A season is a division of the year,

A season is a division of the year, marked by changes in weather, ecology, and hours of daylight. Seasons result from the yearly revolution of the Earth around the Sun and the tilt of the Earth's axis relative to the plane of revolution.[1][2] In temperate and polar regions, the seasons are marked by changes in the intensity of sunlight that reaches the Earth's surface, variations of which may cause animals to go into hibernation or to migrate, and plants to be dormant.
During May, June, and July, the northern hemisphere is exposed to more direct sunlight because the hemisphere faces the sun. The same is true of the southern hemisphere in November, December, and January. It is the tilt of the Earth that causes the Sun to be higher in the sky during the summer months which increases the solar flux. However, due to seasonal lag, June, July, and August are the hottest months in the northern hemisphere and December, January, and February are the hottest months in the southern hemisphere.
In temperate and subpolar regions, four calendar-based seasons (with their adjectives) are generally recognized: spring (vernal), summer (estival), autumn (autumnal) and winter (hibernal). Ecologists often use a six-season model for temperate climate regions that includes pre-spring (prevernal) and late summer (serotinal) as distinct seasons along with the traditional four.
Hot regions have two or three seasons; the rainy (or wet, or monsoon) season and the dry season, and, in some tropical areas, a cool or mild season.
In some parts of the world, special "seasons" are loosely defined based on important events such as a hurricane season, tornado season, or a wildfire season.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฤดูกาลเป็นแผนกหนึ่งของปีที่ถูกทำเครื่องหมายโดยการเปลี่ยนแปลงในสภาพอากาศนิเวศวิทยาและเวลาของกลางวัน ฤดูกาลเป็นผลมาจากการปฏิวัติปีของโลกรอบดวงอาทิตย์และเอียงของโลกแกนเมื่อเทียบกับระนาบของการปฏิวัติ. [1] [2] ในเขตอบอุ่นและขั้วโลกฤดูกาลมีการทำเครื่องหมายโดยการเปลี่ยนแปลงในความเข้มของแสงแดดที่ ถึงพื้นผิวของโลกรูปแบบของที่อาจทำให้สัตว์ที่จะไปสู่​​โหมดประหยัดพลังงานหรือการโยกย้ายและพืชจะอยู่เฉยๆ.
ในระหว่างเดือนพฤษภาคม, มิถุนายนและเดือนกรกฎาคมซีกโลกเหนือที่มีการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงมากขึ้นเพราะซีกโลกเผชิญกับดวงอาทิตย์ เดียวกันเป็นจริงของซีกโลกใต้ในเดือนพฤศจิกายนธันวาคมและมกราคมมันเป็นเอียงของโลกที่ทำให้ดวงอาทิตย์จะสูงในท้องฟ้าในช่วงเดือนฤดูร้อนซึ่งจะเพิ่มการไหลของพลังงานแสงอาทิตย์ แต่เนื่องจากความล่าช้าตามฤดูกาลเดือนมิถุนายนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นเดือนที่ร้อนแรงที่สุดในซีกโลกเหนือและธันวาคมมกราคมและกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่ร้อนแรงที่สุดในซีกโลกใต้.
ในเขตอบอุ่นและ subpolar,สี่ฤดูกาลตามปฏิทิน (ที่มีคำคุณศัพท์ของพวกเขา) ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป: ฤดูใบไม้ผลิ (วัยรุ่น) ฤดูร้อน (estival) ฤดูใบไม้ร่วง (ฤดูใบไม้ร่วง) และฤดูหนาว (ในฤดูหนาว) ecologists มักจะใช้รูปแบบที่หกฤดูสำหรับภูมิภาคภูมิอากาศที่มีก่อนฤดูใบไม้ผลิ (prevernal) และช่วงปลายฤดูร้อน (serotinal) ฤดูกาลที่แตกต่างกันพร้อมกับแบบดั้งเดิมสี่
ภูมิภาคร้อนมีสองหรือสามฤดูกาล.ฝน (หรือเปียกหรือมรสุม) และฤดูแล้งและในพื้นที่เขตร้อนบางฤดูหนาวหรืออ่อน.
ในบางส่วนของโลก "ฤดูกาล" พิเศษที่กำหนดไว้อย่างหลวม ๆ ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่สำคัญเช่น ฤดูพายุเฮอริเคนฤดูพายุทอร์นาโดหรือฤดูไฟป่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฤดูกาลเป็นการแบ่งปี ทำเครื่องหมายตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ นิเวศวิทยา และเวลาตามฤดูกาล ฤดูกาลเกิดจากการปฏิวัติปีของโลกรอบดวงอาทิตย์และการเอียงของแกนโลกสัมพันธ์กับระนาบของการปฏิวัติ[1][2] ในภูมิภาคแจ่ม และโพลาร์ ซีซั่นมีเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงความเข้มของแสงอาทิตย์ที่มาถึงผิวโลก รูปแบบซึ่งอาจทำให้สัตว์ไปสู่โหมดไฮเบอร์เนต หรือ การโยกย้าย และพืชจะไม่ได้
ระหว่างพฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม ซีกโลกเหนือสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงมากขึ้นเนื่องจากซีกโลกหันหน้าดวงอาทิตย์ได้ เหมือนเป็นความจริงของซีกโลกใต้ ในเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม ความลาดเอียงของดินที่ทำให้ดวงอาทิตย์จะสูงในท้องฟ้าในช่วงฤดูร้อนซึ่งช่วยเพิ่มการไหลพลังงานแสงอาทิตย์ ได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความล่าช้าตามฤดูกาล เดือนมิถุนายน กรกฎาคม และเดือนสิงหาคมเป็นเดือนร้อนแรงที่สุดในซีกโลกเหนือ และเดือนธันวาคม มกราคม และเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนร้อนแรงที่สุดในร่ม
ในแจ่ม และ subpolar ภูมิภาค โดยทั่วไปจะรู้จักสี่ตามปฏิทินฤดู (มีคำคุณศัพท์ของพวกเขา): ฤดูใบไม้ผลิ (vernal), ฤดูร้อน (estival), ร่วง (autumnal) หนาว (hibernal) และการ Ecologists มักจะใช้แบบ 6 ฤดูกาลอุณหภูมิภูมิภาคที่มีก่อนสปริง (prevernal) และช่วงปลายฤดูร้อน (serotinal) เป็นฤดูกาลที่แตกต่างกับสี่แบบดั้งเดิม
ร้อนมีซีซั่นสอง หรือสาม ฤดูฝน (หรือเปียก หรือมรสุม) และแล้ง และ ในบางเขตร้อน ความเย็น หรืออ่อนฤดูกาล
ในบางส่วนของโลก พิเศษ "ฤดูกาล" ราคาซึ่งกำหนดตามเหตุการณ์สำคัญเช่นพายุเฮอริเคนฤดูกาล ฤดูกาลพายุทอร์นาโด หรือฤดูกาลไฟป่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฤดูกาลที่เป็นแผนกหนึ่งของปีที่ทำเครื่องหมายโดยการเปลี่ยนแปลงใน สภาพ อากาศและระบบนิเวศน์ชั่วโมงของเวลากลางวัน ฤดูกาลเป็นผลจากการปฏิวัติของบจ.ที่ดินที่อยู่โดยรอบดวงอาทิตย์และมุมเงยของแกนของโลกเมื่อเทียบกับเครื่องบินของการปฏิวัติ.[ 1 ],[ 2 ]ในเขตพื้นที่เมืองหนาวและแผน ภาพ รูปแบบทิศทางสัญญาณเสียงฤดูที่มีการทำเครื่องหมายโดยการเปลี่ยนแปลงในความเข้มของแสงของแสงอาทิตย์ที่มาถึงบนพื้นผิวของโลกความแตกต่างของซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดสัตว์เพื่อเข้าไปในตัวเลือกไฮเบอร์เนตหรือในการโอนย้ายและพันธุ์ไม้ให้สงบ.
ในระหว่างเดือน พฤษภาคม มิถุนายนและกรกฎาคมซีกโลกเหนือจะได้รับแสงแดดโดยตรงมากขึ้นเพราะซีกโลกที่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ เหมือนกับที่เป็นความจริงในซีกโลกใต้ระหว่างขั้วโลกใต้ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมมกราคมโรงแรมคือมุมเงยของโลกที่เป็นสาเหตุทำให้แสงแดดที่จะสูงขึ้นในท้องฟ้าในระหว่างช่วงเดือนของฤดูร้อนซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นไหลบ่าจากแสงอาทิตย์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเนื่องจากความล่าช้าตามฤดูกาล,มิถุนายน,กรกฎาคม,สิงหาคมและจะได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในเดือนธันวาคมและเดือนมกราคมซีกโลกเหนือและเดือน กุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในซีกโลกทางตอนใต้.
ในเขตพื้นที่เมืองหนาวและ subpolarสี่ฤดูปฏิทิน(พร้อมด้วยคำ)เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปแล้วฤดูใบไม้ผลิ(แห่งฤดูใบไม้ผลิ)ช่วงฤดูร้อน( estival )ในฤดูใบไม้ร่วง(ตามแบบฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว( hibernal ) นักนิเวศวิทยามักใช้รุ่น 6 ฤดูกาลที่สำหรับพื้นที่เมืองหนาวที่รวมถึงช่วงฤดูร้อนก่อนฤดูใบไม้ผลิ( prevernal )และปลาย( serotinal )เป็นฤดูที่แตกต่างกันไปตามแบบดั้งเดิมพร้อมด้วย 4 .เขตพื้นที่
แบบร้อนที่มีสองหรือสามฤดูฝน(หรือลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหรือที่เปียกน้ำ)ตามฤดูกาลและช่วงฤดูแล้งและในบางพื้นที่ตามแบบเขตร้อนเย็นหรือฤดูอ่อน.
ในบางแห่งของโลกที่พิเศษ"ฤดู"ที่ได้รับเป็นอิสระที่กำหนดบนพื้นฐานของเหตุการณ์สำคัญเช่นฤดูพายุเฮอริเคนที่ฤดูพายุทอร์นาโดที่หรือฤดูไฟป่าที่.