The aim of this study was to survey

The aim of this study was to survey the presence of Staphylococcus aureus and Listeria monocytogenes during the cheese making process in small-scale raw milk cheese production in Norway.

The prevalence of S. aureus in bovine and caprine raw milk samples was 47.3% and 98.8%, respectively. An increase in contamination during the first 2–3 h resulted in a 73.6% prevalence of contamination in the bovine curd, and 23 out of 38 S. aureus-negative bovine milk samples gave rise to S. aureus-positive curds. The highest contamination levels of S. aureus were reached in both caprine and bovine cheese after 5–6 h (after the first pressing). There was no contamination of L. monocytogenes in caprine cheeses and only one (1.4%) contaminated bovine cheese.

This work has increased our knowledge about S. aureus and L. monocytogenes contamination during the process of raw milk cheese production and gives an account of the hygiene status during the manufacture of Norwegian raw milk cheeses.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ สำรวจของ Staphylococcus หมอเทศข้างลายและออลิ monocytogenes ในเนยแข็งที่ทำให้กระบวนการในการผลิตเนยแข็งนมดิบระบุในนอร์เวย์ความชุกของ S. หมอเทศข้างลายในตัวอย่างน้ำนมดิบของวัวและน้ำเชื้อ 47.3% และ 98.8% ตามลำดับ การเพิ่มขึ้นของ h 2-3 แรกปนเปื้อนส่งผลให้ชุก 73.6% การปนเปื้อนในซีอิ้ววัว และตัวอย่างนมวัวหมอเทศข้างลายลบ 23 จาก 38 S. ให้ curds S. บวกหมอเทศข้างลาย ระดับการปนเปื้อนสูงสุดของ S. หมอเทศข้างลายได้ถึงในน้ำเชื้อและวัวชีหลัง h 5 – 6 (หลังจากกดครั้งแรก) มีไม่มีการปนเปื้อนของ L. monocytogenes ในเนยแข็งน้ำเชื้อ และเดียว (1.4%) ปนเปื้อนวัวชีสงานนี้ได้เพิ่มความรู้ของเราเกี่ยวกับหมอเทศข้างลาย S. L. monocytogenes การปนเปื้อนในระหว่างกระบวนการผลิตน้ำนมดิบเนยแข็ง และให้บัญชีสถานะสุขอนามัยในการผลิตเนยแข็งนมดิบนอร์เวย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เพื่อสำรวจการปรากฏตัวของเชื้อ Staphylococcus aureus และ Listeria monocytogenes ในระหว่างขั้นตอนการทำชีสในขนาดเล็กผลิตชีสนมดิบในประเทศนอร์เวย์. ความชุกของเชื้อ S. aureus ในวัวและแพะตัวอย่างน้ำนมดิบเป็น 47.3% และ 98.8 % ตามลำดับ การเพิ่มขึ้นของการปนเปื้อนในช่วงแรก 2-3 ชั่วโมงส่งผลให้มีความชุก 73.6% ของการปนเปื้อนในนมเปรี้ยววัวและ 23 จาก 38 เชื้อ S. aureus ลบตัวอย่างนมวัวให้สูงขึ้นเพื่อ S. aureus เต้าหู้บวก ระดับการปนเปื้อนสูงสุดของเชื้อ S. aureus ก็มาถึงทั้งในและชีสแพะวัวหลังจาก 5-6 ชั่วโมง (หลังจากที่กดครั้งแรก) มีการปนเปื้อนของ L. monocytogenes ในชีสแพะและไม่เพียงคนเดียวคือ (1.4%) ชีสวัวปนเปื้อน. งานนี้ได้มีการเพิ่มความรู้ของเราเกี่ยวกับเชื้อ S. aureus และ L. monocytogenes การปนเปื้อนในระหว่างขั้นตอนของการผลิตชีสน้ำนมดิบและช่วยให้บัญชีของ สถานะสุขอนามัยในระหว่างการผลิตของนอร์เวย์ชีสนมดิบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อสำรวจสถานะของเชื้อ Staphylococcus aureus และ วงแหวนแวนอัลเลนในการทำเนยแข็ง กระบวนการในการผลิตน้ำนมดิบขนาดเล็กในนอร์เวย์ .

ความชุกของ S . aureus ในวัว และ caprine ตัวอย่างน้ำนมดิบเป็น 47.3 % และ 98.8 ตามลำดับ การเพิ่มขึ้นของการปนเปื้อนในช่วง 2 – 3 ชั่วโมง ส่งผลให้ ใน 73ความชุกร้อยละ 6 ของการปนเปื้อนในขนมโค และ 23 จาก 38 S . aureus ลบวัวนมตัวอย่างให้สูงขึ้นเพื่อ S . aureus บวกเต้าหู้ . สูงสุดระดับการปนเปื้อนของ S . aureus ได้ถึงทั้งใน caprine และชีสวัวหลัง 5 – 6 ชั่วโมง ( หลังจากครั้งแรกที่กด ) ไม่มีการปนเปื้อนของ monocytogenes ลิตรใน caprine ชีสและเพียงหนึ่ง ( 1.4% ) ชีสวัวปนเปื้อน .

งานนี้ได้เพิ่มความรู้ของเราเกี่ยวกับ S . aureus และ monocytogenes การปนเปื้อนในระหว่างกระบวนการผลิตน้ำนมดิบ และให้บัญชีของสุขอนามัยสถานะในระหว่างการผลิตน้ำนมดิบ
นอร์เวย์เนยแข็ง .