raversThis is when Aphex Twin's son

raversThis is when Aphex Twin's song "Digeridoo" launched in with complete insistence. It turns out that Richard D. James (Aphex Twin) is not such a fan of the instrument either, and he labored hard to create a similar drone electronically. If anything is a metaphor for what Junya Watanabe does, it's that. In this collection there was a link between past, present, and future; it was the idea of something changing but forever remaining the same that was defined as "Folklore" by Watanabe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

raversThis คือเมื่อ Aphex Twin เพลง "Digeridoo" ที่เปิดตัว ด้วย insistence สมบูรณ์ ดังปรากฎว่าว่า James D. ริชาร์ด (Aphex Twin) ไม่เช่นพัดลมของเครื่องมืออย่างใดอย่างหนึ่ง และเขา labored อย่างหนักเพื่อสร้างเสียงพึมพำคล้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าเทียบสำหรับเบะจรรยาไม่เป็นอะไร มันเป็นที่ ในชุดนี้ มีการเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต มันเป็นความคิดของสิ่งที่เปลี่ยนแปลง แต่ตลอดที่เหลือเหมือนกันที่ถูกกำหนดเป็น "พื้นบ้าน" โดยวะตะนะเบะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

raversThis คือเมื่อเพลงเฟ็กซ์คู่ของ "Digeridoo" เปิดตัวในปีที่มีการเรียกร้องที่สมบูรณ์ ปรากฎว่าริชาร์ดดีเจมส์ (Aphex Twin) ไม่ได้เป็นเช่นแฟนของเครื่องดนตรีอย่างใดอย่างหนึ่งและเขาทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างจมูกอิเล็กทรอนิกส์ที่คล้ายกัน หากมีสิ่งใดเป็นสิ่งที่อุปมา Junya Watanabe ไม่ได้ก็ว่า ในคอลเลกชันนี้มีการเชื่อมโยงระหว่างอดีตปัจจุบันและในอนาคต มันเป็นความคิดของบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล แต่ยังเหมือนเดิมที่ถูกกำหนดให้เป็น "ชาวบ้าน" โดยวาตานาเบะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

raversthis เมื่อเป็นไอโซโทปเสถียรเพลง " digeridoo " เปิดตัวในกับการเรียกร้องที่สมบูรณ์ ปรากฎว่า ริชาร์ด ดี. เจมส์ ( เอเฟ็กซ์ ทวิน ) ไม่ได้เป็นแฟนของเครื่องมือที่เหมือนกันและเขาคล่องอย่างหนักเพื่อสร้างหุ่นคล้ายกันทางอิเล็กทรอนิกส์ หากมีสิ่งใดที่เป็นคำอุปมาสำหรับสิ่งที่จุนยะ วาตานาเบ้ มันที่ ในคอลเลกชันนี้มีการเชื่อมโยงระหว่าง อดีต ปัจจุบัน และอนาคตมันเป็นความคิดของบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงแต่ตลอดไปที่เหลืออยู่เหมือนกันที่ถูกกำหนดเป็น " ความเชื่อ " โดย วาตานาเบะ