Stroke is the most important cause

Stroke is the most important cause of severe and long-term
disability in developed countries [1]. It is estimated that the
incidence of stroke in the Dutch population will increase 17% from
2010 to 2020 [2]. Patients with stroke face serious health problems
not only in the acute phase, but also in the long-term or
rehabilitation phase and the chronic phases. Providing patients
and caregivers with good education and information concerning
stroke recovery is an important aspect of caring for stroke patients
[3]. Education provides support to people by providing an
understanding of their illness and assistance with decisionmaking
[4]. Furthermore, education has an important role in
secondary stroke prevention and facilitating successful selfmanagement
of this chronic disease [5]. A lack of education for
patients and caregivers can lead to misconceptions, anxiety, fear,
poor health status and emotional problems like depression [6]. A
recent study showed that the lack of information is a key factor
that prevents many European caregivers from adequately accessing
support services. This problem is especially true for isolated
caregivers who are growing in number in Europe [7].
There is a difference between patient information and patient
education. According to the taxonomy of the Nursing Interventions
Classification, patient information concerns facilitating communication
about health care, whereas patient education consists of
interventions that facilitate learning for individual patients and
caregivers, families and groups or communities [8]. This review
focuses on patient education, which begins providing factual
information to patients and caregivers but also includes the
interpretation and integration of information in such a manner as
to bring about attitude or behavior changes that benefit a person’s
health status [9]. A recent Cochrane review presents evidence that
information improves patients’ and caregivers’ knowledge concerning
stroke, increases satisfaction and leads to lower depression
scores in patients; however, such information does not appear to
reduce the number of patients with anxiety or depression, nor does
it appear to influence caregiver mood, satisfaction or death [3].
These findings may be due to the methodological differences of the
reviewed studies, which covered a broad range of interventions.
Also, the interventions were not tailored to patient or caregiver
needs [3]. Studies have consistently demonstrated that many
stroke patients and their families express a lack of understanding
and a desire for further knowledge about the causes and the
consequences of stroke, about secondary preventive measures and
about the availability of governmental support agencies and
informal support groups. The available evidence suggests that the
currently used methods of providing information to stroke patients
and caregivers are ineffective and need improvement [6].
Given this background, the objective of this review was to
provide an overview of patients’ and caregivers’ educational needs
throughout the different phases following stroke. Our research
question was: ‘‘What are the educational needs of stroke patients
and their caregivers during the different phases following the
stroke?’’

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุสำคัญของความรุนแรง และระยะยาวทุพพลภาพในประเทศพัฒนาแล้ว [1] มีประเมินที่การอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดสมองในประชากรดัตช์จะเพิ่มขึ้น 17% จาก2010 ถึง 2020 [2] ผู้ป่วยที่ มีโรคหลอดเลือดสมองต้องเผชิญปัญหาสุขภาพร้ายแรงไม่เพียงแต่ ในระยะเฉียบพลัน แต่ยังอยู่ ในระยะยาว หรือระยะฟื้นฟูและระยะเรื้อรัง ให้ผู้ป่วยและเรื้อรัง ด้วยการศึกษาที่ดีและข้อมูลเกี่ยวกับจังหวะอยู่เป็นด้านสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง[3] ศึกษาให้การสนับสนุนผู้ตามให้การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและความช่วยเหลือ decisionmaking[4] นอกจากนี้ การศึกษามีบทบาทสำคัญในป้องกันและอำนวยความสะดวก selfmanagement สำเร็จเส้นรองของโรคเรื้อรังนี้ [5] ขาดการศึกษาเรื้อรังและผู้ป่วยสามารถนำไปสู่ความเข้าใจผิด ความกังวล ความ กลัวสถานะสุขภาพและปัญหาทางอารมณ์เช่นภาวะซึมเศร้า [6] Aศึกษาล่าสุดพบว่า การขาดข้อมูลที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ป้องกันเรื้อรังในยุโรปเข้าถึงอย่างเพียงพอสนับสนุนบริการ ปัญหานี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแยกต่างหากเรื้อรังที่เติบโตในตัวเลขในยุโรป [7]มีความแตกต่างระหว่างข้อมูลผู้ป่วยและผู้ป่วยการศึกษา ตามการจำแนกประเภทของงานการพยาบาลการจัดประเภท อำนวยความสะดวกในการสื่อสารเกี่ยวข้องกับข้อมูลผู้ป่วยเกี่ยวกับสุขภาพ ในขณะศึกษาผู้ป่วยประกอบด้วยงานวิจัยที่ช่วยในการเรียนรู้สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย และเรื้อรัง ครอบครัว และกลุ่ม หรือชุมชน [8] บทความนี้เน้นการศึกษาผู้ป่วย ซึ่งเริ่มให้บริการจริงข้อมูลกับผู้ป่วยเรื้อรัง แต่ยัง รวมถึงการตีความและการรวมข้อมูลในลักษณะดังกล่าวเป็นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือพฤติกรรมที่บุคคลได้รับประโยชน์สถานะสุขภาพ [9] หลักฐานที่แสดงการตรวจทานขั้นล่าสุดความรู้ผู้ป่วยและเรื้อรังของการปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มความพึงพอใจ และนำไปสู่ลดภาวะซึมเศร้าคะแนนในผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่ลดจำนวนผู้ป่วย มีความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า หรือไม่มันจะมีอิทธิพลต่อภูมิปัญญาอารมณ์ ความพึงพอใจ หรือเสียชีวิต [3]ผลการวิจัยเหล่านี้อาจเป็น เพราะต่าง methodological ของทบทวนศึกษา ซึ่งครอบคลุมงานวิจัยที่หลากหลายยัง งานไม่เหมาะกับผู้ป่วยหรือภูมิปัญญาต้องการ [3] การศึกษาอย่างต่อเนื่องได้แสดงที่หลายผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและครอบครัวของพวกเขาแสดงการขาดความเข้าใจและความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและผลของจังหวะ เกี่ยวกับมาตรการรอง และเกี่ยวกับความพร้อมของหน่วยงานสนับสนุนภาครัฐ และกลุ่มสนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการ หลักฐานมีแนะนำที่ในปัจจุบันใช้วิธีการให้ข้อมูลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและเรื้อรังเป็นผล และต้องปรับปรุง [6]กำหนดให้พื้นหลังนี้ วัตถุประสงค์ของบทความนี้ได้แสดงภาพรวมของความต้องการทางการศึกษาผู้ป่วยและความเรื้อรังตลอดระยะแตกต่างกันตามจังหวะ วิจัยของเราคำถาม: '' ศึกษาความต้องการของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองคืออะไรและเรื้อรังของพวกเขาในช่วงระยะต่าง ๆ ตามจังหวะ?''

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของความรุนแรงและระยะยาวความพิการในประเทศที่พัฒนาแล้ว [1]
มันเป็นที่คาดว่าอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดสมองในประชากรชาวดัตช์จะเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปี2010 ในปี 2020 ที่จะ [2] ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดสมองใบหน้าของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงไม่เพียง แต่ในระยะเฉียบพลัน แต่ยังอยู่ในระยะยาวหรือการฟื้นฟูสมรรถภาพเฟสและขั้นตอนเรื้อรัง ให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยที่มีการศึกษาที่ดีและข้อมูลเกี่ยวกับการกู้คืนจังหวะเป็นสิ่งสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง[3] การศึกษาให้การสนับสนุนคนโดยการให้ความเข้าใจของการเจ็บป่วยของพวกเขาและความช่วยเหลือเกี่ยวกับการตัดสินใจ[4] นอกจากนี้การศึกษามีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองรองและการอำนวยความสะดวก selfmanagement ที่ประสบความสำเร็จของการเกิดโรคเรื้อรังนี้[5] การขาดการศึกษาสำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถนำไปสู่ความเข้าใจผิดความวิตกกังวลความกลัวภาวะสุขภาพไม่ดีและปัญหาทางอารมณ์เช่นภาวะซึมเศร้า[6] ศึกษาล่าสุดพบว่าการขาดข้อมูลที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ป้องกันไม่ให้ผู้ดูแลผู้ป่วยในยุโรปหลายอย่างเพียงพอจากการเข้าถึงบริการสนับสนุน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการแยกผู้ดูแลผู้ป่วยที่มีการเจริญเติบโตในตัวเลขในยุโรป [7]. มีความแตกต่างระหว่างข้อมูลผู้ป่วยและผู้ป่วยคือการศึกษา ตามอนุกรมวิธานของการพยาบาลการแทรกแซงในการจำแนกความกังวลข้อมูลผู้ป่วยที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในขณะที่การศึกษาผู้ป่วยประกอบด้วยการแทรกแซงที่อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้สำหรับผู้ป่วยแต่ละรายและผู้ดูแลผู้ป่วยครอบครัวและกลุ่มหรือชุมชน[8] รีวิวนี้มุ่งเน้นไปที่การศึกษาผู้ป่วยซึ่งจะเริ่มให้บริการจริงข้อมูลแก่ผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยแต่ยังรวมถึงตีความและบูรณาการของข้อมูลในลักษณะที่จะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลสถานะสุขภาพ[9] ทบทวน Cochrane ที่ผ่านมาได้นำเสนอหลักฐานที่แสดงว่าข้อมูลที่ช่วยเพิ่มของผู้ป่วยและผู้ดูแลความรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มความพึงพอใจและนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าลดคะแนนในผู้ป่วย; แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่ปรากฏในการลดจำนวนของผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าหรือไม่ปรากฏจะมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของผู้ดูแลความพึงพอใจหรือการเสียชีวิต[3]. การค้นพบนี้อาจจะเป็นเพราะความแตกต่างที่วิธีการของการศึกษาการตรวจสอบที่ครอบคลุมความหลากหลายของการแทรกแซง. นอกจากนี้การแทรกแซงที่ไม่ได้ปรับให้เหมาะสมกับผู้ป่วยหรือผู้ดูแลต้องการ [3] การศึกษาอย่างต่อเนื่องได้แสดงให้เห็นว่าหลายผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและครอบครัวของพวกเขาแสดงการขาดความเข้าใจและความปรารถนาสำหรับความรู้เพิ่มเติมสาเหตุและผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมองเกี่ยวกับมาตรการป้องกันมัธยมศึกษาและเกี่ยวกับความพร้อมของหน่วยงานสนับสนุนภาครัฐและกลุ่มสนับสนุนทางการ มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าวิธีการที่ใช้ในปัจจุบันในการให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและผู้ดูแลผู้ป่วยจะไม่ได้ผลและต้องมีการปรับปรุง[6]. ให้ไว้ ณ พื้นหลังนี้วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบนี้คือการให้ภาพรวมของผู้ป่วยและผู้ดูแล'การศึกษาความต้องการตลอด ขั้นตอนที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้โรคหลอดเลือดสมอง การวิจัยของเราคำถามคือ: '' อะไรคือการศึกษาความต้องการของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและผู้ดูแลในระหว่างขั้นตอนที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้โรคหลอดเลือดสมอง? ​​''

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุสำคัญของความพิการที่รุนแรง และระยะยาวในการพัฒนาประเทศ
[ 1 ] มันคือประมาณว่า
อุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดสมองในประชากรดัตช์จะเพิ่มขึ้น 17% จาก
2010 2020 [ 2 ] ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เผชิญปัญหาสุขภาพร้ายแรง
ไม่เพียง แต่ในระยะเฉียบพลัน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการฟื้นฟูระยะยาวหรือ
ระยะเรื้อรัง การให้ผู้ป่วย
และผู้ดูแลที่มีการศึกษาที่ดีและข้อมูลเกี่ยวกับการกู้คืนจังหวะ
เป็นลักษณะสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
[ 3 ] การศึกษาสนับสนุนให้กับประชาชนโดยการให้ความเข้าใจของตนเจ็บป่วย
และความช่วยเหลือกับการตัดสินใจ
[ 4 ] นอกจากนี้ การศึกษาได้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองมัธยมศึกษาและสกรีน

selfmanagement ที่ประสบความสำเร็จนี้เรื้อรัง [ 5 ] การขาดการศึกษา
ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถนำไปสู่ความเข้าใจผิด , ความวิตกกังวล , ความกลัว ,
สถานะสุขภาพไม่ดี และปัญหาทางอารมณ์เช่นภาวะซึมเศร้า [ 6 ] การศึกษาล่าสุดพบว่ามี
ขาดข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันผู้ป่วยจากยุโรปมากมาย

อย่างเพียงพอ การเข้าถึงบริการสนับสนุน ปัญหา นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแยก
ผู้ดูแลเด็กที่เติบโตในตัวเลขในยุโรป [ 7 ] .
มีความแตกต่างระหว่างข้อมูลผู้ป่วยและผู้ป่วย

ตามอนุกรมวิธานของการแทรกแซง
พยาบาลหมวดหมู่ ข้อมูลผู้ป่วยที่เอื้อต่อการสื่อสาร
ความกังวลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และการศึกษาผู้ป่วยประกอบด้วย
การแทรกแซงที่อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้สำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลแต่ละ
,ครอบครัวและกลุ่มหรือชุมชน [ 8 ] รีวิวนี้
เน้นการศึกษาผู้ป่วย ซึ่งจะเริ่มให้ข้อมูลข้อเท็จจริง
เพื่อผู้ป่วยและผู้ดูแล แต่ยังรวมถึงการตีความและการบูรณาการข้อมูล

ในลักษณะดังกล่าวเป็นการนำเรื่องทัศนคติ หรือพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของบุคคลสถานภาพ
[ 9 ] ล่าสุด Cochrane ทบทวนหลักฐาน
ของขวัญข้อมูลปรับปรุง ของผู้ป่วย และความรู้ของผู้ดูแลเกี่ยวกับ
จังหวะ เพิ่มความพึงพอใจ และนำไปสู่การลดภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วย
คะแนน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่ปรากฏ

ลดจำนวนผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าหรือไม่
มันปรากฏมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของผู้ดูแล หรือตาย [ 3 ] .
ข้อมูลเหล่านี้อาจ ได้เนื่องจากความแตกต่างในของ
พิจารณา ศึกษา ซึ่งครอบคลุมช่วงกว้างของการแทรกแซง .
นอกจากนี้ มาตรการไม่เหมาะกับผู้ป่วยหรือผู้ดูแล
ต้องการ [ 3 ] มีการศึกษาอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมาก
และครอบครัวของพวกเขาแสดงการขาดความเข้าใจ
และความปรารถนาสำหรับเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมอง

เรื่องมาตรการป้องกันทุติยภูมิ