The study was designed in line with

The study was designed in line with the consolidated standards of reporting trials (CONSORT) guidelines (Schulz, Altman, & Moher, 2010). This investigation conforms to the principles outlined in the Declaration of Helsinki, was approved by the research ethics committee of the University of Navarra (080/2009), and each participant gave written informed consent to the study.

The regular consumption of the high-lycopene tomato sauce induced a significant reduction in the oxidized-LDL cholesterol levels (−9.27 ± 16.8%; p < 0.05). Moreover, total plasma antioxidant capacity tended to increase with the high-lycopene tomato sauce, while it decreased slightly with commercial tomato sauce consumption (2.69 ± 13.4 vs −0.05 ± 0.4; p = 0.058). Lipid, glucose profile and C-reactive protein concentrations were stable during both intervention periods, as well as anthropometric and body composition variables.

Thus, the daily consumption of 160 g of a high-lycopene tomato sauce improved oxidized-LDL cholesterol levels, evidencing the putative role of lycopene in combination with other bioactive compounds in the prevention of oxidative stress related diseases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ออกแบบมาตามมาตรฐานรวมของรายงานการทดลอง (มเหสี) แนวทางการศึกษา (Schulz, Altman & Moher, 2010) นี้สอดคล้องกับหลักการที่ระบุไว้ในปฏิญญาเฮลซิงกิ ได้รับการอนุมัติ โดยการให้คณะกรรมการจรรยาบรรณมหาวิทยาลัยของนาบาร์รา (080 2009), และแต่ละผู้เข้าร่วมวิจัยเขียนแจ้งความยินยอมในการศึกษา

ปกติใช้ซอสมะเขือเทศ lycopene สูงทำให้เกิดการลดระดับไขมัน LDL ออกซิไดซ์ (−9.27 ± 16.8%; p < 0.05) อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ พลาสมารวมหม่อนมีแนวโน้มเพิ่มซอสมะเขือเทศ lycopene สูง ในขณะที่มันลดลงเล็กน้อยกับการบริโภคซอสมะเขือเทศพาณิชย์ (2.69 ± 13.4 เทียบกับ −0.05 ± 0.4; p = 0.058) ระดับไขมันในเลือด น้ำตาลในโปรไฟล์และความเข้มข้น C – reactive โปรตีนได้มั่นคงระหว่างการขัดจังหวะโดยรอบ เช่น anthropometric เป็นทั้งตัวแปรองค์ประกอบร่างกายด้วย

ดังนั้น การบริโภคประจำวัน 160 กรัมของซอสมะเขือเทศมี lycopene สูงขึ้นระดับที่ออกซิไดซ์ LDL ไขมัน ขอบทบาท putative ของ lycopene ร่วมกับสารอื่น ๆ กรรมการกป้องกัน oxidative เครียดที่เกี่ยวข้องกับโรค.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานการรวมของการทดลองการรายงาน (CONSORT) แนวทาง (ชัลส์, อัลท์แมนและ Moher, 2010) การสืบสวนคดีนี้เป็นไปตามหลักการที่ระบุไว้ในปฏิญญาเฮลซิงกิได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของมหาวิทยาลัย Navarra (080/2009) และผู้เข้าร่วมแต่ละให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากการศึกษาการบริโภคปกติของไลโคปีนสูง ซอสมะเขือเทศที่เกิดจากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระดับคอเลสเตอรอลออกซิไดซ์-LDL (-9.27 ± 16.8%; p <0.05) นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระในเลือดมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นด้วยซอสมะเขือเทศไฮไลโคปีนในขณะที่มันลดลงเล็กน้อยกับการค้าการบริโภคซอสมะเขือเทศ (2.69 ± 13.4 เทียบกับ -0.05 ± 0.4; p = 0.058) ไขมันรายกลูโคสและความเข้มข้นของ C-reactive protein มีเสถียรภาพในช่วงระยะเวลาการแทรกแซงทั้งสองรวมทั้งสัดส่วนและองค์ประกอบร่างกายตัวแปรดังนั้นการบริโภคประจำวันของ 160 กรัมของซอสมะเขือเทศไลโคปีนสูงขึ้นระดับคอเลสเตอรอลออกซิไดซ์-LDL, หลักฐาน บทบาทสมมุติของไลโคปีนร่วมกับสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ ในการป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียดออกซิเดชัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานของบริษัทรายงานการทดลอง ( สนม ) แนวทาง ( ชูลซ์ , อัลท์แมน & moher , 2010 ) การสืบสวนนี้สอดคล้องกับหลักการที่ระบุไว้ในปฏิญญาเฮลซิงกิได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของมหาวิทยาลัย Navarra ( 080 / 2009 ) , และผู้เขียนแต่ละให้ความยินยอมกับการศึกษา .

การบริโภคปกติของไลโคปีนในซอสมะเขือเทศและสูงลดลงอย่างมีนัยสำคัญในการออกซิไดซ์ LDL ระดับคอเลสเตอรอล ( − 9.27 ± 16.8 % ; p < 0.05 ) นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระความจุรวมพลาสมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกับระดับไลโคปีนในซอสมะเขือเทศ ในขณะที่มันลดลงเล็กน้อยกับการบริโภคซอสมะเขือเทศพาณิชย์ ( 2.69 ± 13.4 vs − 05 ± 0.4 ; P = 0.058 ) ไขมันโปรไฟล์ของกลูโคสและความเข้มข้นโปรตีน C-reactive มีเสถียรภาพตลอดช่วงระยะเวลากิจกรรม ตลอดจนสัดส่วนของร่างกายตัวแปรองค์ประกอบ

ดังนั้นการบริโภคประจำวันของ 160 กรัมของไลโคปีนสูงซอสมะเขือเทศปรับปรุงระดับคอเลสเตอรอลออกซิไดซ์ ,evidencing บทบาทการแสดงออกของไลโคปีนในการรวมกันกับสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในการป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียดออกซิเดชัน .