Stress and the Autonomic Nervous Sy

Stress and the Autonomic Nervous System
Although yoga is much more than a stress-reduction method, stress adversely affects a wide range of health conditions, and yoga is arguably the most comprehensive approach to fighting stress ever invented. Stress isn’t just a factor in conditions commonly labeled “stress-related,” such as migraines, ulcers, and irritable bowel syndrome, but it appears to contribute to such major killers as heart attacks, diabetes, and osteoporosis.
Even diseases such as cancer for which there is surprisingly little evidence that stress is a causative factor are extremely stressful once a person has been diagnosed and begins treatment. Yoga can improve not only the quality of life after diagnosis, but it appears to diminish the side effects of surgery, radiation, chemotherapy, and other treatments, and may increase the odds of survival.
To appreciate the role of stress in disease and of relaxation in prevention and recovery, it’s important to understand the function of the autonomic nervous system (ANS), which controls the function of the heart, liver, intestines, and other internal organs. The ANS has two branches that work in conjunction: the sympathetic nervous system (SNS) and the parasympathetic nervous system (PNS). In general, when activity is high in the SNS, it is lower in the PNS, and vice versa.
The SNS, in conjunction with such stress hormones as adrenaline and cortisol, initiate a series of changes in the body, including raising blood pressure, heart rate, and blood sugar levels. These changes help a person deal with a crisis situation. They mean more energy and more blood and oxygen flowing to the large muscles of the trunk, arms, and legs, allowing the person to run from danger or do battle (the so-called “fight-or-flight” response).
The PNS, in contrast, tends to slow the heart and lower the blood pressure, allowing recovery after a stressful event. Blood flow that was diverted away from the intestines and reproductive organs, whose function isn’t essential in an emergency, returns. In contrast to fight or flight, these more restorative functions can be thought of as “rest and digest.” They are also sometimes dubbed the relaxation response.
Many yoga practices, including quiet asana, slow breathing, meditation, and guided imagery, increase activation of the PNS and lead to mental relaxation. Yoga techniques are more than just relaxation, however. Practices like vigorous sun salutations, kaphalabhati breathing, and breath retentions actually activate the SNS. One of yoga’s secrets, documented in research from the Swami Vivekananda Yoga Research Foundation near Bangalore, is that more active practices followed by relaxing ones lead to deeper relaxation than relaxing practices alone.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเครียดและระบบประสาทอัตโนมัติโยคะเป็นมากกว่าวิธีการลดความเครียด ความเครียดมีผลกระทบสุขภาพหลากหลาย และโยคะเป็นวิธีครอบคลุมมากที่สุดเพื่อต่อสู้กับความเครียดที่เคยคิดค้น ความเครียดไม่เพียงปัจจัยสภาพโดยทั่วไปชื่อ "เครียด เช่นไมเกรน แผลเปื่อย โรคลำไส้แปรปรวน แต่เหมือนจะมีส่วนร่วมเช่นยาหลักโจมตีหัวใจ เบาหวาน และโรคกระดูกพรุนโรคได้เช่นโรคมะเร็งซึ่งมีหลักที่ว่า ความเครียดเป็นปัจจัยสาเหตุการน่าแปลกใจไม่น้อยฐานมีเครียดมากเมื่อบุคคลได้รับการวินิจฉัย และเริ่มรักษา โยคะสามารถพัฒนาไม่เพียงแต่คุณภาพของชีวิตหลังจากการวินิจฉัย แต่ปรากฏขึ้นเพื่อ ลดผลข้างเคียงของการผ่าตัด ฉายรังสี เคมีบำบัด และส่วนอื่น ๆ และอาจเพิ่มโอกาสอยู่รอดชื่นชมบทบาท ของความเครียดในโรค และผ่อนคลายในการป้องกันและการกู้คืน มันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เข้าใจการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ (ANS), ซึ่งควบคุมการทำงานของหัวใจ ตับ ลำไส้ อวัยวะภายในอื่น ๆ และ ANS มีสองสาขาที่ทำงานร่วม: ระบบประสาทซิมพาเทติก (SNS) และระบบประสาท parasympathetic (PNS) ทั่วไป เมื่อกิจกรรมสูง SNS ได้ต่ำกว่า PNS และในทางกลับกันSNS ร่วมกับฮอร์โมนความเครียดเช่นตื่นเต้นและ cortisol เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย รวมถึงการเพิ่มระดับความดันโลหิต อัตราการเต้นหัวใจ และระดับน้ำตาลในเลือด เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้ผู้จัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน พวกเขาหมายถึง พลังงานมากขึ้น และการเติมเลือด และออกซิเจนไหลให้กล้ามเนื้อขนาดใหญ่ ของลำตัว แขน ขา อนุญาตให้ผู้เรียกใช้จากอันตราย หรือต่อสู้ (เรียกว่า "ต่อสู้ หรือเที่ยวบิน" การตอบสนอง)PNS คมชัด มีแนวโน้มช้าหัวใจ และลดความดันโลหิต ช่วยกู้คืนหลังจากเหตุการณ์เครียด ไหลเวียนของเลือดที่ถูกเบี่ยงเบนลำไส้และอวัยวะสืบพันธุ์ ฟังก์ชั่นไม่จำเป็นในกรณีฉุกเฉิน ส่งคืน ตรงข้ามต่อสู้หรือบิน ฟังก์ชันฟื้นฟูเพิ่มเติมเหล่านี้อาจมองเป็น "ส่วนที่เหลือและแยกย่อย" นอกจากนี้พวกเขายังบางครั้งมีฉายาว่าตอบสนองการพักผ่อนปฏิบัติโยคะหลาย asana เงียบ หายใจช้า สมาธิ และนำภาพ ถ่าย เพิ่ม PNS เปิดใช้งาน และทำให้จิตใจผ่อนคลาย เทคนิคโยคะเป็นมากกว่าเพียงแค่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติเช่นทักทายดวงอาทิตย์คึกคัก หายใจ kaphalabhati และ retentions ลมหายใจเรียกใช้ SNS จริง ความลับของโยคะ เอกสารงานวิจัยจากสวามี Vivekananda โยคะงานวิจัยพื้นฐานใกล้บังกาลอร์ อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นที่ปฏิบัติอยู่ตาม ด้วยการผ่อนคลายที่นำไปสู่การผ่อนคลายที่ลึกกว่าผ่อนปฏิบัติคนเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเครียดและระบบประสาทอัตโนมัติแม้ว่าโยคะเป็นมากกว่าวิธีการลดความเครียดความเครียดมีผลกระทบต่อความหลากหลายของสภาวะสุขภาพและโยคะเป็น arguably วิธีการที่ครอบคลุมมากที่สุดในการต่อสู้กับความเครียดที่เคยคิดค้น
ความเครียดเป็นปัจจัยที่ไม่เพียง แต่ในสภาวะที่มีข้อความทั่วไป "ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด" เช่นไมเกรน, แผลและอาการลำไส้แปรปรวน แต่ดูเหมือนว่ามันจะนำไปสู่การฆ่าที่สำคัญเช่นโรคหัวใจ, โรคเบาหวานและโรคกระดูกพรุน.
แม้โรคเช่น โรคมะเร็งที่มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่น่าแปลกใจว่าความเครียดเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดเป็นเครียดมากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนที่ได้รับการวินิจฉัยและเริ่มการรักษา โยคะสามารถปรับปรุงไม่เพียง แต่คุณภาพชีวิตหลังการวินิจฉัย แต่มันก็จะปรากฏขึ้นเพื่อลดผลข้างเคียงของการผ่าตัดรังสีรักษาด้วยเคมีบำบัดและการรักษาอื่น ๆ และอาจเพิ่มอัตราต่อรองของการอยู่รอด.
ชื่นชมบทบาทของความเครียดในการเกิดโรคและการพักผ่อน ในการป้องกันและการกู้คืนมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ (เอเอ็นเอ) ซึ่งควบคุมการทำงานของหัวใจ, ตับ, ลำไส้และอวัยวะภายในอื่น ๆ ANS มีสองสาขาที่ทำงานร่วม: ระบบประสาท (SNS) และระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (จู๋) โดยทั่วไปเมื่อกิจกรรมสูงใน SNS มันจะต่ำกว่าในจู๋และในทางกลับกัน.
SNS ร่วมกับฮอร์โมนความเครียดเช่นตื่นเต้นและ cortisol เริ่มต้นชุดของการเปลี่ยนแปลงในร่างกายรวมทั้งการเพิ่มความดันโลหิต อัตราการเต้นหัวใจและระดับน้ำตาลในเลือด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยจัดการคนที่มีสถานการณ์วิกฤต พวกเขาหมายถึงพลังงานมากขึ้นและเลือดและออกซิเจนไหลไปยังกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ของลำต้นแขนและขาที่ช่วยให้คนที่จะเรียกใช้จากอันตรายหรือทำสงคราม (ที่เรียกว่า "การต่อสู้หรือเที่ยวบิน" การตอบสนอง).
จู๋ ในทางตรงกันข้ามมีแนวโน้มที่จะชะลอการเต้นของหัวใจและลดความดันโลหิตที่ช่วยให้การกู้คืนหลังจากเหตุการณ์ที่เครียด ไหลเวียนของเลือดที่ถูกเบี่ยงเบนออกไปจากลำไส้และอวัยวะสืบพันธุ์ที่มีฟังก์ชั่นไม่จำเป็นในกรณีฉุกเฉินกลับ ในทางตรงกันข้ามการที่จะต่อสู้หรือเที่ยวบินเหล่านี้ฟังก์ชั่นการบูรณะอาจจะคิดว่าเป็น "ส่วนที่เหลือและย่อย." พวกเขายังมีการขนานนามว่าบางครั้งการตอบสนองการพักผ่อน.
ปฏิบัติโยคะหลายคนรวมทั้งอาสนะเงียบ, การหายใจช้าสมาธิและภาพที่แนะนำให้เพิ่มการเปิดใช้งาน ของจู๋และนำไปสู่การผ่อนคลายทางจิต เทคนิคโยคะมากกว่าการพักผ่อนเพียง แต่ การปฏิบัติเช่นคำขึ้นต้นจดหมายดวงอาทิตย์แข็งแรงหายใจ kaphalabhati และคงทนลมหายใจเปิดใช้งานจริง SNS หนึ่งในความลับของโยคะเอกสารในการวิจัยจากสวามี Vivekananda โยคะมูลนิธิวิจัยที่อยู่ใกล้บังกาลอร์เป็นว่าการปฏิบัติงานมากขึ้นตามมาด้วยคนที่นำไปสู่การผ่อนคลายการผ่อนคลายลึกกว่าการปฏิบัติผ่อนคลายเพียงอย่างเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเครียดและระบบประสาท
แม้ว่าโยคะเป็นมากกว่าความเครียดวิธีลดความเครียดมีผลกระทบต่อหลากหลายของเงื่อนไขสุขภาพ และโยคะเป็น arguably วิธีที่ครอบคลุมมากที่สุดในการต่อสู้ความเครียดที่เคยคิดค้น ความเครียดไม่ได้เป็นแค่ตัวประกอบในเงื่อนไขทั่วไปที่ระบุว่า " ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด เช่น ไมเกรน โรคกระเพาะ และโรคลำไส้ระคายเคือง ,แต่มันดูเหมือนจะสนับสนุนเช่นหลักนักฆ่าในการโจมตีหัวใจ เบาหวาน และกระดูกพรุน โรค เช่น มะเร็ง
แม้เพียงเล็กน้อยอย่างแปลกใจ ซึ่งมีหลักฐานว่า ความเครียดเป็นปัจจัยเหตุเคร่งเครียดมาก เมื่อคนได้รับการวินิจฉัยและเริ่มการรักษา โยคะไม่เพียง แต่สามารถปรับปรุงคุณภาพของชีวิตหลังจากการวินิจฉัยแต่มันดูเหมือนจะลดผลข้างเคียงของการผ่าตัด , รังสี , เคมีบำบัดและการรักษาอื่น ๆ และอาจเพิ่มโอกาสของการอยู่รอด
ชื่นชมบทบาทของความเครียดในโรคและผ่อนคลายในการป้องกันและการกู้คืน , มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ ( ANS ) ซึ่งควบคุมการทำงานของหัวใจ ตับ ไต ไส้และอวัยวะอื่น ๆ ภายใน วันและมีสาขาสองที่ทำงานร่วมกับ : ระบบประสาท Sympathetic ( SNS ) และระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ( จู๋ ) โดยทั่วไป เมื่อกิจกรรมสูงใน SNS จะลดลงในรอบนอก และในทางกลับกัน
SNS ร่วมกับฮอร์โมนความเครียดเช่น cortisol และ adrenaline เริ่มต้นชุดของการเปลี่ยนแปลงในร่างกายรวมไปถึงการเพิ่มความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และระดับน้ำตาลในเลือด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยจัดการคนที่มีสภาวะวิกฤติ พวกเขาหมายถึงพลังงานมากขึ้นและเลือดและออกซิเจนไหลเวียนไปยังกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ของลำตัว แขน และขา ให้คนหนีจากอันตรายหรือทำสงคราม ( การต่อสู้ที่เรียกว่า " หรือเที่ยวบิน " การตอบสนอง ) .
จู๋ ในทางตรงข้ามมีแนวโน้มที่จะช้า หัวใจ และลดความดันโลหิต ช่วยให้ฟื้นตัวหลังเหตุการณ์เคร่งเครียด การไหลของเลือดที่ถูกเบี่ยงเบนออกไปจากลำไส้ และอวัยวะที่มีหน้าที่สืบพันธุ์ , ไม่สําคัญในกรณีฉุกเฉิน กลับมา ในทางตรงกันข้ามกับการต่อสู้หรือเที่ยวบิน , ฟังก์ชั่นบูรณะเพิ่มเติมเหล่านี้สามารถคิดเป็น " ส่วนที่เหลือและย่อย " พวกเขาบางครั้งขนานนามการตอบสนองการพักผ่อน .
การปฏิบัติโยคะอาสนะ มากมาย อาทิ เงียบ หายใจช้า สมาธิ และการสร้างจินตภาพ เพิ่มการกระตุ้นของจู๋และนำไปสู่การผ่อนคลายจิตใจ เทคนิคโยคะเป็นมากกว่าเพียงแค่การพักผ่อน อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติเช่น salutations อาทิตย์ที่เข้มแข็ง kaphalabhati ลมหายใจและลมหายใจมีความคงทนจริงเปิดใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ หนึ่งในความลับของโยคะเอกสารการวิจัยจากสวามีวิเวกานันทะวิจัยมูลนิธิโยคะใกล้ Bangalore , ที่ใช้งานมากขึ้นตามแนวทางปฏิบัติโดยผ่อนคลายที่นำไปสู่การผ่อนคลายลึกกว่าผ่อนคลายการปฏิบัติคนเดียว