้นจึงเป็นไม่ศึกษากฎไวยากรณ์ ดี เมื่อคุณได้ศึกษากฎไวยากรณ์ แล้วคุณคิดว่า เกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านี้ด้วย คุณคิดเกี่ยวกับกาลเหมาะอดีต อนาคต เครียดได้ แบบเครียด ประโยค คุณคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านี้ทั้งหมดก่อนที่คุณพูด และเมื่อคุณ พูด คุณไม่มีเวลามาก เมื่อคุณเขียน คุณมีเวลามากขึ้น คุณสามารถเขียน ช้า คุณสามารถแก้ไขความผิดพลาดของคุณ คุณยังสามารถค้นหาในหนังสือช่วยเหลือ เมื่อคุณ เขียน คุณมีจำนวนมากเวลา แต่เมื่อคุณกำลังพูด คุณไม่มีเวลามาก เมื่อคุณกำลังพูด ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับกาลกริยาและกริยา conjugations และแน่นอน บทความ บทความ indefinite กริยาวิเศษณ์ ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านั้นเมื่อคุณ พูด เมื่อมีคนถามคำถาม พวกเขาต้องการตอบคำถามทันที พวกเขาไม่ต้องการรอหนึ่งนาทีในขณะที่คุณกำลังคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์ ไม่ ไม่ ไม่มี ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ได้ศึกษากฎไวยากรณ์ เมื่อคุณศึกษากฎไวยากรณ์ แล้วคุณ คิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านั้นก่อนที่คุณพูด และนั่นหมายถึง ว่า คุณลังเลก่อนพูด และคุณพูดช้ามาก และคุณเข้าใจมากช้าลง โอเค ดังนั้นวิธีทำเจ้าเรียนรู้ไวยากรณ์แล้ว ดี ฉันเป็นเจ้าของภาษาอังกฤษ และสามารถ บอกว่า ผมไม่เคยเรียนกฎไวยากรณ์เมื่อฉันถูกเด็กหนุ่ม และผมเรียนรู้วิธีการพูดภาษาอังกฤษ เมื่อผมอายุ 3 ปี และผมเรียนรู้วิธีการพูดภาษาอังกฤษ แม่ และพ่อของฉันไม่เคย ทำให้ผมศึกษากฎไวยากรณ์ พวกเขาไม่ได้ทำมัน ดังนั้น ฉันยังคงพูดภาษาอังกฤษดีมาก และใช้ถูกต้อง ไวยากรณ์ และผมไม่เคยเรียนกฎไวยากรณ์ ดี เมื่อผมอายุ 12 ปี ผมเรียนกฎไวยากรณ์ใน โรงเรียน แต่ที่เป็นสำหรับการเขียน มันเป็นเฉพาะสำหรับการเขียน ก็ไม่ได้อยู่ที่พูด คุณไม่ต้องการศึกษา กฎไวยากรณ์สำหรับภาษา สำหรับการเขียน มันจะแตกต่างกัน โอเค ดังนั้นวิธีทำเจ้าเรียนรู้ไวยากรณ์แล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สวัสดีครับผมโจไวส์และผมเป็นหนึ่งในกรรมการของจริงเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และในวันนี้ผมจะสอน
คุณกฎข้อที่ 2 ดีมากภาษาอังกฤษพูด.

เอาล่ะคือสิ่งที่กฎข้อที่ 2? ดีกฎข้อที่ 2 ค่อนข้างง่าย กฎข้อที่ 2 คือไม่ได้เรียน
กฎไวยากรณ์ ไม่ได้เรียนกฎไวยากรณ์ ตอนนี้ฉันรู้นี้อาจจะแปลกใจให้กับคุณเพราะคุณ
ครูสอนภาษาอังกฤษได้บอกคุณเสมอว่าคุณต้องศึกษากฎไวยากรณ์ ในโรงเรียนมัธยมหรือมัธยม
โรงเรียนในมหาวิทยาลัยในโรงเรียนสอนภาษาที่ครูสอนภาษาอังกฤษสอนไวยากรณ์และแล้วพวกเขาก็สอน
ไวยากรณ์มากขึ้นและแล้วพวกเขาก็สอนไวยากรณ์มากยิ่งขึ้น และนั่นคือวิธีการที่คุณได้ใช้ในการศึกษา
ภาษาอังกฤษ.

ดังนั้นตอนนี้ผมมีคำถามสำหรับคุณ คุณเคยประสบความสำเร็จโดยใช้วิธีการที่? หากคุณกำลังดูนี้
วิดีโอแล้วคุณได้เรียนภาษาอังกฤษก่อน นั่นหมายความว่าคุณอาจจะมีการศึกษาจำนวนมากของกฎไวยากรณ์.
ดังนั้นคุณต้องถามตัวเองคำถามนี้ คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วง่ายดายและโดยอัตโนมัติ? ถ้า
คำตอบคือไม่มีแล้วคุณต้องถามว่าทำไมไม่ได้ ทำไมไม่? เพราะคุณได้รับการศึกษาภาษาอังกฤษ
หลายปี.

ทำไมคุณไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วง่ายดายและโดยอัตโนมัติ? คำตอบที่ดีสำหรับคนส่วนใหญ่เป็น
เพราะพวกเขาศึกษาไวยากรณ์มากเกินไป แต่คุณไม่ได้ที่จะตำหนิสำหรับเรื่องนี้ไม่มี ครูสอนภาษาอังกฤษของคุณ
ที่จะโทษนี้ เพราะครูผู้สอนภาษาอังกฤษของคุณทำให้คุณศึกษาไวยากรณ์ ฉันเดิมพันที่คุณเกลียดการศึกษา
กฎไวยากรณ์ แต่คุณไม่ได้เพราะครูผู้สอนภาษาอังกฤษของคุณที่ทำให้คุณศึกษาพวกเขา.

เอาล่ะดังนั้นทำไมมันไม่ดีที่จะศึกษากฎไวยากรณ์? ดีเมื่อคุณศึกษากฎไวยากรณ์แล้วคุณคิด
เกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านี้ คุณคิดเกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมาสมบูรณ์แบบเครียดปัจจุบันที่สมบูรณ์แบบเครียดอนาคต
ที่สมบูรณ์แบบเครียดคำบุพบท คุณคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้กฎไวยากรณ์ก่อนที่คุณจะพูด และเมื่อคุณ
พูดคุณไม่ได้มีจำนวนมากเวลา เมื่อคุณเขียนคุณมีเวลามากขึ้น คุณสามารถเขียน
ช้า คุณสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณ คุณยังสามารถดูในสมุดถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ เมื่อคุณ
เขียนคุณมีจำนวนมากของเวลา แต่เมื่อคุณพูดคุณไม่ได้มีจำนวนมากเวลา.

เมื่อคุณพูดมีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับกาลกริยาและคำกริยาผันและแน่นอนไม่มี
บทความบทความไม่แน่นอนวิเศษณ์ มีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านั้นคือเมื่อคุณ
พูด เมื่อมีคนถามคุณคำถามที่พวกเขาต้องการให้คุณตอบคำถามว่าทันที.
พวกเขาไม่ต้องการที่จะรอหนึ่งนาทีในขณะที่คุณกำลังคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์ ไม่มี, no, no.

ดังนั้นนั่นคือเหตุผลที่มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ศึกษากฎไวยากรณ์ เมื่อคุณศึกษากฎไวยากรณ์แล้วคุณ
คิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านั้นก่อนที่คุณพูด และนั่นหมายความว่าคุณลังเลก่อนที่คุณจะพูด
และคุณพูดช้ากว่ามากและคุณเข้าใจช้ากว่ามาก.

เอาล่ะดังนั้นวิธีที่เจ้าของภาษาเรียนรู้ไวยากรณ์แล้ว? ดีฉันเป็นเจ้าของภาษาเป็นภาษาอังกฤษและผมสามารถ
บอกคุณได้ว่าผมไม่เคยศึกษากฎไวยากรณ์เมื่อฉันเป็นเด็กหนุ่มและผมได้เรียนรู้วิธีการที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ เมื่อผมอายุ 3 ปีและผมได้เรียนรู้วิธีการพูดภาษาอังกฤษของแม่และพ่อของฉันไม่เคย
ทำให้ผมศึกษากฎไวยากรณ์ พวกเขาไม่ได้ทำมัน ดังนั้นผมจึงยังคงพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและผมใช้ที่ถูกต้อง
ไวยากรณ์ และฉันไม่เคยศึกษากฎไวยากรณ์ ดีเมื่อผมอายุ 12 ปีผมเรียนกฎไวยากรณ์ใน
โรงเรียน แต่นั่นก็เป็นสำหรับการเขียน มันเป็นเพียงสำหรับการเขียนก็ไม่ได้พูด คุณไม่ต้องการที่จะศึกษา
กฎไวยากรณ์สำหรับการพูด สำหรับการเขียนมันแตกต่างกัน.

เอาล่ะดังนั้นวิธีที่เจ้าของภาษาเรียนรู้ไวยากรณ์แล้ว?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สวัสดีครับ ผม โจ ไวซ์ และผมก็เป็นหนึ่งในกรรมการของเรียนภาษาอังกฤษที่แท้จริง และวันนี้ผมจะสอนข้อที่ 2 คุณพูดภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยมโอเค อะไรคือกฏข้อที่ 2 อืมกฎข้อที่ 2 คือค่อนข้างง่าย กฏข้อที่ 2 คือ การไม่ศึกษากฎไวยากรณ์ ไม่ได้ศึกษากฎไวยากรณ์ ตอนนี้ , ฉันรู้ว่ามันอาจจะทำให้คุณประหลาดใจ เพราะของคุณครูภาษาอังกฤษก็มักจะบอกคุณว่าคุณต้องศึกษากฎไวยากรณ์ ในโรงเรียนมัธยมหรือรองโรงเรียน , มหาวิทยาลัย , โรงเรียนสอนภาษา , สอนภาษาอังกฤษสอนไวยากรณ์และจากนั้นพวกเขาสอนไวยากรณ์เพิ่มเติม แล้วจึงสอนมากกว่าไวยากรณ์ และนั่นเป็นวิธีที่คุณใช้เพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษดังนั้นตอนนี้ฉันมีคำถามสำหรับคุณ คุณเคยประสบความสําเร็จ โดยใช้วิธี ถ้าคุณกำลังดูอยู่วิดีโอแล้วคุณเคยเรียนภาษาอังกฤษก่อน นั่นหมายความว่า คุณคงเรียนหนัก ของกฎไวยากรณ์ดังนั้นคุณต้องถามตัวเองคำถามนี้ คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วง่ายดายและอัตโนมัติ ถ้าคำตอบคือ ไม่ คุณก็ต้องถามว่าทำไมไม่ได้ ทำไมจะไม่ล่ะ เพราะคุณเคยเรียนภาษาอังกฤษหลายปีทำไมคุณไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วง่ายดายและอัตโนมัติ คือคำตอบสำหรับคนส่วนใหญ่คือเพราะพวกเขาเรียนไวยากรณ์มากเกินไป แต่คุณก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ ครูภาษาอังกฤษเป็นโทษนี้ เพราะครูภาษาอังกฤษของคุณทำให้คุณเรียนไวยากรณ์ ฉันเดิมพันที่คุณเกลียดการเรียนกฎไวยากรณ์ แต่คุณทำมันเพราะครูภาษาอังกฤษของคุณให้คุณศึกษาพวกเขาโอเค แล้วทำไมมันแย่ที่จะศึกษากฎไวยากรณ์ ? แต่เมื่อคุณเรียนรู้กฎไวยากรณ์ คุณคิดว่าเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์เหล่านี้ คุณคิดเกี่ยวกับ perfect tense อดีตกาลปัจจุบันสมบูรณ์ , อนาคตสมบูรณ์กาล คำบุพบท คุณคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้กฎไวยากรณ์ ก่อนที่จะพูด และเมื่อคุณพูด , คุณไม่ได้มีเวลามากนัก เมื่อคุณเขียน คุณมีจำนวนมากเวลา คุณสามารถเขียนช้า ๆ คุณสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณ ที่คุณสามารถดูในหนังสือ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ เมื่อคุณการเขียน , คุณมีเวลาเยอะ แต่เมื่อคุณพูด คุณไม่ได้มากของเวลาเมื่อคุณพูด ไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องกาลและคำกริยา conjugations คำกริยาและแน่นอนบทความใดบทความ , กริยาวิเศษณ์ ไม่มีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับเมื่อคุณมีกฎไวยากรณ์พูด เมื่อมีคนถามคำถามคุณ , พวกเขาต้องการคุณที่จะตอบคำถามนั้นทันทีพวกเขาไม่ต้องการที่จะรอ 1 นาทีในขณะที่คุณกำลังคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์ ไม่ ไม่ ไม่ดังนั้นนั่นคือเหตุผลที่เป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ศึกษากฎไวยากรณ์ เมื่อคุณเรียนรู้กฎไวยากรณ์ แล้วคุณคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์ ก่อนที่จะพูด และนั่นหมายความว่าคุณลังเลก่อนที่จะพูดและคุณพูดช้ามาก และคุณเข้าใจช้ากว่ามากโอเค แล้วทำไมเจ้าของภาษาเรียนรู้ไวยากรณ์ ? ผมเป็นเจ้าของภาษาอังกฤษและฉันสามารถบอกเธอว่าผมไม่เคยเรียนกฎไวยากรณ์เมื่อผมยังเป็นเด็ก และฉันคือการเรียนรู้วิธีการพูดภาษาอังกฤษ ตอนที่ฉันอายุ 3 ขวบ และฉันก็เรียนรู้ที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ แม่และพ่อ ไม่เคยทำให้ฉันเรียนรู้กฎไวยากรณ์ พวกเขาไม่ได้ทำมัน ฉันยังคงพูดภาษาอังกฤษได้ดีและใช้ให้ถูกต้องไวยากรณ์ และผมไม่เคยเรียนกฎไวยากรณ์ ตอนที่ฉันอายุ 12 ปี ผมเรียนกฎไวยากรณ์ในโรงเรียน แต่นั่นมันสำหรับการเขียน มันเป็นเพียงการเขียน มันไม่พูด คุณไม่ได้ต้องการเรียนกฎไวยากรณ์เพื่อพูด สำหรับการเขียน มันต่างกันโอเค แล้วทำไมเจ้าของภาษาเรียนรู้ไวยากรณ์ ?