ประวัติของเครื่องพิมพ์ดีด
เครื่องพิมพ์ดีดเครื่องแรกเป็นแบบภาษาอังกฤษจดทะเบียนสิทธิบัตรเมื่อ พ.ศ.2237 ณ ประเทศอังกฤษ โดยวิศวกรชื่อเฮนรี่ มิล โดยใช้ชื่อว่า Writig Machine ต่อจากนั้นนายวิลเลี่ยม ออสตินเบิท ชาวอเมริกันได้ประดิษฐ์เครื่องเขียนหนังสือใช้ชื่อว่า Typographer มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมทำด้วยไม้ทั้งสิ้น
พ.ศ.2376 Progin ชาวฝรั่งเศส ได้ประดิษฐ์เครื่องเขียนหนังสือ สำหรับคนตาบอดเรียกว่า Ktypographic เครื่องนี้ประกอบด้วยที่รวมของแป้นอักษรเมื่อเคาะลงไปบนแป้นอักษรจะดีดก้านอักษรตีไปที่จุดศูนย์กลาง ซึ่งเป็นรูปแบบของเครื่องพิมพ์ดีดในปัจจุบัน
พ.ศ.2416 มีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดแบบมาตรฐานออกสู่ตลาดในสหรัฐอเมริกา มีเครื่องพิมพ์ดีดที่ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายเพียง 4-5 ยี่ห้อ คือ รอยัล เรมิงตัน ไอบีเอ็ม สมิธโคโรน่า และอันเดอร์วูด
ส่วนในยุโรปมีนักประดิษฐ์ทำเครื่องพิมพ์ดีดออกจำหน่ายหลายยี่ห้อ เช่น ในเยอรมันนี มีโอลิมเปีย แอดเลอร์ ออบติม่า นอิตาลีมี โอลิวิตตี้ ในฮอลแลนด์มี เฮร์เมส เป็นต้น
ในประเทศไทย
นายเอดวิน แมคฟาร์แลนด์ เลขานุการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงธรรมการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา มีแนวความคิดที่จะดัดแปลงเครื่องพิมพ์ดีดภาษาอังกฤษเป็นเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทย แต่เนื่องจากภาษาไทยมีสระและวรรณยุกต์มาก ต้องใช้เครื่องพิมพ์ดีดที่มีแป้นอักษรมากกว่าชนิดอื่น ในที่สุดก็เลือกได้ยี่ห้อ สมิทฟรีเมียร์
เมื่อ พ.ศ. 2438 นายเอดวิน แมคฟาร์แลนด์ ก็ถึงแก่กรรม แต่ในขณะที่ป่วยอยู่ได้มอบหมายให้หมอยอร์ช บี แมคฟาร์แลนด์ (พระอาจวิทยาคม) น้องชายหาวิธีแก้ไขปรับปรุง และแพร่เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยให้กว้างขวางต่อไป พระอาจวิทยาคม ได้นำเครื่องพิมพ์ดีดแสดงโชว์ไว้ที่ร้านทำฟันของท่าน มีประชาชนและข้าราชการที่ไปทำฟันได้พบเห็นและได้รับคำแนะนำจำนวนมาก ต่อมาหน่วยราชการต่าง ๆ ก็สั่งซื้อจำนวนมาก โดยท่านได้สั่งให้โรงงานสมิทฟรีเมียร์ในสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตและส่งมาถึงเมืองไทยรุ่นแรก พ.ศ. 2440
ในปี พ.ศ. 2467 พระอาจวิทยาคม ได้ปรึกษาและทำการค้นคว้ากับพนักงานบริษัท 2 คนคือ นายสวัสดิ์ มากประยูร และนายสุวรรณประเสริฐ (กิมเฮง) เกษมณี โดยนายสวัสดิ์ มากประยูร เป็นวิศวกรออกแบบประดิษฐ์ตัวอักษร นายสุวรรณประเสริฐ (กิมเฮง) เกษมณี ทำหน้าที่ฝ่ายวิชาการ ใช้เวลา 7 ปี ก็วางแป้นอักษรใหม่สำเร็จและเห็นว่าเหมาะสมที่สุด ใน พ.ศ. 2474 สามารถพิมพ์ได้ถนัดที่สุดและรวดเร็วที่สุด ให้ชื่อว่าแบบ “เกษมณี” และใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้
ต่อมาได้มีผู้วิจัยพบว่า เครื่องพิมพ์ดีดแบบเกษมณี ยังมีข้อบกพร่องและคิดวางแป้นอักษรใหม่ ใช้ชื่อว่า “ปัตตะโชติ” และสภาวิจัยแห่งชาติตรวจสอบแล้วเห็นว่าเครื่องพิมพ์ดีดแบบปัตตะโชติ สามารถพิมพ์ได้เร็วกว่าแบบเดิมประมาณ 25.8% ในระหว่างปี พ.ศ. 2508 – 2516 ทำให้วงการใช้เครื่องพิมพ์ดีดเกิดความสับสน คณะรัฐมนตรีลงมติให้หน่วยราชการที่ได้รับงบประมาณค่าเครื่องพิมพ์ดีดจัดซื้อเครื่องพิมพ์ดีดไทยแบบปัตตะโชติ หลังวันที่ 16 ตุลาคม 2516 มีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวและให้มีการจัดซื้อเครื่องพิมพ์ดีดเป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้
ปัจจุบันเครื่องพิมพ์ดีดได้ถูกพัฒนาให้ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถพิมพ์ได้เร็ว น้ำหนักเบา เพราะใช้ระบบเครื่องไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์โดยสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่พิมพ์ไว้ในเครื่องและสามารถสั่งให้เครื่องพิมพ์ข้อความเติมได้หลาย ๆ ฉบับ
ขนาดของตัวพิมพแบบเครื่องพิมพ์ ประเภทของเครื่องพิมพ์
ขนาดตัวพิมพที่ใช้กันอยู่โดยทั่วไปมี 3 ขนาด คือ
1. ตัวอักษรขนาดใหญ่เรียกว่า"ไปก้า"์
2. ตัวอักษรขนาดเล็กเรียกว่า"อีลีท"
3. ตัวอักษร IBMเป็นตัวอักษรขนาดเล็ก
แบบเครื่องพิมพ์
การวางแป้นอักษร เป็นสัญลักษณ์ของแบบเครื่องพิมพ์ เครตื ่องพิมพ์ดีดภาษาไทยได้มีการพัฒนา
การวางแป้นอักษรมาแล้วแบบเครื่องพิมพ์มี 2 แบบ คือ
1. แบบเกษมณี เป็นอักษรแป้นเหย้าคือ ฟ ห ก ด ่ า ส ว
2. แบบปัตตะโชติ อักษรแป้นเหย้า คือ ้ ท ง ก า น เ ไ
ประเภทของเครื่องพิมพ์ แบ่งได้ 2 ชนิด
1. เครื่องพิมพ์ดีดที่เป็นอักษรไทยล้วน
2.ท เครื่อง พิมพ์ดีดที่มีอักษรไทยและอักษรอังกฤษ
เครื่องพิมพ์ดีดเป็นอักษรไทยล้วนมี 2 แบบ
1. แบบธรรมดา
2. แบบไฟฟ้า
เครื่องพิมพ์ดีดที่มีทั้งอักษรไทยและอังกฤษอยู่ในเครื่องเดียวกันมี 2 แบบ
1. แบบกอล์ฟบอลล์
2. แบบเฟืองหมุน