บทที่ 1
บทนำ
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของโครงการ
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่เป็นที่ลุ่ม มีแม่น้ำสายใหญ่ คือ แม่น้ำป่าสักแม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อยและ แม่น้ำเจ้าพระยาในลักษณะล้อมรอบผืนแผ่นดินส่วนใหญ่ของตัวเมืองไว้ ตัวจังหวัดจึงเป็นเสมือนเกาะ เมื่อถึงฤดูน้ำหลากตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคม ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน วิถีชีวิตของชาวอยุธยาคือ จะเตรียมพร้อมรับมือกับการเกิดน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเรือ เสบียงอาหารรวมไปถึงกระสอบทรายเพื่อทำเป็นกำแพงกั้นไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ในบ้านเรือน อาคารพาณิชย์หรือห้างร้านต่างๆ
ด้วยเหตุนี้ผู้จัดทำจึงได้มีแนวคิดที่จะสร้าง ถุงทรายกันน้ำ (Sand Bag by Air Bag) สำหรับอาคารพาณิชย์โดยเฉพาะโดยอาศัยหลักการทำงานของนิวแมติกส์เข้ามาช่วยเพราะเล็งเห็นว่า หากน้ำท่วมเข้าไปในสถานประกอบการหรือห้างร้านจะเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สินรวมไปถึงเสียหายต่อเศรษฐกิจซึ่งคิดเป็นมูลค่ามหาศาล แต่หากใช้ถุงทรายกันน้ำ (Sand Bag by Air Bag )เข้ามาช่วยป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู้พื้นที่ นอกจากจะสะดวกแล้ว ยังเป็นการช่วยลดต้นทุน และลดเวลาแทนการใช้กระสอบทรายแบบเดิมได้อีกด้วย
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการ
1.2.1 เพื่อความสะดวกในการสร้างกำแพงกันน้ำสำหรับอาคารพาณิชย์ เพราะแค่เติมลมเข้าไปในถุงลม และนำทรายมาใส่ในช่องว่างตรงกลาง ก็จะกลายมาเป็นถุงทรายกันน้ำได้ทันที
1.2.2 เพื่อลดเวลาในการทำกำแพงกันน้ำ จากกระสอบทรายแบบเดิมต้องมีการบรรจุทรายใส่ถุงทีละถุง และนำมาเรียงทีละชั้นจนกว่าจะได้ความสูงตามต้องการ ซึ่งต้องใช้เวลาในทำกระบวนการนี้ไม่น่าต่ำกว่า 3 – 5 ชม.หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับความสูงที่ต้องการและจำนวนแรงงาน) แต่หากใช้ถุงทรายกันน้ำ ใช้เวลาเพียงแค่ไม่เกิน 1 ชม. สามารถติดตั้งถุงทรายกันน้ำให้พร้อมใช้งานได้ทันที
1.2.3 เพื่อลดต้นทุนในเรื่องของค่าแรง เพราะถ้าใช้ถุงทรายกันน้ำ ใช้แรงงานคนเพียงแค่ 1-2 คนก็สามารถติดตั้งได้ แต่ถ้าหากใช้กระสอบทรายแบบเดิม ต้องใช้แรงงานคนมากกว่า 3-5 คน ถึงจะได้กระสอบทรายตามจำนวนและความความสูงที่ต้องการ เพราะถ้าใช้คนน้อย ก็จะใช้เวลาในการเตรียมกระสอบทรายนาน แต่ถ้าใช้คนเยอะ ถึงเวลาจะน้อยแต่ต้นทุนค่าแรงจะสูงขึ้นตามมา