5.9. Metallic nanoparticles (plasmo

5.9. Metallic nanoparticles (plasmonic effect)

Nanotechnology plays an important role in enhancing the efficiency of solar cell. Si is poor in absorbing infrared light and thus most of solar light is wasted and thus increased thickness of the material is required. To reduce this problem or to decrease the thickness of thin film solar cell, metallic nanoparticles are used on the top of active layer which have the strong ability to scatter the incident light. This is also called plasmonic effect. Mainly Ag nanoparticles are used in enhancing the efficiency of TFSC. The nanoparticles behave like small mirror; concentrate light more strongly than normal mirrors. This effect is based on surface plasmon, the collective motion of electrons [36], [75], [76] and [77]. Nanoparticles have a particular frequency called resonant frequency at which incident light will strongly excite the collective oscillation of electrons [78] and [79]. This causes strong absorption or strong scattering of light. When light falls on the surface of solar cell it is scattered in different directions. These nanoparticles preferentially scatter light into high index material leading to enhance coupling with underlying semiconductor and thus reduces reflectance over a broad spectral range. In nanoparticles, scattering is stronger. Fig. 11 describe the scattering from metal nano-particles at the surface of solar cell [54] and [57].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5.9. โลหะเก็บกัก (plasmonic ผล)นาโนเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์ ซีไม่ดีในการดูดซับแสงอินฟราเรดจึงเสียส่วนใหญ่ของแสงอาทิตย์ และจึงต้องเพิ่มความหนาของวัสดุ เพื่อลดปัญหานี้ หรือ เพื่อลดความหนาของฟิล์มบางอาทิตย์ เก็บกักโลหะจะใช้ด้านบนของเลเยอร์ใช้งานซึ่งมีความสามารถที่แข็งแกร่งในการกระจายแสงที่ตกกระทบ นี้จะเรียกว่า plasmonic ผล เก็บกัก mainly Ag จะใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของ TFSC เก็บกักการทำงานเหมือนกระจกขนาดเล็ก สมาธิอย่างยิ่งกว่าปกติกระจกไฟ ลักษณะนี้เป็นไปตามสำหรับ surface plasmon การเคลื่อนไหวรวมของอิเล็กตรอน [36], [75], [76] [77] และ เก็บกักได้ความถี่เฉพาะที่เรียกว่าความถี่เรโซแนนซ์ที่แสงที่ตกกระทบซึ่งจะขอกระตุ้นสั่นรวมของอิเล็กตรอน [78] [79] ทำให้ดูดซับแรงหรือแรงกระเจิงของแสง เมื่อแสงตกบนผิวของเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีการกระจายอยู่ในทิศทาง เหล่านี้เก็บกักเป็นกระจายแสงลงในดัชนีที่สูงวัสดุนำเพื่อเชื่อมต่อกับสารกึ่งตัวนำต้น และดังนั้น ลดการสะท้อนแสงในช่วงสเปกตรัมกว้าง ในการเก็บกัก โปรยจะแข็ง รูป 11 อธิบายกระเจิงจากอนุภาคนาโนโลหะที่ผิวของเซลล์แสงอาทิตย์ [54] และ [57]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5.9 อนุภาคนาโนโลหะ (ผล plasmonic) นาโนเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์ ศรีเป็นที่น่าสงสารในการดูดซับแสงอินฟราเรดและทำให้มากที่สุดของแสงพลังงานแสงอาทิตย์จะสูญเสียและทำให้เพิ่มความหนาของวัสดุที่เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดปัญหานี้หรือเพื่อลดความหนาของเซลล์แสงอาทิตย์แบบฟิล์มบางนาโนโลหะมีการใช้ที่ด้านบนของชั้นที่ใช้งานที่มีความสามารถในการที่แข็งแกร่งในการกระจายแสงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี้จะเรียกว่าผล plasmonic ส่วนใหญ่อนุภาคนาโน Ag ถูกนำมาใช้ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของ TFSC อนุภาคนาโนที่ทำตัวเหมือนกระจกเล็ก ๆ น้อย ๆ สมาธิกระจกแสงรุนแรงกว่าปกติ ผลกระทบนี้จะขึ้นอยู่กับ PLASMON พื้นผิวการเคลื่อนไหวโดยรวมของอิเล็กตรอน [36] [75], [76] และ [77] อนุภาคนาโนที่มีความถี่เฉพาะที่เรียกว่าความถี่จังหวะที่แสงที่ตกกระทบอย่างรุนแรงจะตื่นเต้นผันผวนโดยรวมของอิเล็กตรอน [78] และ [79] นี้ทำให้เกิดการดูดซึมที่แข็งแกร่งหรือการกระเจิงของแสงที่แข็งแกร่ง เมื่อแสงตกอยู่บนพื้นผิวของเซลล์แสงอาทิตย์ก็จะกระจายไปในทิศทางที่แตกต่างกัน อนุภาคนาโนเหล่านี้พิเศษกระจายแสงให้เป็นวัสดุที่ดัชนีสูงนำไปสู่การเสริมสร้างการมีเพศสัมพันธ์กับเซมิคอนดักเตอร์พื้นฐานและทำให้ช่วยลดการสะท้อนในช่วงสเปกตรัมกว้าง ในอนุภาคนาโนกระเจิงแข็งแรง มะเดื่อ. 11 อธิบายการกระเจิงจากโลหะอนุภาคนาโนที่พื้นผิวของเซลล์แสงอาทิตย์ [54] และ [57] ที่