The genus Mentha L includes 18 spec

The genus Mentha L includes 18 species and about 11 hybrids, of which the most used and cultivated are Mentha spicata (spearmint) and the hybrid Mentha x piperita (pep¬permint). Mints are available in all five continents, are used in traditional medicine for the prevention and therapy of several diseases, and are a well-known herbal remedy used for their aromatic, stomachic, choleretic, carminative, and stimulant properties. The most active compounds in mints are the essential oil and polyphenols. The main phenolic compounds are phenolic acids and flavonoids [6,26,27]. Studies on the anti-diabetic effects of mint are scarce, despite their appreciable total phenolic content. Water extracts of peppermint have been shown to improve glyce¬mia and lipidemia in offspring of streptozotocin-induced diabetic rats [28]. Nevertheless, Narendhirakannan et al. [29] have shown that peppermint ethanolic extracts have no effect on insulin, C-peptide levels, and glucose tolerance in the same animal model.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พืชสกุล Mentha L รวม 18 ชนิดและลูกผสมประมาณ 11 ที่ใช้บ่อย และปลูกคือ Mentha spicata (spearmint) และไฮบริ Mentha piperita x (pep¬permint) Mints มีใน 5 ทวีปทั้งหมด ใช้ในยาสำหรับป้องกันและบำบัดโรคหลาย และมีการแก้ด้วยสมุนไพรรู้จักใช้หอม stomachic, choleretic สาร และคุณสมบัติกระตุ้น สารอยู่มากที่สุดใน mints มีน้ำมันหอมระเหยและโพลีฟีน ม่อฮ่อมหลักมีกรดฟีนอและ flavonoids [6,26,27] การศึกษาผลกระทบจากโรคเบาหวานป้องกันมินท์ ขาดแคลนแม้ มีเนื้อหาของฟีนอรวมเห็นได้ สารสกัดน้ำของเปปเปอร์มินท์ได้รับการแสดงเพื่อปรับปรุง glyce¬mia และ lipidemia ในลูกหลานของ streptozotocin เกิดเบาหวานหนู [28] อย่างไรก็ตาม Narendhirakannan et al. [29] ได้แสดงว่า เปปเปอร์มินท์สารสกัด ethanolic ไม่มีผลต่ออินซูลิน ระดับเพปไทด์ C และยอมรับกลูโคสในรูปแบบสัตว์เหมือนกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเภท Mentha L รวมถึง 18 ชนิดและประมาณ 11 ไฮบริดที่ใช้มากที่สุดและได้รับการปลูกฝังเป็น Mentha spicata (พืชชนิดหนึ่ง) และไฮบริด Mentha piperita x (pep¬permint) มินต์ที่มีอยู่ในทั้งห้าทวีปที่ใช้ในการแพทย์แผน​​ในการป้องกันและการรักษาโรคหลายและเป็นยาสมุนไพรที่รู้จักกันดีที่ใช้สำหรับกลิ่นหอมของพวกเขา stomachic, choleretic ขับลมและคุณสมบัติกระตุ้น สารประกอบงานมากที่สุดในมินต์เป็นน้ำมันหอมระเหยและโพลีฟีน สารประกอบฟีนอลที่สำคัญคือกรดฟีนอลและ flavonoids [6,26,27] การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบที่ป้องกันโรคเบาหวานของสะระแหน่จะหายากแม้จะมีเนื้อหาฟีนอลทั้งหมดของพวกเขาเห็น สารสกัดน้ำของสะระแหน่ได้รับการแสดงเพื่อปรับปรุงglyce¬miaและ lipidemia ในลูกหลานของ streptozotocin ที่เกิดขึ้นหนูเบาหวาน [28] อย่างไรก็ตาม Narendhirakannan et al, [29] แสดงให้เห็นว่าสารสกัดเอทานอลสะระแหน่ได้ไม่มีผลกระทบต่ออินซูลินระดับ C-เปปไทด์และความทนทานต่อกลูโคสในรูปแบบเดียวกับสัตว์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สกุล mentha l รวม 18 ชนิด และประมาณ 11 ไฮบริด ที่ใช้มากที่สุดและปลูกเป็น mentha spicata ( Spearmint ) และลูกผสม mentha x piperita ( PEP ¬ permint ) มิ้นท์ มีอยู่ในทุกห้าทวีป , มีการใช้ในยาแผนโบราณ เพื่อการป้องกันและการรักษาหลายโรค และเป็นที่รู้จักกันดีสมุนไพรเยียวยาใช้ของหอม ทน choleretic , ,สรรพคุณขับลมและกระตุ้น สารประกอบที่ใช้งานมากที่สุดในฮ่องกงคือ โพลีฟีนอล น้ำมันที่จำเป็นและ หลักสารประกอบฟีนอลเป็นสารฟีโนลิก กรด และสารฟลาโวนอยด์ [ 6,26,27 ] การศึกษาเกี่ยวกับเบาหวานต่อต้านผลของมิ้นท์ได้ยาก แม้ของฟีนอลชดช้อย รวมเนื้อหาสารสกัดน้ำของสะระแหน่มีการแสดงเพื่อปรับปรุง glyce ¬ Mia และลูกหลานของ streptozotocin-induced lipidemia ในหนูเบาหวาน [ 28 ] อย่างไรก็ตาม narendhirakannan et al . [ 29 ] พบว่าสารสกัดจากสะระแหน่ ( ไม่มีผลกระทบต่อระดับอินซูลิน ซี เปปไทด และความทนทานต่อกลูโคสในรูปแบบสัตว์เหมือนกัน