Shark fins contain high levels of a

Shark fins contain high levels of a potent neurotoxin that scientists have linked to neurodegenerative diseases like Alzheimer and Parkinson.

The study was the first to find the toxin, BMAA, or Beta-methylamino-L-alanine, in sharks, a researcher at the University of Miami. Previous research by the same group found significant quantities of the substance in several varieties of fish, crustaceans and shellfish on the Florida coast.

The study provides another reason not to eat shark fins or shark fin soup, an expensive delicacy prized in Asia for its taste and supposed health benefits. Growing demand for the product drives a global hunt that kills an estimated 73 million sharks a year; the animals are often brutally definned and tossed back into the water to slowly die.

Several species are on the brink of extinction, and the loss of so many sharks spells trouble for marine ecosystems.

The trade continues despite growing evidence of its health risks and the negative environmental impacts as well as legislation against the practice. Four states — Hawaii, California, Oregon and Washington — have banned the trade and possession of shark fins, and a bill introduced last month to do the same in New York is working its way through the state Legislature.

“Everybody would be happy if this study has some impact on conservation,” Paul A. Cox, a researcher with the Institute for EthnoMedicine in Jackson Hole, Wyo., who was not involved in the study, said in an interview.

The researchers took tiny clippings from the fins of seven different species of sharks off the coast of south Florida before releasing the animals and then analyzed their tissues for the toxin. They found it present in high levels in each of the seven species tested, without any apparent link to the animal’s size, diet, age or habitat. Blacknose, bonnethead and hammerhead sharks contained the greatest concentrations.

BMAA is produced by virtually every known species of cyanobacteria, a ubiquitous algae-like microbe present in freshwater and saltwater worldwide.

The study suggests that the toxin can accumulate up the food chain, increasing in concentration as one animal eats another.

That is worrisome because sharks, like humans, are apex predators, and if BMAA can accumulate in shark tissues, the same could possibly happen in humans. “We could be exposed to BMAA over our life span, and it could accumulate in our tissues as well,” Dr. Mash said. But exactly what foods contain BMAA — or what concentrations could cause problems — has not been thoroughly investigated.

A growing body of research suggests there may be a connection between exposure to the toxin and the development of neurodegenerative diseases like Alzheimer’s, Parkinson’s and Lou Gehrig’s disease, also known as amyotrophic lateral sclerosis, or A.L.S.

Working in Guam, Dr. Cox and the neurologist Oliver Sacks hypothesized that the toxin might be partly responsible for a mystifying degenerative disease amongst the Chamorro people called lytico-botig whose symptoms resemble those of other neurodegenerative diseases. The pair suggested that the disease could result from a heavy dose of BMAA related to dining on the Guam flying fox, or fruit bat, which has since been hunted to extinction.

Tests showed that these animals biomagnified BMAA from the cycad seeds upon which they subsisted; the seeds get it from symbiotic cyanobacteria in the plant’s roots.

More recent research has found high levels of BMAA in the brains of some people who died from Alzheimer’s and Parkinson’s, but not in the brains of other people with similar backgrounds and physiology who died from other conditions, said Douglas C. Lobner, a Marquette University researcher who was not involved in the study. These concentrations are similar to those seen in the Guam fruit bat — and now, in shark fins.

The toxin has been shown to incorporate itself into brain proteins in animal studies, causing protein tangles like those seen in neurodegenerative conditions, Dr. Mash said.

Dr. Lobner said BMAA also acts synergistically with other neurotoxins like mercury; research has shown that when sublethal amounts of the two are combined, they become exponentially more deadly. That is of particular concern because shark fins are often contaminated with mercury and other heavy metals.

Dr. Cox has found BMAA in other foods, including a type of Peruvian soup and a species of fish in Japan. In each case — as with the Guam bats and shark fin soup — people generally describe the taste as delicious and are willing to pay a lot to obtain it. This may be because the toxin binds to glutamate receptors, possibly like those found in “umami” taste buds, said Dr. Cox and his colleague, Sandra Banack.

Dr. Cox emphasized that this remains a hypothesis, however, as does the link between BMAA and neurodegenerative conditions. But that does not mean it is necessarily smart to dine on shark.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปลาฉลามครีบมีระดับสูงของ neurotoxin ที่มีศักยภาพที่นักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงกับการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทเช่นสมองเสื่อมและ Parkinson.

การศึกษาเป็นครั้งแรกเพื่อหาสารพิษ, BMAA หรือ beta-Methylamino-L-อะลานีนในปลาฉลามนักวิจัย ที่มหาวิทยาลัยไมอามี งานวิจัยก่อนหน้านี้กลุ่มเดียวกันที่พบในปริมาณที่มีนัยสำคัญของสารหลายชนิดของปลากุ้งและหอยบนชายฝั่งฟลอริดา.

การศึกษาให้เหตุผลที่จะไม่กินปลาฉลามครีบหรือซุปหูฉลาม, อาหารอันโอชะของแพงแพงในเอเชียรสชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพควรอีก ความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ไดรฟ์ล่าทั่วโลกที่เสียชีวิตประมาณ 73 ล้านปีฉลาม; สัตว์มักจะ definned อย่างไร้ความปราณีและโยนกลับลงไปในน้ำค่อย ๆ ตาย

.หลายชนิดที่อยู่ในปากของการสูญเสียและการสูญเสียของปลาฉลามจำนวนมากดังนั้นคาถาปัญหาสำหรับระบบนิเวศทางทะเล.

การค้าอย่างต่อเนื่องแม้จะมีหลักฐานที่เพิ่มขึ้นของความเสี่ยงต่อสุขภาพและผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับการออกกฎหมายต่อต้านการปฏิบัติ สี่รัฐ - ฮาวายแคลิฟอร์เนียโอเรกอนและวอชิงตัน - ได้ห้ามการค้าและความครอบครองของปลาฉลามครีบ,และการเรียกเก็บเงินนำเดือนที่ผ่านมาเพื่อทำแบบเดียวกันในนิวยอร์กคือการทำงานทางผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ.

"ทุกคนจะมีความสุขถ้าการศึกษาครั้งนี้มีผลกระทบต่อการอนุรักษ์บางอย่าง" พอล ค็อกซ์กับนักวิจัยสถาบันสำหรับ ethnomedicine ใน Jackson Hole, Wyo. ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกษากล่าวในการสัมภาษณ์.

นักวิจัยเอาเศษเล็ก ๆ จากครีบของเจ็ดชนิดแตกต่างกันของปลาฉลามนอกชายฝั่งของฟลอริดาตอนใต้ก่อนที่จะปล่อยสัตว์แล้ววิเคราะห์เนื้อเยื่อของพวกเขาสำหรับสารพิษ พวกเขาพบว่ามันมีอยู่ในระดับสูงในแต่ละเจ็ดชนิดผ่านการทดสอบโดยไม่มีการเชื่อมโยงที่ชัดเจนใด ๆ ขนาดของสัตว์ที่ได้รับอาหารอายุหรือที่อยู่อาศัย blacknose,ฉลามหัวค้อน bonnethead และมีความเข้มข้นมากที่สุด.

BMAA ผลิตโดยแทบทุกชนิดที่เป็นที่รู้จักของไซยาโนแบคทีเรีย, แพร่หลายในปัจจุบันจุลินทรีย์สาหร่ายเหมือนในน้ำจืดและน้ำเค็มทั่วโลก.

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารพิษสามารถสะสมขึ้นห่วงโซ่อาหาร การเพิ่มความเข้มข้นเป็นหนึ่งในสัตว์กินอีก.

ที่น่าเป็นห่วงเพราะฉลามเหมือนมนุษย์,เป็นยอดล่าและถ้า BMAA สามารถสะสมในเนื้อเยื่อปลาฉลามเดียวกันอาจจะเกิดขึ้นในมนุษย์ "เราจะได้สัมผัสกับ BMAA ในช่วงชีวิตของเราและมันอาจสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของเราเป็นอย่างดี" ดร. ยีกล่าวว่า แต่สิ่งที่อาหารที่มี BMAA - หรือสิ่งเข้มข้นอาจทำให้เกิดปัญหา -. ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด

ร่างกายเจริญเติบโตของการวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาจจะมีการเชื่อมต่อระหว่างการสัมผัสกับสารพิษและการพัฒนาของโรคเกี่ยวกับระบบประสาทเช่นอัลไซเมพาร์กินสันและโรคของหลี่ไป๋รู้จักกันเป็นเส้นโลหิตตีบด้านข้าง amyotrophic หรือ als

ทำงานในกวม ดร.คอคส์และโอลิเวอร์กระสอบนักประสาทวิทยาตั้งสมมติฐานว่าสารพิษอาจจะมีส่วนรับผิดชอบต่อการเป็นโรคความเสื่อมลึกลับในหมู่คนที่เรียกว่าชามอร์โร lytico-botig ที่มีอาการคล้ายกับบรรดาของโรคเกี่ยวกับระบบประสาทอื่น ๆ ทั้งคู่บอกว่าเป็นโรคที่อาจเป็นผลมาจากปริมาณหนักของ BMAA ที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารบนเกาะกวม Flying Fox หรือค้างคาวผลไม้. ซึ่งได้รับการตั้งแต่ล่าจะสูญพันธุ์
ทดสอบ
แสดงให้เห็นว่าสัตว์เหล่านี้ biomagnified BMAA จากเมล็ดปรงซึ่งพวกเขา subsisted. เมล็ดพันธุ์ได้รับจากชีวภาพไซยาโนแบคทีเรียในรากของพืช

การวิจัยล่าสุดพบว่ามีระดับสูงของ BMAA ใน สมองของบางคนที่เสียชีวิตจากการเสื่อมและพาร์กินสัน,แต่ไม่ได้อยู่ในสมองของคนอื่นที่มีภูมิหลังที่คล้ายกันและสรีรวิทยาของผู้ที่เสียชีวิตจากเงื่อนไขอื่น ๆ , ดักลาสคกล่าวว่า lobner นักวิจัยมหาวิทยาลัยมาร์แค็ตที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกษา ความเข้มข้นเหล่านี้จะคล้ายกับที่พบในค้างคาวผลไม้กวม -. และตอนนี้ในปลาฉลามครีบ

พิษได้รับการแสดงที่จะนำตัวเองเข้าสู่สมองของโปรตีนในสัตว์ทดลองทำให้พันโปรตีนเช่นเดียวกับที่เห็นในสภาพที่ระบบประสาท ดร. ยีกล่าวว่า.

ดร lobner กล่าวว่า BMAA ยังทำหน้าที่ synergistically ด้วย neurotoxins อื่น ๆ เช่นปรอทการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อจำนวน sublethal ของทั้งสองจะรวมกันพวกเขากลายเป็นทวีคูณมากขึ้นร้ายแรง ที่เป็นกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะปลาฉลามครีบมีการปนเปื้อนมักจะมีสารปรอทและโลหะหนักอื่น ๆ .

ดรค็อกซ์ได้พบ BMAA ในอาหารอื่น ๆ รวมทั้งชนิดของน้ำซุปเปรูและสายพันธุ์ของปลาในญี่ปุ่น ในแต่ละกรณี - เช่นเดียวกับค้างคาวและเกาะกวมซุปหูฉลาม - คนทั่วไปอธิบายว่าเ​​ป็นรสชาติอร่อยและยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวนมากที่จะได้รับมัน นี้อาจเป็นเพราะสารพิษที่ผูกกับผงชูรสผู้รับอาจจะเช่นเดียวกับที่พบใน "รส" รส ดร. กล่าวว่า ค็อกซ์และเพื่อนร่วมงานของเขาsandra banack.

ดร คอคส์ย้ำว่านี้ยังคงสมมติฐานอย่างไรก็ตามในขณะที่การเชื่อมโยงระหว่าง BMAA และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบประสาทไม่ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสมาร์ทจำเป็นต้องรับประทานอาหารบนปลาฉลาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฉลามครีบประกอบด้วย neurotoxin มีศักยภาพที่นักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงกับโรค neurodegenerative เช่นไซเมอร์และพาร์กิน ระดับสูง

การศึกษาคนแรกค้นหาพิษ BMAA หรืออะลาเบต้า-methylamino-L- นีน ฉลาม นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยไม งานวิจัยก่อนหน้านี้กลุ่มเดียวกันพบปริมาณของสารสำคัญในหลายพันธุ์ปลา ครัสเตเชียและหอยบนชายฝั่งฟลอริดา

การศึกษาให้เหตุผลอื่นไม่ให้กินฉลามครีบหรือหูฉลาม prized ในเอเชียสำหรับรสชาติของอาหารมีราคาแพง และควรสุขภาพ เติบโตอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ไดรฟ์ล่าทั่วโลกที่มีประมาณ 73 ล้านคนฆ่า sharks ปี สัตว์มักจรา definned และกลับลงไปในน้ำจะตายช้าลงเพราะด้วย

หลายชนิดจะสูญพันธุ์ และปัญหาการสูญเสียของ spells ฉลามมากในระบบนิเวศทางทะเล

การค้ายังคงมีอยู่แม้ มีการเติบโตของความเสี่ยงของสุขภาพ และการลบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนกฎหมายกับการปฏิบัติงาน อเมริกาสี่ — ฮาวาย แคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และวอชิงตันซึ่งได้ห้ามการค้าและความครอบครองของครีบปลาฉลาม และสูตรแนะนำเดือนที่แล้วทำเช่นเดียวกันในนิวยอร์กทำงานทางผ่านรัฐทูลเกล้าทูลกระหม่อม

"ทุกคนจะศึกษานี้มีผลกระทบบางอนุรักษ์สุข Paul A. Cox นักวิจัยกับสถาบัน EthnoMedicine ในรูแจ็คสัน Wyo. ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษา กล่าวว่า ในการสัมภาษณ์

นักวิจัยเอาปจากครีบฉลามเจ็ดต่างชนิดเล็ก ๆ นอกชายฝั่งของฟลอริด้าก่อนปล่อยสัตว์แล้ว วิเคราะห์เนื้อเยื่อสำหรับสารพิษ พวกเขาพบมันอยู่ในระดับสูงในแต่ละสายพันธุ์เจ็ดทดสอบ โดยไม่มีการเชื่อมโยงที่ชัดเจนของสัตว์ขนาด อาหาร อายุ หรืออยู่อาศัย Blacknose ประกอบด้วยปลาฉลาม bonnethead และฉลามหัวค้อนมากที่สุดความเข้มข้น

เสมือนรู้จักพันธุ์ cyanobacteria แพร่หลายเหมือนสาหร่าย microbe อยู่ในน้ำจืด และน้ำเค็มทั่วโลกผลิต BMAA.

การศึกษาชี้ให้เห็นว่า สารพิษที่สามารถสะสมค่าห่วงโซ่อาหาร เพิ่มความเข้มข้นเป็นหนึ่งสัตว์กินอีก

คือวิตกกว่า เพราะมนุษย์ชอบฉลาม เอเพ็กซ์ล่า และถ้า BMAA สามารถสะสมในเนื้อเยื่อปลาฉลาม เดียวกันอาจเกิดอาจขึ้นในมนุษย์ "เราไม่สามารถสัมผัสกับ BMAA ผ่านช่วงชีวิตของเรา และมันสามารถสะสมในเนื้อเยื่อของเราเช่น Mash ดร.กล่าวว่า แต่ว่าอาหารใดประกอบด้วย BMAA — หรือความเข้มข้นใดอาจทำให้เกิดปัญหาซึ่งได้ไม่ถูกต้องสอบสวน

ร่างกายเจริญเติบโตของวิจัยแนะนำมีอาจจะเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาของโรค neurodegenerative เช่นไซเมอร์ของ ของพาร์กินและโรค Lou Gehrig สัมผัสกับสารพิษยังเรียกว่า amyotrophic ด้านข้างเส้นโลหิตตีบ หรือ A.L.S.

Working ในกวม ดร. ค็อกซ์และ neurologist กระสอบโอลิเวอร์ตั้งสมมติฐานว่าที่สารพิษอาจมีบางส่วนชอบโรคเสื่อม mystifying ท่ามกลางชาว Chamorro เรียกอาการมีลักษณะของโรค neurodegenerative อื่น ๆ botig lytico คู่แนะนำว่า โรคอาจมีผลจากยาหนักของ BMAA ที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารในกวมจิ้งจอก หรือค้างคาวผลไม้ ล่าสัตว์หรือซึ่งมีตั้งแต่การค้าจะสูญพันธุ์

ทดสอบพบว่าเหล่านี้ biomagnified สัตว์ BMAA จากเมล็ดปรงซึ่งพวกเขา subsisted เมล็ดได้รับจาก cyanobacteria symbiotic ในรากของพืช

งานวิจัยล่าสุดพบระดับสูงของ BMAA ในสมองของคนบางคนที่เสียชีวิตจากของไซเมอร์และพาร์กินของ แต่ไม่อยู่ในสมองของคนอื่นด้วยเหมือนพื้นหลังและสรีรวิทยาที่เสียชีวิตจากสภาพอื่น ๆ Douglas C. Lobner นักวิจัยมหาวิทยาลัยมาร์แกตต์ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษากล่าวว่า ความเข้มข้นเหล่านี้จะคล้ายกับที่เห็นในค้างคาวผลไม้กวม — และตอนนี้ ในปลาฉลามครีบ

พิษได้รับการแสดงการรวมตัวเข้าสมองโปรตีนในสัตว์การศึกษา สาเหตุ tangles โปรตีนเหมือนกับเห็นสภาพ neurodegenerative ดร. Mash กล่าว

กล่าวว่า ดร. Lobner BMAA ยังกระทำเป็น ด้วย neurotoxins อื่น ๆ เช่นปรอท งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่า เมื่อรวมจำนวนสอง sublethal พวกเขาเป็นอันตรายมากขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อ ที่เป็นความกังวลโดยเฉพาะ เพราะฉลามครีบจะมักปนเปื้อนสารปรอทและโลหะหนักอื่น ๆ

Dr ค็อกซ์ได้พบ BMAA ในอาหารอื่น ๆ รวมทั้งชนิดของน้ำซุปที่เปรูและพันธุ์ปลาในญี่ปุ่น ในแต่ละกรณี — เช่นเดียวกับค้างคาวกวมและหูฉลามซึ่งคนโดยทั่วไปอธิบายรสชาติเป็นรสชาติอร่อยและจะยินดีมากที่จะขอรับชำระ อาจเนื่องมาจากพิษ binds ไป glutamate receptors อาจจะเหมือนกับพบใน "รสอูมามิ" รส กล่าวว่าดร.ค็อกซ์และเพื่อนร่วมงานของเขา Sandra Banack.

ดร. Cox ย้ำว่า นี้ยังคงเป็นสมมติฐาน อย่างไรก็ตาม เป็นไม่เชื่อมโยงระหว่าง BMAA และ neurodegenerative เงื่อนไข แต่ที่หมายถึง ไม่มีสมาร์ทจำเป็นให้กับปลาฉลาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Fins
ปลาฉลามมีระดับสูงของ neurotoxin ชั้นยอดที่ว่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงเข้ากับโรค neurodegenerative เหมือนและพาร์กินสัน.

การศึกษาก็เป็นคนแรกที่ได้พบกับสารพิษที่ bmaa หรือ Beta - methylamino - L - alanine ในปลาฉลามเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยของ Miami การวิจัยก่อนหน้านี้โดยกลุ่มเดียวกันกับที่พบในปริมาณมากอย่างมีนัยสำคัญของสารดังกล่าวนี้ในความหลากหลายของปลาหอยเชลล์และถูกฟ้องบนชายฝั่ง Florida .

การศึกษาที่จัดให้บริการด้วยเหตุผลอื่นไม่ได้ไปกินครีบปลาฉลามหรือซุปหูฉลามที่ร้านอาหารสำเร็จรูปมีราคาแพงจัดของรางวัลในเอเชียเพื่อประโยชน์ต่อ สุขภาพ และรสชาติของตนว่า ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับ ผลิตภัณฑ์ ที่ขับตามล่าระดับโลกที่ฆ่าคนโดยประมาณ 73 ล้านคนในปีที่ปลาฉลามสัตว์มักเป็น definned และพลิกไปพลิกมากลับเข้าไปในน้ำจะตายอย่างช้าๆอย่างโหดเหี้ยม.

มีหลายสายพันธุ์อยู่รอมร่อของการสูญพันธุ์และการสูญเสียของปลาฉลามจำนวนมากดังนั้นทางประสบปัญหาสำหรับระบบนิเวศทางทะเล.

การค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีหลักฐานของความเสี่ยงต่อ สุขภาพ ของตนและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านลบและกฎหมายต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ สี่รัฐ - ฮาวาย California ออริกอนและวอชิงตัน - มีประกาศห้ามครอบครองและการค้าของครีบปลาฉลามเป็นหนึ่งในผู้นำและร่างพระราชบัญญัติเดือนสุดท้ายที่จะทำอย่างเดียวกันใน New York คือการทำงานของทางผ่าน สภานิติบัญญัติ ของรัฐ.

"ทุกคนจะมีความสุขถ้าการศึกษานี้ได้ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์" Paul ' s . A . Cox เป็นนักวิจัยที่มีสถาบันที่สำหรับ ethnomedicine ใน Jackson Hole wyo. ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับในการศึกษาที่พูดในการให้ สัมภาษณ์ .

นักวิจัยได้นำคลิปขนาดเล็กจากครีบของเจ็ดสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปของปลาฉลามซึ่งอยู่ถัดจากชายฝั่งของพื้นที่ตอนใต้ของ Florida ก่อนปล่อยสัตว์และจากนั้นจึงทำการวิเคราะห์เนื้อเยื่อของพวกเขาสำหรับตรวจสอบสารพิษตกค้างได้ พวกเขาพบว่ามันมีอยู่ในระดับสูงที่อยู่ใน 7 สายพันธุ์ที่ได้รับการทดสอบแต่ละครั้งไม่มีลิงค์ปรากฏในขนาดของสัตว์ที่รับประทานอาหารอยู่หรืออายุ blacknoseปลาฉลามกินคนและปลาฉลามหัวค้อน bonnethead มีอยู่ที่สำคัญที่สุดความเข้มข้น.

bmaa มีการผลิตโดยทุกสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงของ cyanobacteria ,ที่แพร่หลายโดยทั่วไปพืชทะเลจำพวกเห็ดรา - เหมือนสัตว์เล็กๆในน้ำจืดและน้ำเค็มทั่วโลก.

ที่การศึกษาเสนอว่าให้ตรวจสอบสารพิษตกค้างสามารถสะสมเพิ่มขึ้นห่วงโซ่อาหารที่เพิ่มขึ้นในการให้ความเอาใจใส่เป็นหนึ่งสัตว์กินอื่น.

ที่น่าเป็นห่วงเพราะเป็นปลาฉลาม,เหมือนมนุษย์,Apex International Hotel ซึ่งเป็นนักล่าเหยื่อและหาก bmaa สามารถสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อปลาฉลามเหมือนกันที่ไม่สามารถเกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์จะเป็นไปได้ "เราไม่สามารถได้รับการเปิดเผยถึง bmaa มากกว่าอายุของเราและไม่สามารถสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของเราเป็นอย่างดี"ดร.บดกล่าว แต่อย่างว่าอาหารมี bmaa - หรือว่าความเข้มข้นไม่สามารถทำให้เกิดปัญหา - ไม่มีการให้ทั่วถึงการสืบสวน.

การขยายตัวของการวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาจมีการเชื่อมต่อระหว่างการตรวจสอบสารพิษตกค้างและการพัฒนาของโรค neurodegenerative เหมือน' salzheimer ของพาร์กินสันและ Lou Lou gehrig โรคและยังเป็นที่รู้จักกันไปทางด้านข้างปลอกประสาทเสื่อมแข็ง amyotrophic หรืออ.ล. S .

ทำงานในกวมดร.เปลี่ยนเวรกันและไปยัง Oliver กระสอบผู้ชำนาญวิชาประสาทวิทยาที่ hypothesized ที่ตรวจสอบสารพิษตกค้างที่อาจจะมีบางส่วนต้องรับผิดชอบสำหรับความเสื่อมโรคสับสนในหมู่ประชาชน Chamorro ที่เรียกว่า lytico - botig ซึ่งมีอาการคล้ายกับโรคอื่นๆที่ neurodegenerative ทั้งคู่ที่แนะนำว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถเป็นผลจากปริมาณยาที่หนักของ bmaa ที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารบนกวมบินค้างคาวหรือสุนัขจิ้งจอกซึ่งได้รับการนับตั้งแต่ถูกล่าเพื่อการสูญพันธุ์.

การทดสอบการแสดงให้เห็นว่าสัตว์เหล่านี้ biomagnified bmaa จากเมล็ดพันธุ์ปรงซึ่งเขากล่าวต่อว่าจะขอปิดท้ายเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับจาก cyanobacteria symbiotic ในรากของพืชที่.

การวิจัยมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้มีพบระดับสูงของ bmaa ในสมองของคนบางคนที่เสียชีวิตจากสมองและ' sparkinsonแต่ไม่ใช่ในสมองของคนอื่นๆที่พร้อมด้วยฉากหลังความเหมือนและสรีรศาสตร์ที่เสียชีวิตจากเงื่อนไขอื่นๆพูดดักลาส C lobner Pere Marquette มหาวิทยาลัยเป็นนักวิจัยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการศึกษาที่ สาขาวิชาเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับผู้ที่ได้พบเห็นอยู่ค้างคาวกวม - และในตอนนี้ในครีบปลาฉลาม.

ตรวจสอบสารพิษตกค้างที่ได้รับการแสดงไว้ในการรวมตัวของมันเองเข้าไปในโปรตีนสมองในการศึกษาในสัตว์ซึ่งอาจทำให้โปรตีนเบาๆห้ามพันเหมือนที่เคยเห็นใน สภาพ neurodegenerative ดร.บดกล่าว.

ดร. lobner bmaa ยังกล่าวว่าการกระทำกับ neurotoxins อื่นๆเช่นสารปรอทมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อจำนวน sublethal ของทั้งสองที่คือการผสมผสานอย่างรวดเร็วซึ่งพวกเขาจะกลายเป็นอันตรายมากขึ้น ที่อยู่ในความสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากครีบปลาฉลามมีการปนเปื้อนด้วยสารปรอทและโลหะหนักอื่น.

ดร.บ่อยครั้งCox พบ bmaa ในอาหารอื่นๆรวมถึง ประเภท ของซุปแบบเปรูและสายพันธุ์ของปลาในประเทศญี่ปุ่น ในแต่ละกรณี - ตามด้วยซุปหูฉลามและค้างคาวกวม - ผู้คนโดยทั่วไปแล้วอธิบายถึงรสชาติที่อร่อยและยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวนมากที่จะได้รับมัน โรงแรมแห่งนี้อาจเป็นเพราะสารพิษที่เชื่อมโยงกับการกำจัดกระตุ้นเส้นประสาทรับความรู้สึกปวดอาจจะเป็นไปได้เหมือนกับที่พบใน" umami "สำหรับการลิ้มลองว่า"ดร. Cox และเพื่อนร่วมงานของเขาSandra banack .

ดร. Cox เน้นที่โรงแรมแห่งนี้ยังคงเป็นข้อสมมุติฐานที่ว่าไม่เชื่อมโยงระหว่าง bmaa และเงื่อนไข neurodegenerative แต่ที่ไม่ได้หมายความว่ามันมีความจำเป็นอย่างชาญฉลาดเพื่อการรับประทานอาหารบนปลาฉลาม