The SITA/IATA business case shows t

The SITA/IATA business case shows that the improvements in handling rates do not come at a great cost. RFID capabilities can be deployed for as little 0.1 per passenger on average while generating expected saving of more than 0.2 per passenger. With some big airlines and airports already introducing RFID technology, combined with the fact that it is compatible with existing barcode technology, adoption of RFID across all airports could provide a positive return for airlines, both in cost savings and passenger satisfaction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ ตา/IATA ธุรกิจกรณีแสดงว่า การปรับปรุงในการจัดการราคาไม่มาที่ต้นทุน ความสามารถของ RFID สามารถปรับใช้สำหรับเป็น 0.1 น้อยต่อผู้โดยสารเฉลี่ยขณะสร้างคาดประหยัดที่มากกว่า 0.2 ต่อผู้โดยสาร ใหญ่สายการบินและสนามบินที่แนะนำเทคโนโลยี RFID รวมกับความจริงที่ว่า มันเข้ากันได้กับเทคโนโลยีบาร์โค้ดที่มีอยู่ แล้วนำ RFID ทั่วสนามบินทุกแห่งสามารถให้ตอบแทนที่ดีสำหรับสายการบิน ทั้ง ในการประหยัดต้นทุนและความพึงพอใจของผู้โดยสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรณีธุรกิจซิต้า / IATA แสดงให้เห็นว่าการปรับปรุงอัตราการจัดการไม่ได้มาที่ค่าใช้จ่ายที่ดี ความสามารถในการ RFID สามารถใช้งานได้เป็นเพียง 0.1 ต่อผู้โดยสารเฉลี่ยในขณะที่สร้างคาดว่าประหยัดกว่า 0.2 ต่อผู้โดยสาร ด้วยสายการบินขนาดใหญ่บางและสนามบินแล้วแนะนำเทคโนโลยี RFID บวกกับความจริงที่ว่ามันเข้ากันได้กับเทคโนโลยีบาร์โค้ดที่มีอยู่, การยอมรับของ RFID ข้ามสนามบินทั้งหมดสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีสำหรับสายการบินทั้งในประหยัดค่าใช้จ่ายและความพึงพอใจของผู้โดยสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่สีดา / IATA กรณีธุรกิจที่แสดงการปรับปรุงในการจัดการราคาไม่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายมาก ความสามารถ - สามารถใช้เป็นเพียง 0.1 ต่อผู้โดยสารเฉลี่ยในขณะที่สร้างคาดว่าจะประหยัดกว่า 0.2 ต่อผู้โดยสาร กับบางสายการบินและสนามบินใหญ่แล้วแนะนำเทคโนโลยี RFID รวมกับความจริงที่ว่ามันเข้ากันได้กับเทคโนโลยีบาร์โค้ดที่มีอยู่ การใช้ RFID ในสนามบินสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีสำหรับสายการบินทั้งในการประหยัดต้นทุนและความพึงพอใจของผู้โดยสาร