ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุประเพณีการแห่ผ

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
ประเพณีการแห่ผ้าผืนยาวขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรวิหารของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงถือปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายชั่วคน ด้วยความเชื่อที่ว่าการห่มผ้ารอบองค์พระบรมธาตุ เปรียบกับได้การบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เดิมทีชาวนครศรีธรรมราชจะร่วมกันบริจาคเงินทองเพื่อซื้อผ้ามาเย็บเป็นผ้าผืนยาวเพื่อห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวนครศรีธรรมราชที่มีต่อพระบรมธาตุเจดีย์ที่เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจ

สำหรับกำหนดการแห่ผ้าขึ้นธาตุ จัดขึ้นปีละ ๒ ครั้ง คือ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน๓ ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา และวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันวิสาขบูชา

โดยจะมีการเตรียมผ้าสำหรับห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ในอดีตผ้าที่ใช้ห่มจะเรียกว่าผ้าพระบฎ ซึ่งเป็นผ้าที่มีการเขียนเรื่องราวพุทธประวัติเอาไว้อย่างสวยงาม แต่ปัจจุบันการทำผ้าพระบฎนั้นหาคนทำยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จึงมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ผ้าขาว ผ้าย้อมฝาด ผ้าแดง แทน ส่วนขนาดของผ้านั้นก็ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน

พิธีการแห่ผืนห่มธาตุ ในสมัยก่อนเจ้าผู้ครองนครและทายาทจะเป็นผู้ทำหน้าที่แห่ โดยจะมีการจัดเตรียมอาหารคาวหวาน เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จัดรูปขบวนสวยงามหาบคอนไปถวายพระภิกษุสงฆ์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร มีนำกล่าวคำถวายผ้าพระบฎก่อน จากนั้นก็จะแห่ทักษิณาวัตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ๓ รอบ แล้วนำผ้าเข้าสู่วิหารพระทางม้า นำผ้าพระบฎขึ้นโอบรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์





แต่เนื่องจากปัจจุบันพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาในการแห่ผ้าขึ้นธาตุมาจากหลากหลายที่ ทำให้พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเกิดขึ้นไม่พร้อมเพรียงกัน เพื่อความสะดวกจึงมีการแห่ผ้าตามสะดวกไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นพิธีเดียวกัน และปัจจุบันคงเหลือแต่พิธีการแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเท่านั้น ส่วนขบวนแห่ต่างๆ ได้งดเว้นไปแล้ว และการห่มผ้าอนุญาตให้ส่งตัวแทนขึ้นไป ๓-๔ คนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางวัดเท่านั้น




ประเพณีการแห่ผ้าขึ้นธาตุสืบเนื่องมาจากสมัยพญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุทำพิธีวิสาขะสมโภชพระบรมธาตุหลังบูรณะ มีตำนาเล่าขานกันว่า ก่อนเริ่มพิธีสมโภชไม่กี่วัน คลื่นทะเลได้ซัดผ้าแถบผืนหนึ่งขึ้นฝั่งมา บนผ้ามีลายเขียนเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติ ซึ่งเรียกกันว่าผ้าพระบฎ พญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุจึงประกาศหาเจ้าของ จนพบว่าผ้าผืนดังกล่าวเป็นของชาวเมืองอินทรปัตรซึ่งอยู่แถวลุ่มแม่น้ำโขงฝั่งเขมร นำลงเรือหวังจะไปบูชาพระทันตธาตุ พระเขี้ยวแก้วที่ลังกา แต่เรือโดนมรสุมแตกลงที่หน้าเมืองนครศรีธรรมราช หัวหน้าคณะได้จมน้ำเสียชีวิตไปก่อนเหลือแต่ลูกเรือรอดขึ้นฝั่งมาได้ พญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุจึงมีดำริให้มีขบวนแห่ผ้าพระบฎผืนนั้น ขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุ และอุทิศกุศลผลบุญให้แก่หัวหน้าคณะในคราวเดียวกัน

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวนครศรีธรรมราชจึงจัดให้มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นประจำทุกปีที่จะต้องปฏิบัติสืบทอดจนกลายเป็นพิธีกรรมสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุประเพณีการแห่ผ้าผืนยาวขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรวิหารของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงถือปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายชั่วคนด้วยความเชื่อที่ว่าการห่มผ้ารอบองค์พระบรมธาตุเปรียบกับได้การบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเดิมทีชาวนครศรีธรรมราชจะร่วมกันบริจาคเงินทองเพื่อซื้อผ้ามาเย็บเป็นผ้าผืนยาวเพื่อห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวนครศรีธรรมราชที่มีต่อพระบรมธาตุเจดีย์ที่เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับกำหนดการแห่ผ้าขึ้นธาตุจัดขึ้นปีละ ๒ ครั้งคือวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน๓ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาและวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ หรือวันวิสาขบูชาโดยจะมีการเตรียมผ้าสำหรับห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในอดีตผ้าที่ใช้ห่มจะเรียกว่าผ้าพระบฎซึ่งเป็นผ้าที่มีการเขียนเรื่องราวพุทธประวัติเอาไว้อย่างสวยงามแต่ปัจจุบันการทำผ้าพระบฎนั้นหาคนทำยากและมีค่าใช้จ่ายสูงจึงมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ผ้าขาวผ้าย้อมฝาดผ้าแดงแทนส่วนขนาดของผ้านั้นก็ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคนพิธีการแห่ผืนห่มธาตุในสมัยก่อนเจ้าผู้ครองนครและทายาทจะเป็นผู้ทำหน้าที่แห่โดยจะมีการจัดเตรียมอาหารคาวหวานเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจัดรูปขบวนสวยงามหาบคอนไปถวายพระภิกษุสงฆ์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารมีนำกล่าวคำถวายผ้าพระบฎก่อนจากนั้นก็จะแห่ทักษิณาวัตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ๓ รอบแล้วนำผ้าเข้าสู่วิหารพระทางม้านำผ้าพระบฎขึ้นโอบรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์คนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางวัดเท่านั้นแต่เนื่องจากปัจจุบันพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาในการแห่ผ้าขึ้นธาตุมาจากหลากหลายที่ทำให้พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเกิดขึ้นไม่พร้อมเพรียงกันเพื่อความสะดวกจึงมีการแห่ผ้าตามสะดวกไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นพิธีเดียวกันและปัจจุบันคงเหลือแต่พิธีการแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเท่านั้นส่วนขบวนแห่ต่าง ๆ ได้งดเว้นไปแล้วและการห่มผ้าอนุญาตให้ส่งตัวแทนขึ้นไป ๓ - ๔ประเพณีการแห่ผ้าขึ้นธาตุสืบเนื่องมาจากสมัยพญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุทำพิธีวิสาขะสมโภชพระบรมธาตุหลังบูรณะมีตำนาเล่าขานกันว่าก่อนเริ่มพิธีสมโภชไม่กี่วันคลื่นทะเลได้ซัดผ้าแถบผืนหนึ่งขึ้นฝั่งมาบนผ้ามีลายเขียนเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติซึ่งเรียกกันว่าผ้าพระบฎพญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุจึงประกาศหาเจ้าของจนพบว่าผ้าผืนดังกล่าวเป็นของชาวเมืองอินทรปัตรซึ่งอยู่แถวลุ่มแม่น้ำโขงฝั่งเขมรนำลงเรือหวังจะไปบูชาพระทันตธาตุพระเขี้ยวแก้วที่ลังกาแต่เรือโดนมรสุมแตกลงที่หน้าเมืองนครศรีธรรมราชหัวหน้าคณะได้จมน้ำเสียชีวิตไปก่อนเหลือแต่ลูกเรือรอดขึ้นฝั่งมาได้พญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุจึงมีดำริให้มีขบวนแห่ผ้าพระบฎผืนนั้นขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุและอุทิศกุศลผลบุญให้แก่หัวหน้าคณะในคราวเดียวกันนับแต่นั้นเป็นต้นมาชาวนครศรีธรรมราชจึงจัดให้มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นประจำทุกปีที่จะต้องปฏิบัติสืบทอดจนกลายเป็นพิธีกรรมสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
ประเพณีหัวเรื่อง: การแห่ผ้าผืนยาวขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์วัดที่คุณพระมหาธาตุวรวิหารของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช บริษัท เป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราช บริษัท และจังหวัดใกล้เคียงถือปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายชั่วของคุณคนด้วยความสามารถเชื่อที่ว่าการห่มผ้ารอบ องค์พระบรมธาตุเปรียบกับได้การบูชา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเดิมทีชาวนครศรีธรรมราชจะร่วมกันบริจาคเงินทองเพื่อซื้อผ้ามาเย็บเป็นผ้าผืนยาวเพื่อห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวนครศรีธรรมราชที่มีต่อพระบรม ธาตุเจดีย์ที่เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจ

สำหรับกำหนดการแห่ผ้าขึ้นธาตุจัดขึ้นปีคุณละ 2 ครั้งคือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาและวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 หรือการธนาคารวันวิสาขบูชา

โดยจะมีหัวเรื่อง: การเตรียมผ้าสำหรับห่มองค์พระบรม ธาตุเจดีย์ในอดีตผ้าที่ใช้ห่มจะ เรียกว่าผ้าพระบฎซึ่งเป็นผ้าที่มีการเขียนเรื่องราวพุทธประวัติเอาไว้อย่างสวยงาม แต่ปัจจุบันการทำผ้าพระบฎนั้นหาคนทำยากและมีค่าใช้จ่ายสูงจึงมีการ ปรับเปลี่ยนมาใช้ผ้าขาวตั้งผ้าย้อมฝาดผ้าแดงแทนส่วนขนาดของผ้านั้นก็ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละของคุณคน

พิธีการแห่ผืนห่มธาตุในห้างหุ้นส่วนจำกัดสมัยก่อนเจ้าคุณผู้ครองนครและทายาทจะเป็นคุณผู้ทำหน้าที่แห่โดยจะมีหัวเรื่อง: การจัดเตรียมอาหารคาว หวานเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจัดรูป ขบวนสวยงามหาบคอนไปถวายพระภิกษุสงฆ์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารมีนำกล่าวคำถวายผ้าพระบฎก่อนจากนั้นก็จะแห่ทักษิณาวัตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ 3 รอบแล้วนำผ้าเข้า สู่วิหารที่คุณพระทางม้านำผ้าที่คุณพระบฎขึ้นโอบรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์





แต่เนื่องจากปัจจุบันพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การแห่ผ้าขึ้นธาตุมาจากเนชั่หลากหลายที่ทำให้พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเกิดขึ้นไม่พร้อมเพรียงกันเพื่อความสามารถสะดวกจึงมีหัวเรื่อง: การแห่ ผ้าตามสะดวกไม่จำเป็นต้องรอให้ เป็นพิธีเดียวกันและปัจจุบันคงเหลือ แต่พิธีการแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเท่านั้นส่วนขบวนแห่ต่างๆได้งดเว้นไปแล้วและการห่มผ้าอนุญาตให้ส่งตัวแทนขึ้นไป 3-4 คนร่วมกับเจ้าหน้าที่ ของทางวัดเท่านั้น




ประเพณีหัวเรื่อง: การแห่ผ้าขึ้นธาตุสืบเนื่องมาจากเนชั่สมัยคุณพญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุทำพิธีวิสาขะสมโภชพระบรมธาตุหลังบูรณะมีตำนาเล่าขานกันว่าได้ก่อนเริ่มพิธีสมโภชไม่กี่การธนาคารวันคลื่นทะเลได้ ซัดผ้าแถบผืนหนึ่งขึ้นฝั่งมาบน ผ้ามีลายเขียนเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติซึ่งเรียกกันว่าผ้าพระบฎพญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุจึงประกาศหาเจ้าของจนพบว่าผ้าผืนดังกล่าวเป็นของชาวเมือง อินทรปัตรซึ่งอยู่แถวลุ่ม แม่น้ำโขงฝั่งเขมรนำลงเรือหวังจะไปบูชาพระทันตธาตุพระเขี้ยวแก้วที่ลังกา แต่เรือโดนมรสุมแตกลงที่หน้าเมืองนครศรีธรรมราชหัวหน้าคณะได้จมน้ำเสียชีวิตไปก่อนเหลือ แต่ลูกเรือรอดขึ้น ฝั่งมาได้คุณพญาศรีธรรมาโศกราชจันทรภานุจึงมีดำริให้มีขบวนแห่ผ้าที่คุณพระบฎผืนนั้นขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุและอุทิศกุศลผลคุณบุญให้แก่หัวหน้าคณะในห้างหุ้นส่วนจำกัดคราวเดียวกัน

นับ แต่นั้นเป็นต้นมาชาวนครศรีธรรมราช บริษัท จึงจัดให้มีประเพณีแห่ผ้าขึ้น ธาตุเป็นประจำทุกปีที่จะต้องปฏิบัติสืบทอดจนกลายเป็นพิธีกรรมสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุประเพณีการแห่ผ้าผืนยาวขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรวิหารของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงถือปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายชั่วคนด้วยความเชื่อที่ว่าการห่มผ้ารอบองค์พระบรมธาตุเปรียบกับได้การบ ูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเดิมทีชาวนครศรีธรรมราชจะร่วมกันบริจาคเงินทองเพื่อซื้อผ้ามาเย็บเป็นผ้าผืนยาวเพื่อห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวนครศรีธรรมราชที่มีต่อพระบรมธาตุเจดีย์ที่เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับกำหนดการแห่ผ้าขึ้นธาตุจัดขึ้นปีละ๒ครั้งความวันขึ้น๑๕ค่ำเดือน๓ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาและวันขึ้น๑๕ค่ำเดือนจากหรือวันวิสาขบูชาโดยจะมีการเตรียมผ้าสำหรับห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในอดีตผ้าที่ใช้ห่มจะเรียกว่าผ้าพระบฎซึ่งเป็นผ้าที่มีการเขียนเรื่องราวพุทธประวัติเอาไว้อย่างสวยงามแต่ปัจจุบันการทำผ้าพระบฎนั้นหาคนทำยากและมีค่าใช้จ่ายสูงจึงมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ผ้าขาวผ้าย้อมฝาดผ้าแดงคุน ทนส่วนขนาดของผ้านั้นก็ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคนพิธีการแห่ผืนห่มธาตุในสมัยก่อนเจ้าผู้ครองนครและทายาทจะเป็นผู้ทำหน้าที่แห่โดยจะมีการจัดเตรียมอาหารคาวหวานเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจัดรูปขบวนสวยงามหาบคอนไปถวายพระภิกษุสงฆ์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารมีนำกล่าวคำถวายผ้าพระบฎก่อนจากนั้นก็จะแห่ทักษิณาวั ตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ a research note แล้วนำผ้าเข้าสู่วิหารพระทางม้านำผ้าพระบฎขึ้นโอบรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์กันแต่เนื่องจากปัจจุบันพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาในการแห่ผ้าขึ้นธาตุมาจากหลากหลายที่ทำให้พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเกิดขึ้นไม่พร้อมเพรียงกันเพื่อความสะดวกจึงมีการแห่ผ้าตามสะดวกไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นพิธีเดียวกันและปัจจุบันคงเหลือแต่พิธีการแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาต ุเท่านั้นส่วนขบวนแห่ต่างๆได้งดเว้นไปแล้วและการห่มผ้าอนุญาตให้ส่งตัวแทนขึ้นไป - คนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางวัดเท่านั้นโตเกียวกันประเพ