Numbering scheme[edit]The numbering

Numbering scheme[edit]
The numbering scheme follows that of the International Numbering System (INS) as determined by the Codex Alimentarius committee,[6] though only a subset of the INS additives are approved for use in the European Union as food additives. E numbers are also encountered on food labelling in other jurisdictions, including the Cooperation Council for the Arab States of the Gulf, Australia, South Africa, New York City, New Zealand[7] and Israel. They are increasingly, though still rarely, found on North American packaging,[8] especially in Canada (Canada wide outside Quebec and the Maritimes) on imported European products.

Colloquial use[edit]
In some European countries, "E number" is sometimes used informally as a pejorative term for artificial food additives, and products may promote themselves as "free of E numbers". This is incorrect, because many components of natural foods have E numbers (and the number is a synonym for the chemical component), e.g. vitamin C (E300) and lycopene (E160d).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้] โครงร่างลำดับเลขโครงร่างลำดับเลขตามที่ของการนานาเลขระบบ (เติม) ตามที่กำหนด โดย Codex Alimentarius กรรมการ, [6] แต่เพียงชุดย่อยของสารเติมได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้ในสหภาพยุโรปเป็นวัตถุเจือปนอาหาร หมายเลข E มียังพบบนฉลากอาหารในประเทศอื่น ๆ รวมทั้งความร่วมมือสภารัฐอาหรับอ่าว ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ นิวยอร์ก นิวซีแลนด์ [7] และอิสราเอล พวกเขามีมากขึ้น แต่ยังไม่ค่อย พบในอเมริกาเหนือบรรจุภัณฑ์, [8] โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแคนาดา (แคนาดากว้างนอกควิเบกและใน Maritimes) ในผลิตภัณฑ์นำเข้ายุโรปใช้ภาษาพูด [แก้]บางประเทศในยุโรป "หมายเลข E" บางครั้งใช้เป็นเป็นคำ pejorative สำหรับวัตถุเจือปนอาหารประดิษฐ์ และผลิตภัณฑ์อาจส่งเสริมตัวเองเป็น "ตัวเลข E ฟรี" นี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากส่วนประกอบของอาหารธรรมชาติมากมายมีตัวเลข E (และจำนวน คำเหมือนสำหรับส่วนประกอบทางเคมี), เช่นวิตามิน C (้ E300) และไลโคปีน (E160d)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หมายเลขโครงการ [แก้ไข]
แบบแผนลำดับเลขที่ดังต่อไปนี้ของระบบเลขอินเตอร์เนชั่นแนล (INS) ตามที่กำหนดโดยคณะกรรมการ Codex Alimentarius [6] แม้เพียงส่วนหนึ่งของสารเติมแต่ง INS ได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้งานในสหภาพยุโรปเป็นวัตถุเจือปนอาหาร หมายเลข E จะพบยังอยู่ในการติดฉลากอาหารในเขตอำนาจศาลอื่น ๆ รวมทั้งสภาความร่วมมือรัฐอาหรับของอ่าว, ออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, นิวยอร์กซิตี้, นิวซีแลนด์ [7] และอิสราเอล พวกเขามีมากขึ้นแม้ว่าจะยังคงไม่ค่อยพบในบรรจุภัณฑ์อเมริกาเหนือ [8] โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแคนาดา (แคนาดากว้างนอกควิเบกและตี) เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของยุโรปที่นำเข้า. การใช้ภาษาพูด [แก้ไข] ในบางประเทศในยุโรปจำนวน "E" เป็นบางครั้ง ใช้เป็นทางการเป็นคำดูถูกวัตถุเจือปนอาหารเทียมและผลิตภัณฑ์อาจส่งเสริมตัวเองว่าเป็น "ฟรีของตัวเลข E" นี้ไม่ถูกต้องเพราะองค์ประกอบหลายอย่างของอาหารธรรมชาติที่มีหมายเลข E (และตัวเลขเป็นคำพ้องความหมายสำหรับองค์ประกอบทางเคมี) เช่นวิตามินซี (E300) และไลโคปีน (E160d)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หมายเลขโครงการ [ แก้ไข ]เลขชุดของนานาชาติตามระบบการนับ ( INS ) ตามที่กำหนดโดย Codex Alimentarius คณะกรรมการ [ 6 ] แม้เพียงบางส่วนของเอกสารวัตถุเจือปนได้รับการอนุมัติเพื่อใช้ในสหภาพยุโรปเป็นวัตถุเจือปนอาหาร และตัวเลขยังพบบนฉลากอาหารในเขตอำนาจศาลอื่น ได้แก่ คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ , ออสเตรเลีย , แอฟริกาใต้ , New York City , นิวซีแลนด์ [ 7 ] และอิสราเอล พวกเขามีมากขึ้น แต่ยังไม่ค่อยพบในบรรจุภัณฑ์อเมริกาเหนือ [ 8 ] โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคนาดา ( แคนาดากว้างนอกควิเบกและ maritimes ยุโรป ) ในการนำเข้าสินค้า[ แก้ไข ] การใช้ภาษาพูดในบางประเทศในยุโรป , " E หมายเลข " บางครั้งใช้อย่างไม่เป็นทางการเป็นระยะคำหยาบสำหรับวัตถุเจือปนอาหารเทียม และผลิตภัณฑ์อาจจะส่งเสริมตัวเองเป็น " ฟรี E ตัวเลข " นี้ไม่ถูกต้อง เพราะองค์ประกอบหลายอย่างของอาหารธรรมชาติมี e หมายเลขและหมายเลขเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับส่วนประกอบทางเคมี ) เช่น วิตามิน ซี ( e300 ) และไลโคปีน ( e160d )