nitrification in chamber B,and deni

nitrification in chamber B,and denitrification in chamber C.
The maximum ammonium flux between chambers A and B in this
study was 0.98 mg/m 2/sec. Park et al.(2009b) reported that the
maximum ammonium flux between chambers A and Binthe IEBR
was 0.83 mg/m 2/sec. Thus,unless the activity of nitrifying and
denitrifying bacteria was inhibited in asystem,the SCOD removal
efficiency was affected by the concentr ation of organic matter,
nutrient, and MLSS ineach chamber because removal ofSCOD in
the IEBR is finallyconsumed bydenitrify ing bacteria in chamber
C. The average SCOD removal efficiencies at doses of 0kGy,
20 kGy,50kGy,75kGy,and 100 kGy were 59.4%,58.3%,57.8%,
71.8%, and 48.8%,respectively. Park et al.(2011) reported that
99.5% of SCOD was removed from acetate (syntheticwastewater)
using the IEBR.Acetate is awell-known substrate,which is one
of the most easily biodegradable organic matter (carbonsource).
However, swine wastewater generally requires along HRT tobe
sufficiently treated since swine manure consists of recalcitrant
organic matter such ascellulose orlignin (Lim and Fox,2011a,b;Shin
et al.,2005 ).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การอนาม็อกซ์ในห้อง B และ denitrification ในห้องคฟลักซ์แอมโมเนียสูงสุดระหว่างห้อง A และ B ในศึกษาได้ 0.98 mg/m 2/วินาที จอดและ al.(2009b) รายงานว่า การแอมโมเนียสูงสุดไหลระหว่างหอ A และ Binthe IEBRมี 0.83 mg/m 2/วินาที ดังนั้น เว้นแต่กิจกรรมของ nitrifying และ denitrifying แบคทีเรียถูกห้ามใน asystem เอา SCOD ประสิทธิภาพได้รับผลจาก ation concentr อินทรีย์สารอาหาร และ MLSS หอ ineach เพราะเอา ofSCOD ในIEBR เป็น finallyconsumed bydenitrify อิงแบคทีเรียในห้องC. การประสิทธิภาพกำจัด SCOD เฉลี่ยที่ปริมาณของ 0kGy20 kGy, 50kGy, 75kGy และ 100 kGy มี 59.4%, 58.3%, 57.8%71.8% และ 48.8%,respectively สวนร้อยเอ็ด al.(2011) รายงานว่า99.5% ของ SCOD ถูกเอาออกจาก acetate (syntheticwastewater)โดยใช้การ IEBR Acetate เป็นพื้นผิว awell รู้จักกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในที่สุดได้อินทรีย์ (carbonsource)อย่างไรก็ตาม น้ำสุกรทั่วไปต้องตาม HRT tobeถือว่าเพียงพอเนื่องจากมูลสุกรจำนวน recalcitrant เกษตรอินทรีย์เรื่องเช่น orlignin ascellulose (Lim และสุนัขจิ้งจอก 2011a, b ชิน ร้อยเอ็ด al., 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไนตริฟิเคในห้อง B และ denitrification
ในห้องซีฟลักซ์แอมโมเนียมสูงสุดระหว่างห้องA และ B
ในการศึกษาเป็น0.98 mg / m 2 / วินาที สวน et al. (2009b)
รายงานว่าการไหลของแอมโมเนียมสูงสุดระหว่างห้องA และ Binthe IEBR
เป็น 0.83 mg / m 2 / วินาที ดังนั้นเว้นแต่กิจกรรมของไนตริและ
Denitrifying แบคทีเรียถูกยับยั้งใน asystem, การกำจัด SCOD
ประสิทธิภาพได้รับผลกระทบโดย ation
เข้มข้นของสารอินทรีย์สารอาหารและMLSS ineach ห้องเพราะการกำจัด ofSCOD ใน
IEBR เป็น finallyconsumed bydenitrify
ไอเอ็นจีแบคทีเรียในห้องซี SCOD ประสิทธิภาพการกำจัดในปริมาณเฉลี่ยของ 0kGy,
20 กิโลเกรย์, 50kGy, 75kGy และ 100 กิโลเกรย์เป็น 59.4%, 58.3%, 57.8%,
71.8% และ 48.8% ตามลำดับ สวน et al. (2011) รายงานว่า
99.5% ของ SCOD ถูกลบออกจากอะซิเตท (syntheticwastewater)
ใช้เป็นสารตั้งต้น IEBR.Acetate awell
ที่รู้จักกันซึ่งเป็นหนึ่งในของที่ย่อยสลายได้ง่ายที่สุดสารอินทรีย์(carbonsource).
แต่น้ำเสียหมูทั่วไป ต้องพร้อมตัวประกัน Tobe
ได้รับการรักษาอย่างเพียงพอตั้งแต่ปุ๋ยคอกสุกรประกอบด้วยพยศสารอินทรีย์เช่น ascellulose orlignin (Lim และฟ็อกซ์, 2011a, B; ชิน. et al, 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไนตริฟิเคชั่นในห้อง B และ C .
สูงสุดในห้องน้ำแอมโมเนียไหลระหว่างห้อง A และ B ในการศึกษา
เท่ากับ 0.98 mg / m 2 / วินาที ปาร์ค et al . ( 2009b ) รายงานว่าน้ำไหลระหว่างห้อง
สูงสุดและ binthe iebr
คือ 0.83 mg / m 2 / วินาที ดังนั้น นอกจากกิจกรรมเท่ากับ
แบคทีเรียดีไนตริฟายอิง และในระบบได้ 2 , 000 เอา
ประสิทธิภาพได้รับผลกระทบโดยตั้งใจ ation ของอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในแต่ละห้อง 2
,
iebr เพราะ ofscod ในการกำจัดแบคทีเรียเป็น finallyconsumed ไอเอ็นจี bydenitrify ในห้อง
C ประสิทธิภาพเฉลี่ย 20 ( 0kgy
20 กิโลเกรย์ 50kgy , , , 75kgy และ 100 กิโลเกรย์เป็นร้อยละ 57.8 % % 58.3 %
1 , 1 , 2 ตามลำดับ ปาร์ค et al . ( 2554 ) รายงานว่า
995% ของ 20 ถูกลบออกจากอะซิเตท ( น้ำเสีย )
ใช้ iebr . อะซิเตทเป็นสมัยที่รู้จักกัน ( ซึ่งเป็นหนึ่ง
ของสารอินทรีย์ย่อยสลายได้ง่ายที่สุด ( บีช ) .
แต่น้ำเสียฟาร์มสุกรโดยทั่วไปต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ตามค่า
ถือว่าตั้งแต่มูลสุกรประกอบด้วยสารอินทรีย์ เช่น ascellulose หัวดื้อ
orlignin ( ลิม และ ฟ็อกซ์ , 2011a , B ; ชิน
et al . , 2005 )