Prior to work, officers assemble th

Prior to work, officers assemble their uniforms and equipment and possibly do some preparation or preventive maintenance. Some officers dress for work at home, and some wear street clothes to work and dress in a locker room. An officer might ensure his shoes and "brass" (the snap covers on his Sam Browne/gun belt and various insignia pins on his uniform shirt) are shined, his sidearm is loaded and serviceable, and his flashlight has fresh batteries or is fully charged if it's rechargeable.

Most shifts begin with a briefing or roll call session of 10-30 minutes. Here, a supervisor will assign beats (patrol sectors) and radio call numbers, advise of any special details or assignments that might have to be covered during the shift (e.g. a high school football game is set to end at 10 p.m., and an officer should be in the area for traffic control), and brief everyone on any ongoing crime patterns or "BOLOs" (Be On the LookOuts) so officers will know to watch for specific behaviors, people, or vehicles. Briefing frequently incorporates some brief training material on new case law, gang activity, symptoms of drug abuse, or other topics. The briefing session may include an inspection of everyone's uniform and equipment.

The officer then goes to his assigned patrol car and inspects it for function of all regular and special equipment (headlights, turn signals, emergency lights, siren, etc.) and to replace any missing supplies from the usual complement of first aid kits, road flares, crime scene tape, fire extinguisher, etc. The officer uses his radio to report he is "in service" to the dispatcher and begins his patrol.

If the officer is working during the weekday, he may be called into court to testify on a case from a previous shift weeks or even years before. If he works at night or on weekends, he may be called into court during his off duty hours. He will be paid overtime if this happens. When he plans a vacation, he has to notify the local prosecutors' offices of his planned absence so they can request continuances for any cases set to be heard during that time.

When not assigned to a call for service, officers are generally free to roam at will within their patrol sector and initiate any activity they see as worthy. This includes stopping cars for traffic violations, interviewing suspicious-looking persons, investigating conditions that are JDLR (Just Don't Look Right) for evidence of criminal activity, and chatting with businessmen and neighborhood people. If the officer has a patrol car computer capable of making inquiries to the various criminal databases for police, such as NCIC (National Crime Information Center), he may check the license plates of cars he sees to determine if they are stolen or the registered owner is wanted. Good patrol officers have a high level of "on sight activity" and are seldom idle or driving aimlessly for very long.

At some point, the dispatcher will notify the officer of a call for service, either by voice radio or by sending the call in text to his patrol car computer. Calls for service can be just about anything: domestic quarrels, thefts from a business or home, burglary, a vehicle accident, or just a citizen with a question or concern. People will call the police when they don't know who else to call, so a good patrol officer knows the available resources in the community and how to reach them. It's highly likely the officer will spend more time on these public service and order maintenance matters than on actual law enforcement.

If a call for service requires the filing of a report, the officer may complete the report in the field or return to the station. Most officers with patrol car computers can file paperless reports from the field, but this requires sitting in the car for extended periods in a posture not conducive to typing because of the space restrictions in the car. While typing the report, the officer can also lose his sense of situational awareness and not notice a potential hazard approaching him. This is why officers will sometimes park in the middle of a large, empty parking lot or other open space while doing paperwork. The buffer of the open space makes it difficult to approach the officer's car without him observing the approach.

The officer may also have to go to the station to book evidence related to a case. If an officer recovers narcotics or physical evidence at a crime scene, he has to protect the "chain of custody" and document the location and status of the evidence from the time it is recovered until it is introduced as evidence in court. If the evidence is left unattended in

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนทำงาน เจ้าหน้าที่ประกอบเครื่องแบบและอุปกรณ์ และอาจจะทำบำรุงรักษาบางเตรียมการหรือป้องกัน เจ้าหน้าที่บางแต่งสำหรับทำงานที่บ้าน และเสื้อผ้าบางถนนสวมใส่ทำงาน และแต่งตัวในห้องล็อกเกอร์ เจ้าหน้าที่อาจให้แน่ใจว่ารองเท้าของเขา และ "ทองเหลือง" (snap ที่ครอบคลุมบนเข็มขัด Sam ชิ้น/ปืนของเขาและสลักเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่าง ๆ บนเสื้อของเขาเหมือนกัน) มี shined, sidearm เขาจะโหลด และสามารถซ่อมแซมได้ และไฟฉายของเขามีแบตเตอรี่ที่ใหม่ หรือการชาร์จว่า ชาร์จส่วนใหญ่กะเริ่ม ด้วยการบรรยายสรุปหรือเรียก 10-30 นาที ที่นี่ ผู้ควบคุมงานจะกำหนดจังหวะ (ตระเวนภาค) และหมายเลขโทรวิทยุ ให้คำแนะนำละเอียดพิเศษหรือกำหนดที่อาจจะครอบคลุมระหว่างกะ (เช่น เกมฟุตบอลโรงเรียนมัธยมถูกกำหนดเป็นสิ้นสุดเวลา 22.00 น. และเจ้าหน้าที่ควรจะอยู่ในพื้นที่ควบคุมจราจร), และย่อทุกคนในทุกรูปแบบอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องหรือ "BOLOs" (ได้จากการรับ) ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะรู้ว่าการดูสำหรับพฤติกรรมโดยเฉพาะ คน หรือยานพาหนะ ประชุมบ่อยรวมบางวัสดุการฝึกอบรมสั้น ๆ ในกรณีกฎหมายใหม่ กิจกรรมแก๊ง อาการของยาเสพติด หรือหัวข้ออื่น ๆ ขาอาจรวมถึงการตรวจสอบของเครื่องแบบและอุปกรณ์ของทุกคนเจ้าหน้าที่จากนั้นไปยังรถลาดตระเวนของเขากำหนด และตรวจสอบสำหรับการทำงาน ของอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นประจำ และพิเศษ (ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไซเรน ฯลฯ) และ การแทนอุปกรณ์ใด ๆ ขาดหายไปจากส่วนประกอบปกติของชุดปฐมพยาบาล ดับเพลิง เทปฉากอาชญากรรม พลุถนน ฯลฯ เจ้าหน้าที่ที่ใช้วิทยุของเขารายงานเขาในบริการ"เพื่อการจัดส่ง และเริ่มตระเวนของเขาหากเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในระหว่างวันทำงาน เขาอาจจะเรียกเข้าไปในศาลเพื่อเป็นพยานในกรณีจากการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้าสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งปีก่อน ถ้าเขาทำงาน เวลากลางคืน หรือ วันหยุดสุดสัปดาห์ เขาอาจเรียกเป็นศาลระหว่างเขาปิดทำหน้าที่นั้น เขาจะได้รับเงินค่าล่วงเวลาในกรณีนี้ เมื่อเขาวางแผนวันหยุด เขาได้แจ้งสำนักงานอัยการท้องถิ่นแผนการขาดงานของเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถขอ continuances สำหรับกรณีใด ๆ ที่ตั้งค่าการได้ยินในช่วงเวลานั้นเมื่อไม่กำหนดสายบริการ เจ้าหน้าที่มีอิสระโดยทั่วไปการเร่ร่อนได้ภายในภาคลาดตระเวนของพวกเขา และเริ่มกิจกรรมใด ๆ พวกเขาเห็นเป็นการสมควร ซึ่งรวมถึงการหยุดรถการจราจรการละเมิด สัมภาษณ์สงสัยกำลังบุคคล ตรวจสอบเงื่อนไขที่ JDLR (แค่ไม่มองขวา) สำหรับหลักฐานของอาชญากรรม และพูดคุยกับนักธุรกิจและย่านคน ถ้ามีเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์รถสามารถทำให้สอบถามกับฐานข้อมูลคดีอาญาต่าง ๆ สำหรับตำรวจ เช่น NCIC (ศูนย์แห่งชาติอาชญากรรมข้อมูล), เขาอาจตรวจสอบป้ายทะเบียนรถยนต์ที่เขาเห็นเพื่อตรวจสอบว่า พวกเขาจะถูกขโมย หรือจดทะเบียนถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจดีมีระดับสูง "ในกิจกรรมสายตา" และไม่ค่อยจะได้ใช้งาน หรือขับโต๋เต๋นานมากในบางจุด ตัวจัดส่งจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่โทรสำหรับบริการ โดยเสียงวิทยุ หรือส่งการเรียกข้อความกับคอมพิวเตอร์รถของเขา เรียกสำหรับบริการได้เพียงเกี่ยวกับอะไร: ทะเลาะวิวาทภายในประเทศ ขโมยจากธุรกิจหรือบ้าน โจรกรรม อุบัติเหตุรถ หรือพลเมืองกับคำถามหรือความกังวล ท่านจะเรียกตำรวจเมื่อพวกเขาไม่ทราบว่าใครอื่นจะเรียก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดีการรู้ทรัพยากรมีอยู่ในชุมชนและวิธีการเข้าถึงพวกเขา ก็มีแนวโน้มสูงเจ้าหน้าที่จะใช้เวลามากขึ้นในเรื่องเหล่านี้บริการสาธารณะและการสั่งซื้อการบำรุงรักษามากกว่าการบังคับใช้กฎหมายจริงถ้าการเรียกบริการต้องยื่นแบบรายงาน เจ้าหน้าที่อาจทำรายงานในฟิลด์ หรือกลับไปยังสถานี เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ที่ มีคอมพิวเตอร์รถลาดตระเวนสามารถแฟ้มกระดาษรายงานจากฟิลด์ แต่ต้องนั่งอยู่ในรถนานในท่าที่ไม่เอื้อต่อการพิมพ์เนื่องจากข้อจำกัดพื้นที่ในรถ เจ้าหน้าที่สามารถสูญเสียความรู้สึกรับรู้สถานการณ์ของเขา และไม่ได้สังเกตเห็นเป็นอันตรายใกล้ขณะพิมพ์รายงาน นี่คือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่บางครั้งจะจอดตรงกลางจอดรถขนาดใหญ่ ว่างเปล่าหรือพื้นที่อื่น ๆ ในขณะที่ทำงานเอกสาร บัฟเฟอร์ของทำให้ยากที่จะเข้าใกล้รถของเจ้าหน้าที่โดยไม่ให้เขาสังเกตวิธีการเจ้าหน้าที่ยังอาจต้องไปสถานีหลักฐานหนังสือที่เกี่ยวข้องกับกรณีและปัญหา เจ้าหน้าที่กู้ยาเสพติดหรือวัตถุพยานที่เกิดเหตุ เขาได้ปกป้อง "ลูกโซ่ของการดูแล" และเอกสารสถานที่และสถานะของหลักฐานจากเวลามันมีการกู้คืนจนกว่าจะถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานในศาล ถ้าหลักฐานที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนที่จะทำงานเจ้าหน้าที่ประกอบเครื่องแบบและอุปกรณ์ของพวกเขาและอาจจะเตรียมการบางอย่างหรือการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เจ้าหน้าที่บางคนแต่งกายสำหรับการทำงานที่บ้านและบางคนสวมใส่เสื้อผ้าที่สถานที่ในการทำงานและการแต่งกายในห้องล็อกเกอร์ เจ้าหน้าที่อาจให้แน่ใจว่ารองเท้าและ "ทองเหลือง" เขา (สแน็ปครอบคลุมแซมบราวน์ / เข็มขัดปืนของเขาและหมุดเครื่องหมายต่างๆบนเสื้อเครื่องแบบของเขา) จะส่องอาวุธของเขาคือการโหลดและใช้สอยและไฟฉายของเขามีแบตเตอรี่สดหรือเป็นค่าใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ถ้าหากมันเป็นแบบชาร์จไฟได้.

กะส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยการบรรยายสรุปหรือโทรม้วนเซสชั่น 10-30 นาที ที่นี่ผู้บังคับบัญชาจะกำหนดจังหวะ (ภาคลาดตระเวน) และหมายเลขโทรวิทยุให้คำแนะนำรายละเอียดพิเศษใด ๆ หรือการมอบหมายงานที่อาจจะต้องได้รับการคุ้มครองในช่วงการเปลี่ยนแปลง (เช่นเกมฟุตบอลโรงเรียนมัธยมมีการตั้งค่าไปสิ้นสุดที่ 10:00 และเจ้าหน้าที่ ควรจะอยู่ในพื้นที่สำหรับการควบคุมการจราจร) และทุกคนสั้น ๆ เกี่ยวกับรูปแบบการก่ออาชญากรรมใด ๆ อย่างต่อเนื่องหรือ "Bolos" (เป็นที่เฝ้ายาม) เพื่อให้เจ้าหน้าที่จะได้รู้ว่าจะดูพฤติกรรมเฉพาะบุคคลหรือยานพาหนะ การบรรยายสรุปที่พบบ่อยรวมวัสดุการฝึกอบรมบางสั้น ๆ เกี่ยวกับกฎหมายใหม่กรณีที่กิจกรรมแก๊งอาการของยาเสพติดหรือหัวข้ออื่น ๆ เซสชั่นการบรรยายสรุปอาจรวมถึงการตรวจสอบของชุดเครื่องแบบของทุกคนและอุปกรณ์.

เจ้าหน้าที่จากนั้นก็เดินไปที่รถลาดตระเวนของเขาได้รับมอบหมายและตรวจสอบสำหรับการทำงานของอุปกรณ์ปกติและพิเศษทั้งหมด (ไฟหน้าเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินไซเรน, ฯลฯ ) และจะเข้ามาแทนที่ วัสดุสิ้นเปลืองใด ๆ หายไปจากที่สมบูรณ์ตามปกติของชุดปฐมพยาบาลพลุถนนเทปที่เกิดเหตุ, เครื่องดับเพลิง ฯลฯ เจ้าหน้าที่ใช้วิทยุของเขาที่จะรายงานว่าเขาเป็น "ในการให้บริการ" เพื่อมอบหมายงานและเริ่มลาดตระเวนของเขา.

หากเจ้าหน้าที่จะทำงาน ในระหว่างวันทำงานเขาอาจจะเรียกว่าเป็นศาลที่จะเป็นพยานในกรณีที่จากสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้การเปลี่ยนแปลงหรือแม้กระทั่งหลายปีก่อน ถ้าเขาทำงานในเวลากลางคืนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์เขาอาจจะเรียกว่าเป็นศาลในช่วงเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของเขาออก เขาจะได้รับเงินค่าล่วงเวลาถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อเขามีแผนวันหยุดเขาจะต้องแจ้งให้สำนักงานอัยการท้องถิ่นของการขาดการวางแผนของเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถขอ continuances สำหรับกรณีใด ๆ จะได้รับการได้ยินในช่วงเวลานั้น.

เมื่อไม่ได้รับมอบหมายให้เรียกร้องให้บริการเจ้าหน้าที่มักจะมีอิสระในการเดินเตร่ ที่จะภายในภาคลาดตระเวนของพวกเขาและเริ่มต้นการดำเนินการใด ๆ พวกเขาเห็นว่าคุ้มค่า ซึ่งรวมถึงการหยุดรถสำหรับการละเมิดกฎจราจร, การสัมภาษณ์บุคคลที่ดูน่าสงสัยการสืบสวนเงื่อนไขที่ JDLR (เพียงอย่ามองขวา) หาหลักฐานของกิจกรรมทางอาญาและพูดคุยกับนักธุรกิจและคนบ้านใกล้เรือนเคียง หากเจ้าหน้าที่มีคอมพิวเตอร์รถลาดตระเวนความสามารถในการสอบถามไปยังฐานข้อมูลความผิดทางอาญาต่างๆสำหรับตำรวจเช่น NCIC (ศูนย์ข้อมูลอาชญากรรมแห่งชาติ) เขาอาจจะตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนรถที่เขาเห็นเพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาจะถูกขโมยหรือเจ้าของจดทะเบียน กำลังเป็นที่ต้องการ เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนดีมีระดับสูงของ "ที่เห็นกิจกรรม" และไม่ได้ใช้งานไม่ค่อยหรือขับรถไปอย่างไร้จุดหมายนานมาก.

ในบางจุดที่ส่งไปจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของการเรียกใช้บริการไม่ว่าจะโดยวิทยุเสียงหรือโดยการส่งโทรใน ข้อความไปยังรถลาดตระเวนคอมพิวเตอร์ของเขา เรียกร้องให้มีการบริการที่สามารถเป็นเพียงเกี่ยวกับอะไร: การทะเลาะวิวาทในประเทศลักขโมยจากธุรกิจหรือบ้านลักทรัพย์อุบัติเหตุรถหรือเพียงแค่พลเมืองที่มีคำถามหรือข้อสงสัย ผู้คนจะเรียกตำรวจเมื่อพวกเขาไม่ทราบว่ามีใครบ้างที่จะเรียกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ดีรู้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนและวิธีการเข้าถึงพวกเขา เป็นไปได้อย่างสูงที่เจ้าหน้าที่จะใช้เวลามากขึ้นในการให้บริการและการบำรุงรักษาเพื่อเรื่องของประชาชนเหล่านี้มากกว่าการบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้นจริง.

หากมีการเรียกใช้บริการต้องยื่นรายงานเจ้าหน้าที่อาจเสร็จสิ้นการรายงานในสนามหรือกลับไปที่สถานี เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่กับคอมพิวเตอร์รถลาดตระเวนสามารถยื่นรายงานไร้กระดาษจากสนาม แต่ต้องนั่งอยู่ในรถเป็นระยะเวลานานในท่าที่ไม่เอื้อต่อการพิมพ์เพราะข้อ จำกัด ด้านพื้นที่ในรถ ในขณะที่พิมพ์รายงานเจ้าหน้าที่ยังสามารถสูญเสียความรู้สึกของเขาในการรับรู้สถานการณ์และไม่เห็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นใกล้เขา นี่คือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่บางครั้งจะจอดอยู่ตรงกลางของขนาดใหญ่ที่จอดรถที่ว่างเปล่าหรือพื้นที่อื่น ๆ ที่เปิดในขณะที่ทำเอกสาร บัฟเฟอร์ของพื้นที่เปิดโล่งทำให้มันยากที่จะเข้าใกล้รถของเจ้าหน้าที่โดยไม่มีเขาสังเกตวิธีการ.

เจ้าหน้าที่ยังอาจจะต้องไปยังสถานีที่จะจองหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี หากเจ้าหน้าที่กู้ยาเสพติดหรือหลักฐานทางกายภาพที่เกิดเหตุที่เขามีเพื่อปกป้อง "ห่วงโซ่ของการดูแล" และเอกสารตำแหน่งและสถานะของหลักฐานจากเวลาที่จะมีการกู้คืนจนกว่าจะมีการแนะนำว่าเป็นหลักฐานในศาล หากหลักฐานที่ทิ้งไว้ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก่อนที่จะทำงาน เจ้าหน้าที่ประกอบเครื่องแบบและอุปกรณ์ของพวกเขาและอาจจะทำให้การเตรียมการบางอย่าง หรือซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน เจ้าหน้าที่ชุดทำงาน ที่บ้าน และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายถนนทำงานและแต่งตัวในห้องล็อกเกอร์ เจ้าหน้าที่อาจจะให้แน่ใจว่า รองเท้าของเขาและ " ทองเหลือง " ( snap ครอบคลุมของเขา แซม บราวน์ / ปืนเข็มขัดหมุดบนเสื้อเครื่องแบบและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างๆของเขา ) ส่องปืนของเขา , โหลดและเป็นประโยชน์ , และไฟฉายของเขาได้แบตเตอรี่ใหม่หรือชาร์จเต็มถ้าเป็นแบบชาร์จกะส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยการบรรยายสรุปหรือเรียกชื่อสมัย 10-30 นาที ที่นี่ เป็นผู้บังคับบัญชาจะมอบหมายให้เต้น ( ภาคตระเวน ) และตัวเลขวิทยุโทรแจ้งรายละเอียดพิเศษใด ๆหรืองานที่อาจจะต้องได้รับการคุ้มครองในช่วงเปลี่ยน ( เช่นเกมฟุตบอลโรงเรียนมัธยมเป็นชุดสุดท้ายที่ 10 p.m . และเจ้าหน้าที่ควรอยู่ในพื้นที่ควบคุมการจราจร ) ทุกคน และฉบับย่อ รูปแบบอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องหรือ " bolos " ( เป็นยาม ) เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทราบเพื่อดูพฤติกรรมเฉพาะบุคคล หรือยานพาหนะ สรุปสั้นๆบ่อยประกอบด้วยบางวัสดุการฝึกอบรมกฎหมายใหม่กลุ่มกิจกรรม อาการ ของยาเสพติด หรืออื่น ๆหัวข้อ สรุปการประชุมอาจรวมถึงการตรวจสอบชุดของทุกคนและอุปกรณ์เจ้าหน้าที่ก็ให้รถสายตรวจของเขาและการตรวจสอบสำหรับฟังก์ชันทั้งหมดของปกติและอุปกรณ์พิเศษ ( ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไซเรน ฯลฯ ) และเพื่อแทนที่อุปกรณ์เสริมใด ๆที่ขาดหายไปจากปกติของชุดแรกช่วยเหลือถนน flares , เทปกั้นที่เกิดเหตุ ดับเพลิง ฯลฯ เจ้าหน้าที่ใช้วิทยุของเขา รายงานเขาคือ " บริการ " อย่างไร และเริ่มตระเวนของเขาถ้าเจ้าหน้าที่ทำงาน ในช่วงวันธรรมดา เขาอาจถูกเรียกเข้าไปในศาลเพื่อเป็นพยานในคดี จากเดิมกะสัปดาห์หรือแม้กระทั่งปีมาก่อน ถ้าเขาไปทำงานในเวลากลางคืนหรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาอาจถูกเรียกเข้าไปในศาลในเวลาปฏิบัติหน้าที่ออกของเขา เขาจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลา หากเกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อเขาวางแผนพักร้อน เขาได้แจ้งให้อัยการท้องถิ่นสำนักงานของการขาดแผนของเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถขอ continuances สำหรับกรณีใด ๆ การตั้งค่าที่จะได้ยินในตอนนั้นเมื่อไม่ได้กำหนดให้เรียกบริการ , เจ้าหน้าที่ทั่วไปเป็นอิสระที่จะตระเวนภายในภาค และเริ่มกิจกรรมใด ๆ พวกเขาเห็นเหมาะสม ซึ่งรวมถึงการหยุดรถสำหรับการละเมิดการจราจร การสัมภาษณ์บุคคลน่าสงสัย ตรวจสอบเงื่อนไขที่ jdlr ( แค่ไม่ได้มองขวา ) สำหรับหลักฐานของกิจกรรมทางอาญาและพูดคุยกับนักธุรกิจและบ้านคน หากเจ้าหน้าที่มีสายตรวจรถยนต์ คอมพิวเตอร์ สามารถที่จะสอบถามไปยังฐานข้อมูลต่าง ๆทางอาญาสำหรับตำรวจ เช่น NCIC ( ข้อมูลอาชญากรรมแห่งชาติศูนย์ ) เขาอาจจะตรวจสอบทะเบียนรถของรถยนต์ที่เขาเห็นเพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาจะถูกขโมย หรือเจ้าของจดทะเบียนเป็นที่ต้องการ ดี เจ้าหน้าที่สายตรวจได้ระดับสูง " ในกิจกรรม " สายตาและจะไม่ค่อยว่าง หรือขับรถไปอย่างไร้จุดหมายมานานเท่าไหร่ในบางจุด อย่างไรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ โทร บริการ อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเสียงวิทยุ หรือโดยการโทรในข้อความไปยังคอมพิวเตอร์ในรถสายตรวจ เรียกบริการสามารถเพียงเกี่ยวกับอะไร : ทะเลาะวิวาทใน thefts จากธุรกิจหรือที่บ้าน , ขโมย , อุบัติเหตุรถ , หรือเพียงแค่เป็นพลเมืองที่มีคำถามหรือปัญหา ผู้คนจะเรียกตำรวจเมื่อพวกเขาไม่รู้จะโทรหาใคร ดังนั้น เจ้าหน้าที่สายตรวจดีรู้ว่าทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน และวิธีที่จะเข้าถึงพวกเขา มันมีแนวโน้มสูง เจ้าหน้าที่จะใช้เวลามากขึ้นในเรื่องการบำรุงรักษาบริการสาธารณะและเพื่อกว่าการบังคับใช้กฎหมายจริงถ้าเรียกบริการต้องยื่นรายงาน เจ้าหน้าที่อาจจะให้รายงานในเขตหรือกลับไปที่สถานี พนักงานสอบสวน กับคอมพิวเตอร์ในรถสายตรวจได้รายงานแฟ้มกระดาษจากสนาม แต่นี้ต้องนั่งรถเป็นระยะเวลานานในท่าที่ไม่เอื้อต่อการพิมพ์ เนื่องจากพื้นที่จำกัด ในรถ ขณะพิมพ์รายงาน เจ้าหน้าที่ยังสามารถสูญเสียความรู้สึกของการรับรู้สถานการณ์และไม่ได้สังเกตเห็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นใกล้เขา นี่คือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่อาจจะจอดกลางขนาดใหญ่ที่ว่างเปล่าที่จอดรถหรือพื้นที่เปิดอื่น ๆในขณะที่ทำงานเอกสาร บัฟเฟอร์ของพื้นที่เปิดโล่ง ทำให้ยากที่จะเข้าถึงเป็นเจ้าหน้าที่รถโดยไม่มีเขาสังเกตวิธีการเจ้าหน้าที่อาจจะต้องไปที่สถานีรถไฟ เพื่อหลักฐานหนังสือที่เกี่ยวข้องกับคดี ถ้าเจ้าหน้าที่กู้ยาเสพติดหรือหลักฐานในที่เกิดเหตุ เขาต้องปกป้อง " ห่วงโซ่ของการดูแลและเอกสารสถานที่และสถานะของหลักฐานจากเวลามันได้จนกว่าจะใช้เป็นหลักฐานในศาลได้ ถ้าหลักฐานที่ทิ้งไว้ใน