Agricultural development in lower-i

Agricultural development in lower-income countries and resulting increases in agricultural productivity are generally accompanied by a shift from extensive to more intensive types of land use. The objective of this paper is to analyze how pest and plant disease management among smallholder farmers has changed along with the process of land use intensification, the aim being to identify constraints as well as possible approaches to the use of more sustainable pest and plant disease control practices. Using survey data from 240 smallholder farms located in the upland areas of northern Thailand, we show that land use intensification is accompanied by a reduction in the use of traditional methods of pest management and an increase in the use of synthetic pesticides. While farms with a low level of land use intensity sprayed on average twice a year and used a total of 1.4 kg of active ingredients per ha, farms with a high level of land use intensity sprayed on average 16 times and used 22.0 kg/ha. They also used a greater number of different products and tended to mix them together. The intensity of pesticide use was particularly high for cash crops such as tomatoes, chilies and strawberries. Many farmers experienced health problems related to pesticide use because pesticides were not correctly handled. Greater investment is needed in the development of integrated pest management in the long-term, and health problems may be reduced in the short-term by raising awareness among farmers regarding the risks they are exposing themselves to, as well as by promoting good agricultural practices.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พัฒนาด้านการเกษตรในประเทศที่มีรายได้ต่ำกว่าและเพิ่มผลผลผลิตทางการเกษตรโดยทั่วไปเพิ่มเติมกะจากหลากหลายชนิดมากขึ้นเร่งรัดการใช้ที่ดิน วัตถุประสงค์ของเอกสารนี้คือการ วิเคราะห์วิธีจัดการโรคศัตรูพืชและพืชในหมู่เกษตรกรเกษตรกรได้เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับกระบวนการของแรงใช้ที่ดิน จุดมุ่งหมายที่จะระบุข้อจำกัดเป็นอย่างดีที่สุดใกล้กับการใช้โรคพืชและศัตรูพืชอย่างยั่งยืนมากขึ้นปฏิบัติควบคุม เราใช้แบบสำรวจข้อมูลจากฟาร์มเกษตรกร 240 แห่งพื้นที่ค่อยภาคเหนือ แสดงว่า ที่ดินใช้แรงตามมา ด้วยการลดการใช้วิธีแบบดั้งเดิมการจัดการศัตรูพืชและการเพิ่มขึ้นของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชสังเคราะห์ ฟาร์มที่มีระดับต่ำของที่ดินใช้ความรุนแรงฉีดพ่นโดยเฉลี่ยสองปี และใช้จำนวน 1.4 กก.ของส่วนผสมต่อฮา ฟาร์ม ด้วยระดับความสูงของที่ดินใช้ความรุนแรงฉีดพ่นโดยเฉลี่ย 16 ครั้ง และใช้ 22.0 กก./ฮา นอกจากนี้พวกเขายังใช้จำนวนผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะ ผสมให้เข้ากัน ความเข้มของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชได้สูงโดยเฉพาะสำหรับพืชเงินสดเช่นมะเขือเทศ พริก และสตรอเบอร์รี่ เกษตรกรจำนวนมากประสบปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารกำจัดศัตรูพืชเนื่องจากสารกำจัดศัตรูพืชไม่ถูกต้องจัดการ จำเป็นในการพัฒนาจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการในระยะยาวการลงทุนมากขึ้น และปัญหาสุขภาพอาจจะลดลงในระยะสั้นการ โดยตระหนักในหมู่เกษตรกรเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พวกเขาจะเปิดเผยตัวเองกับ เป็นการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพัฒนาการเกษตรในประเทศที่มีรายได้ต่ำและการเพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรจะมาพร้อมกับโดยทั่วไปการเปลี่ยนแปลงจากที่กว้างขวางชนิดเข้มข้นมากขึ้นของการใช้ที่ดิน วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการวิเคราะห์วิธีการและการจัดการศัตรูพืชโรคพืชในกลุ่มเกษตรกรรายย่อยมีการเปลี่ยนแปลงพร้อมกับกระบวนการของแรงการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นจุดมุ่งหมายที่จะระบุข้อ จำกัด เช่นเดียวกับวิธีการที่เป็นไปได้ในการใช้งานของศัตรูพืชที่ยั่งยืนมากขึ้นและการควบคุมโรคพืช การปฏิบัติ โดยใช้ข้อมูลการสำรวจจาก 240 ฟาร์มรายย่อยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สูงทางภาคเหนือของไทยเราแสดงให้เห็นว่าแรงการใช้ประโยชน์ที่ดินจะมาพร้อมกับการลดลงของการใช้วิธีการแบบดั้งเดิมของการจัดการศัตรูพืชและการเพิ่มขึ้นในการใช้สารกำจัดศัตรูพืชสังเคราะห์ ในขณะที่ฟาร์มที่มีระดับต่ำของการใช้ความรุนแรงพ่นที่ดินโดยเฉลี่ยปีละสองครั้งและใช้รวม 1.4 กิโลกรัมสารออกฤทธิ์ต่อเฮกแตร์ฟาร์มที่มีระดับสูงในการใช้ความรุนแรงพ่นที่ดินโดยเฉลี่ย 16 ครั้งและใช้ 22.0 กก. / ไร่ พวกเขายังใช้เป็นจำนวนมากของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันและมีแนวโน้มที่จะผสมให้เข้ากัน ความรุนแรงของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพืชเศรษฐกิจเช่นมะเขือเทศพริกและสตรอเบอร์รี่ เกษตรกรจำนวนมากประสบปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพราะไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง การลงทุนมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาของการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการในระยะยาวและปัญหาสุขภาพอาจจะลดลงในระยะสั้นโดยการสร้างความตระหนักในหมู่เกษตรกรเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พวกเขาจะเปิดเผยตัวเองไปเช่นเดียวกับการส่งเสริมการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพัฒนาการเกษตรในประเทศที่มีรายได้ต่ำและการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรโดยทั่วไปจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงจากกว้างขวาง ชนิดเข้มข้นมากขึ้นของการใช้ประโยชน์ที่ดิน การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ว่าศัตรูพืชและการจัดการโรคพืชของเกษตรกร โครงสร้างมีการเปลี่ยนแปลงตามกระบวนการของแรงการใช้ที่ดินจุดมุ่งหมายการระบุปัญหา ตลอดจนแนวทางที่เป็นไปได้ในการใช้ที่ยั่งยืนมากขึ้น โรคและแมลงศัตรูพืช แนวทางปฏิบัติในการควบคุม . โดยใช้ข้อมูลการสำรวจจาก 240 โครงสร้างฟาร์มตั้งอยู่ในที่ดอน พื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยเราแสดงให้เห็นว่า การใช้ที่ดินแบบประณีตคือพร้อม ด้วยการใช้วิธีการแบบดั้งเดิมของการจัดการศัตรูพืชและการเพิ่มขึ้นในการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ในขณะที่ฟาร์มที่มีระดับความเข้มของการใช้ที่ดินพ่นเฉลี่ยปีละสองครั้งและใช้ทั้งหมดของ 1.4 กก. ส่วนผสมต่อฮาฟาร์มที่มีระดับสูงของความเข้มของการใช้ที่ดินพ่นเฉลี่ย 16 ครั้งและใช้ 80 กก. / เฮกตาร์ พวกเขายังใช้เป็นจำนวนมากของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันและมีแนวโน้มที่จะผสมมันเข้าด้วยกัน ความเข้มของการใช้สารเคมีได้สูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพืชเศรษฐกิจ เช่น มะเขือเทศ พริก และสตรอเบอร์รี่เกษตรกรจำนวนมากที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมี เพราะสารเคมีไม่จัดการอย่างถูกต้อง . การลงทุนมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการในระยะยาว และปัญหาสุขภาพที่อาจจะลดลงในระยะสั้น โดยการเพิ่มความตระหนักของเกษตรกรเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พวกเขาจะเปิดเผยตัวเองกับเช่นเดียวกับการส่งเสริมการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี