A friend asked this question today.

A friend asked this question today. And it comes up at software conferences a lot, in the hallways, over a meal, or in Open Space or Lean Coffee. It’s a current flowing under all our technical and methodological discussions. Negotiating and keeping commitments is how we build trust. Without trust, a team is a team in name only.

What do you do when someone breaks a promise? A lot of us grumble and let it go. Or we fight and complain. Or we fret and worry about the confrontation, the moment of conflict. Some of us never get past worrying, and we just let the broken promise go unexamined.

But what can we do that’s constructive, and gets us what we want, which, I hope, is rebuilding trust?

There are lots of books and approaches that deal with difficult conversations like this one, including the wonderful book, Difficult Conversations. But the following is what I do, and I learned it from Michele McCarthy.

Let’s say I asked you to give me some information by 10 am this morning. You said, “Yes.” 10 am came and went, and you were nowhere to be seen. I checked my email, voice mail, Twitter stream, Skype, Facebook, desk, anywhere you may have left the information for me. Nothing.

I feel mad and afraid and sad. I’m mad because there’s a problem between us – trust has been broken, and I don’t have the information I need. I’m also mad at myself because I trusted you, which the evidence suggests was a bad idea. I’m afraid because I don’t know if I can trust you in the future and because this reminds me of other situations that ended badly for me. And I’m sad because something has been lost in my relationship with you and in my optimism about the world.

With all of that emotion swirling around, I’m probably not going to be able to keep the Core Commitments to perceive more than seeking to be perceived, to ask for help, and to never do anything dumb on purpose. Before I do anything, I need to calm down. So the first thing I do is whatever will help me calm down: go to the gym and work out, have a cup of tea, ask someone for help, or take a walk.

When you arrive at work, I Check In with you, and then say,

“You said you’d get the information to be by 10 am. I didn’t get that information from you at 10. What happened? And what will be different next time?”

It’s important that the tone of your voice conveys a genuine desire to understand. We can’t make assumptions about the reasons people break promises, we have to ask. What if you had an emergency? What if you lost your computer and didn’t have my phone number? What if you were kidnapped? There are lots of possibilities, only one of which is that you are a jerk and I should never trust you again.

I’ve broken promises – lots of them – and every time there was a reason. Sometimes it’s because I didn’t understand that I’d made a promise. Or because I forgot, or misunderstood the details, or there was a crisis that interrupted me, or a technical glitch, or because I didn’t have the skills or knowledge to accomplish the task.

And I hate to admit it, but sometimes, I just didn’t care as much about getting the task done as I cared about saying yes. I said yes because saying yes was easier in the short term than saying no. Sometimes I thought I’d have to fight about my reasons for saying no, or I wanted approval for “stepping up”, or admiration for being the hero, or personal satisfaction for trying something new. I’m not proud of that, and I’ve learned over the years that saying yes when I know I mean no is very costly for everyone. So now if I know I don’t want to keep the promise, I’ll take the up-front discomfort of saying no, even if it means a loss of status or admiration or some other short term benefit in order to avoid the mess of a broken promise later.

So, in the midst of your conversation, as hard as this is, remember that we all have complex reasons for doing or not doing things. Some of those reasons are even hidden from us. So really listen, and ask questions with the long term relationship in mind. For me what’s interesting is what will happen in the future not what happened in the past, so I focus on that.

When you find out what happened, and you negotiate what will be different in the future, take it at face value. Let the person meet their next commitment without micromanaging it. If they break their promise again, have the conversation again.

If this person regularly breaks promises and you don’t have this conversation when it happens, you’re telling them it’s ok to break the promise and you don’t care enough to talk to them about it. If you’ve done that, and they’ve become used to your lack of follow-up, you may need to reset both your expectations about promises and how you’re going to behave in future. “You said you’d do x, you did y, I didn’t call it out. Now I’m going to call it out when it happens.” And check with yourself what you really want, because if you’re tolerating broken promises, you want something else more than you want the promise to be kept.

Finally, if the person keeps breaking promises after you and the rest of the team have done everything you can to understand and negotiate, it may be time for them to find somewhere else to work. Trust is too precious to let it be neglected.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อนถามคำถามนี้วันนี้ และมันเกิดขึ้นในการประชุมซอฟต์แวร์มากในทางเดินมากกว่าอาหารหรือในพื้นที่เปิดหรือกาแฟยัน มันเป็นกระแสไฟฟ้าที่ไหลอยู่ภายใต้การอภิปรายทางด้านเทคนิคและวิธีการของเรา การเจรจาต่อรองและการรักษาความมุ่งมั่นคือวิธีที่เราสร้างความไว้วางใจ โดยไม่ต้องมีความไว้วางใจทีมงานเป็นทีมในนามเท่านั้น.

สิ่งที่คุณทำเมื่อมีคนแบ่งสัญญาหรือไม่จำนวนมากเราบ่นและปล่อยมันไป หรือเราต่อสู้และบ่น หรือเราไม่สบายใจและกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้าช่วงเวลาของความขัดแย้ง บางส่วนของเราไม่เคยได้รับมากังวลและเราก็ให้สัญญาที่แตกสลายไป unexamined.

แต่สิ่งที่เราสามารถทำอะไรที่สร้างสรรค์และได้รับในสิ่งที่เราต้องการซึ่งฉันหวังว่าจะสร้างความไว้วางใจ

มีจำนวนมากของหนังสือและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการสนทนาที่ยากลำบากเช่นนี้รวมทั้งหนังสือที่ยอดเยี่ยมการสนทนาที่ยากลำบาก แต่ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ผมทำและผมได้เรียนรู้จาก Michele McCarthy.

ขอบอกว่าฉันขอให้คุณให้ฉันข้อมูลบางอย่างโดย 10:00 เช้านี้ ที่คุณกล่าวว่า "ใช่." 10:00 มาและไปและคุณไม่มีที่ไหนเลยที่จะเห็น i ตรวจสอบอีเมลข้อความเสียงของฉันกระแส Twitter, Skype, Facebook โต๊ะ, ทุกที่ที่คุณอาจจะได้ข้อมูลที่เหลือสำหรับฉัน อะไร.

ฉันรู้สึกโกรธและกลัวและเศร้า ฉันบ้าเพราะมีปัญหาระหว่างเรา - ความไว้วางใจได้รับการหักและฉันไม่ได้มีข้อมูลที่ต้องการ ฉันยังบ้าที่ตัวเองเพราะผมเชื่อถือคุณซึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นเป็นความคิดที่ไม่ดีผมกลัวเพราะผมไม่ทราบว่าฉันสามารถไว้วางใจคุณในอนาคตและเพราะทำให้ผมนึกถึงสถานการณ์อื่น ๆ ที่จบลงไม่ดีสำหรับฉัน และฉันเสียใจเพราะสิ่งที่ได้รับหายไปในความสัมพันธ์ของฉันกับคุณและฉันในแง่ดีเกี่ยวกับโลก.

กับทุกอารมณ์ความรู้สึกที่หมุนรอบที่ฉันอาจจะไม่สามารถที่จะให้ความมุ่งมั่นหลักในการรับรู้มากกว่าการแสวงหาที่จะรับรู้เพื่อขอความช่วยเหลือและจะไม่ทำอะไรโง่ในวัตถุประสงค์ ก่อนที่ผมจะทำอะไรฉันต้องการที่จะสงบลง ดังนั้นสิ่งแรกที่ฉันทำคือสิ่งที่จะช่วยให้ผมสงบลงไปที่โรงยิมและผลงานออกมามีถ้วยชา, ขอความช่วยเหลือจากบุคคลหรือใช้เวลาเดิน

เมื่อคุณมาถึงที่ทำงาน.ผมตรวจสอบกับคุณแล้วพูดว่า

"คุณบอกว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่จะเป็นโดย 10:00 ฉันไม่ได้รับข้อมูลว่าจากคุณที่ 10 สิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่จะแตกต่างกันในครั้งต่อไปหรือไม่ "

มันเป็นสิ่งสำคัญที่น้ำเสียงของคุณบ่งบอกถึงความปรารถนาของแท้ที่จะเข้าใจ เราไม่สามารถทำให้สมมติฐานเกี่ยวกับเหตุผลที่คนทำลายสัญญาที่เราต้องถาม สิ่งที่ถ้าคุณมีเหตุฉุกเฉินสิ่งที่ถ้าคุณสูญเสียคอมพิวเตอร์ของคุณและไม่ได้มีหมายเลขโทรศัพท์ของฉันได้อย่างไร สิ่งที่ถ้าคุณถูกลักพาตัว? มีจำนวนมากเป็นไปได้เพียงหนึ่งซึ่งเป็นที่ที่คุณมีกระตุกและฉันไม่ควรจะไว้วางใจคุณอีกครั้ง

ฉันได้หักสัญญา -. จำนวนมากของพวกเขา - และทุกครั้งที่มีเหตุผล บางครั้งมันเป็นเพราะฉันไม่เข้าใจว่าฉันต้องการทำสัญญา หรือเพราะฉันลืมรายละเอียดหรือเข้าใจผิดหรือมีวิกฤตที่ขัดจังหวะฉันหรือความผิดพลาดทางเทคนิคหรือเพราะฉันไม่ได้มีทักษะหรือความรู้ในการทํางาน.

และฉันเกลียดที่จะยอมรับมัน แต่บางครั้งผมก็ didn 't ดูแลมากเกี่ยวกับการรับงานทำที่ฉันดูแลเกี่ยวกับว่าใช่ ฉันกล่าวว่าใช่เพราะว่าใช่ได้ง่ายในระยะสั้นกว่าบอกว่าไม่มีบางครั้งฉันคิดว่าฉันต้องต่อสู้เกี่ยวกับเหตุผลของฉันบอกว่าไม่หรือฉันต้องการได้รับการอนุมัติสำหรับ "ก้าวขึ้น" หรือชื่นชมในการเป็นพระเอกหรือความพึงพอใจส่วนบุคคลสำหรับการพยายามสิ่งใหม่ ฉันไม่ได้เป็นความภาคภูมิใจของที่และฉันได้เรียนรู้ในช่วงหลายปีที่ว่าใช่เมื่อฉันรู้ว่าฉันหมายถึงไม่เป็นค่าใช้จ่ายมากสำหรับทุกคน ดังนั้นตอนนี้ถ้าฉันรู้ว่าฉันไม่ต้องการที่จะรักษาสัญญาที่ฉันจะใช้เวลาไม่สบายขึ้นหน้าบอกไม่แม้ว่าจะหมายถึงการสูญเสียของสถ​​านะหรือความชื่นชมหรืออื่น ๆ ได้รับประโยชน์ในระยะสั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารของสัญญาที่แตกสลายในภายหลัง.

ดังนั้นในท่ามกลางของคุณ การสนทนาที่ยากเช่นนี้เป็นจำไว้ว่าเราทุกคนมีเหตุผลที่ซับซ้อนสำหรับการทำหรือไม่ทำสิ่งที่ บางส่วนของเหตุผลที่แม้จะถูกซ่อนไว้จากเรา ดังนั้นจริงๆฟังและถามคำถามที่มีความสัมพันธ์ระยะยาวในใจ สำหรับผมสิ่งที่น่าสนใจคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาดังนั้นผมจึงมุ่งเน้นไปที่.

เมื่อคุณหาสิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่คุณเจรจาต่อรองจะแตกต่างกันในอนาคตจะเอามันที่มูลค่า ให้บุคคลที่ตอบสนองความมุ่งมั่นของพวกเขาต่อไปโดยไม่ต้อง micromanaging มัน ถ้าพวกเขาทำลายสัญญาของพวกเขาอีกครั้งมีการสนทนาอีกครั้ง.

ถ้าคนนี้เป็นประจำแบ่งสัญญาและคุณไม่ได้มีการสนทนานี้เมื่อมันเกิดขึ้นคุณจะบอกพวกเขาก็ตกลงที่จะทำลายสัญญาและคุณไม่ดูแลพอที่จะพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าคุณทำที่และพวกเขาได้กลายเป็นที่ใช้ในการขาดของการติดตามคุณอาจจำเป็นต้องตั้งค่าความคาดหวังของทั้งสองของคุณเกี่ยวกับสัญญาและวิธีการที่คุณจะทำงานในอนาคต "คุณบอกว่าคุณต้องการทำ x, y ที่คุณไม่ฉันไม่ได้เรียกมันออกมา ตอนนี้ฉันจะเรียกมันออกมาเมื่อมันเกิดขึ้น. "และตรวจสอบกับตัวเองสิ่งที่คุณต้องการจริงๆเพราะถ้าคุณทนสัญญาเสียคุณต้องการอย่างอื่นมากกว่าที่คุณต้องการสัญญาว่าจะถูกเก็บไว้.

ในที่สุดถ้าคนช่วยทำลายสัญญาหลังจากที่คุณและส่วนที่เหลือของทีมได้ทำทุกอย่างที่คุณสามารถที่จะเข้าใจและการเจรจาต่อรองมันอาจจะเป็นเวลาสำหรับพวกเขาที่จะหาที่อื่นที่จะทำงาน ความไว้วางใจจะมีค่าเกินกว่าที่จะปล่อยให้มันถูกทอดทิ้ง.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อนถามคำถามนี้วันนี้ และก็มาถึงที่สัมมนาซอฟต์แวร์มาก hallways ผ่านอาหาร หรือ ในพื้นที่เปิดโล่งหรือกาแฟแบบ Lean ปัจจุบันไหลภายใต้ของเทคนิค และ methodological สนทนาทั้งหมดได้ เจรจาต่อรอง และรักษาข้อผูกมัดเป็นวิธีการที่เราสร้างความไว้วางใจ ไม่ มีความน่าเชื่อถือ ทีมงานเป็นทีมในนามเท่านั้น

คุณทำอะไรเมื่อคนแบ่งสัญญา ของเรา grumble และให้มันไป หรือเราต่อสู้ และบ่น หรือเราต้องกังวล และวิตกกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้า ช่วงเวลาของความขัดแย้ง เราไม่ได้เลยกังวล และเราเพียงให้สัญญาเสียไป unexamined

แต่เราทำอะไรที่สร้างสรรค์ และได้ให้เรารับสิ่งที่เราต้อง ซึ่ง หวัง เป็นการฟื้นฟูความน่าเชื่อถือ ?

มีหนังสือและวิธีที่จัดการกับการสนทนาเช่นนี้หนึ่ง รวมถึงหนังสือยอดเยี่ยม บทสนทนาที่ยากยาก มากมาย แต่ต่อไปนี้คือ สิ่งที่ฉันทำ และฉันเรียนรู้มันจาก Michele McCarthy.

ให้ของพูดถามคุณให้ข้อมูลบางอย่าง โดย 10.00 น.เช้านี้ฉัน คุณกล่าวว่า "ใช่" 10.00 น.มา และไป และคุณก็ไม่ได้ เลือกอีเมล์ของฉัน ฝาก กระแสทวิตเตอร์ Skype, Facebook โต๊ะ ใด ๆ คุณอาจทิ้งข้อมูลสำหรับฉัน ไม่

รู้สึกบ้า และกลัว และเศร้า ผมบ้า เพราะมีปัญหาระหว่างเรา– ความไว้วางใจได้ขาด และไม่มีข้อมูลที่ต้องการ ผมยังบ้าในตัวเองเนื่องจากไว้ใจคุณ หลักฐานเห็นเป็นความคิดที่ดี ฉันกลัว เพราะไม่รู้ถ้าฉันสามารถไว้วางใจคุณในอนาคต และเนื่อง จากที่นี้ให้นึกถึงสถานการณ์อื่น ๆ ที่สิ้นสุดไม่ดีสำหรับฉัน และฉันเศร้า เพราะบางสิ่งบางอย่างได้สูญหายไป ในความสัมพันธ์ของฉันกับคุณ และฉันมองในแง่ดีเกี่ยวกับโลก

มีทั้งหมดหมุนรอบที่อารมณ์รอบ ฉันไม่อาจจะสามารถรักษาข้อผูกมัดหลักสังเกตมากกว่าแสวงหาการรับรู้ ขอความช่วยเหลือ และจะไม่อะไร dumb เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ ก่อนทำอะไร ฉันต้องการสงบสติอารมณ์ ดังนั้นสิ่งแรกที่ทำคือ อะไรจะช่วยให้ฉันสงบลง: ไปโรงยิม และออก มีถ้วยชา อย่าง หรือเดินแบบได้

เมื่อคุณมาถึงที่ทำงาน ผมตรวจสอบกับคุณ แล้ว พูด

"คุณกล่าวคุณจะได้รับข้อมูลเป็น 10.00 น. ฉันไม่ได้ข้อมูลจากคุณ 10 เกิดอะไรขึ้น และอะไรจะเป็นเวลาอื่นต่อไป"

มันเป็นสิ่งสำคัญที่น้ำเสียงของคุณสื่อถึงความปรารถนาที่แท้จริงจะเข้าใจ เราไม่สามารถสร้างสมมติฐานเกี่ยวกับเหตุผลคนแบ่งสัญญา เราจำเป็นต้องถาม ถ้าคุณมีฉุกเฉิน ถ้าคุณสูญเสียคอมพิวเตอร์ และไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของฉัน ถ้าคุณถูกลักพา มีมากมายไป เพียงหนึ่งที่จะว่า คุณเป็น jerk และฉันจะไม่เชื่อคุณอีก

ฉันได้เสียสัญญา –จำนวนมากของพวกเขา – และทุกครั้งมีเหตุผล บางครั้งก็เป็น เพราะไม่เข้าใจว่า ผมได้ทำสัญญา หรือ เพราะฉัน ลืม misunderstood รายละเอียด หรือมีวิกฤตที่ขัดจังหวะฉัน หรือผิดพลาดทางเทคนิค หรือเนื่อง จากไม่มีทักษะหรือความรู้เพื่อให้บรรลุภารกิจ

และผมเกลียดการยอมรับมัน แต่บางครั้ง ฉันเพียงแค่ไม่ได้ดูแลมากเกี่ยวกับการงานที่ทำเป็นห่วงบอกว่า ใช่ ผมว่า ใช่ เพราะว่า ใช่ง่ายขึ้นในระยะสั้นกว่าพูดไม่ บางครั้งฉันคิดว่า ฉันจะต้องต่อสู้เกี่ยวกับเหตุผลของฉันบอกว่า ไม่มี หรือก้ออนุมัติ "ก้าวขึ้น" หรือชื่นชมสำหรับฮีโร่ หรือความพึงพอใจส่วนบุคคลพยายามสิ่งใหม่ ฉันไม่ภูมิใจที่ และฉันได้เรียนรู้ปีบอกว่า ใช่เมื่อฉันรู้ว่า ฉันหมายความว่า ไม่ว่าค่าใช้จ่ายสูงมากสำหรับทุกคน ตอนนี้ ถ้าฉันรู้ว่า ฉันไม่ต้องการให้คำมั่นสัญญา ฉันจะสบายล่วงหน้าของไม่มี แม้ว่ามันหมายความว่า สูญเสียสถานะ หรือชื่นชม หรือประโยชน์ระยะสั้นอื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงระเบียบสัญญาเสียในภายหลัง

ดังนั้นท่ามกลางการสนทนาของคุณ เป็นยากที่นี้ โปรดจำไว้ว่า เราทั้งหมดมีสาเหตุซับซ้อนทำ หรือไม่ทำสิ่งนั้น บางประการที่แม้จะถูกซ่อนไว้จากเรา ดังนั้นจริง ๆ ฟัง และถามคำถามกับความสัมพันธ์ระยะยาวในใจ สำหรับฉัน สิ่งที่น่าสนใจคือ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีต ดังนั้นผมเน้นที่การ

เมื่อคุณค้นหาสิ่งที่เกิดขึ้น และคุณต่อรองว่าจะแตกต่างกันในอนาคต ใช้มันที่หน้าค่า ให้บุคคลตอบสนองความทุ่มเทต่อไปโดยไม่ต้อง micromanaging ก็ หากพวกเขาทำลายสัญญาของพวกเขาอีกครั้ง มีการสนทนาอีก

ถ้าบุคคลนี้เป็นประจำแบ่งสัญญา และคุณไม่มีการสนทนานี้เมื่อมันเกิดขึ้น คุณจะบอกพวกเขาได้ตกลงที่จะทำลายสัญญา และคุณไม่ดูแลพอที่จะพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่อง ถ้าคุณได้ทำที่ พวกเขาได้กลายเป็นการขาดการติดตามผล คุณอาจต้องรีเซ็ตทั้งความคาดหวังของคุณเกี่ยวกับสัญญาและการว่าคุณกำลังจะทำในอนาคต "คุณพูดคุณทำ x, y ได้คุณ ฉันไม่ได้โทรออก ตอนนี้ ฉันจะโทรออกเมื่อมันเกิดขึ้น" และตรวจสอบ ด้วยตัวเองอะไรจริง ๆ คุณ เพราะถ้าคุณกำลัง tolerating สัญญาเสีย คุณต้องอย่างอื่นมากกว่าคุณต้องสัญญาว่าจะเก็บไว้

ในที่สุด ถ้าบุคคลจะทำลายสัญญาหลังจากที่คุณและส่วนเหลือของทีมงานได้ทำทุกอย่างที่คุณสามารถที่จะเข้าใจ และเจรจาต่อรอง มันอาจจะเวลาค้นหาแฟนตาซีการทำงาน ความน่าเชื่อถือจะมีค่าเกินกว่าจะให้มันเป็นที่ไม่มีกิจกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อนที่ถูกถามคำถามนี้ในวันนี้ และมาพร้อมกับซอฟต์แวร์การประชุมที่จำนวนมากที่อยู่ในห้องโถงที่มากกว่าอาหารหรือในพื้นที่แบบเปิดโล่งหรือกาแฟ เป็นปัจจุบันที่ไหลผ่านด้านเทคนิคในการ อภิปราย และปวงชนทั้งหมดของเรา การเจรจาต่อรองและการรักษาไว้ซึ่งมีข้อผูกพันว่าเราสร้างความน่าเชื่อถือ โดยไม่มีความน่าเชื่อถือของทีมที่เป็นทีมที่อยู่ในชื่อเท่านั้น.

คุณจะทำอย่างไรเมื่อมีคนพักที่สัญญาจำนวนมากของเราบ่นและปล่อยให้มันไป หรือเราจะต่อสู้และบ่น หรือเรากังวลและกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้าที่ช่วงเวลาของความขัดแย้ง พวกเราบางคนไม่เคยได้รับมาก่อนและเราต้องกังวลว่าจะต้องปล่อยให้สัญญาว่าหักไปศูนย์.

แต่เราจะทำอะไรได้บ้าง?ที่สร้างสรรค์และได้รับเราสิ่งที่เราต้องการซึ่งผมหวังว่าจะสร้างความน่าเชื่อถือหรือไม่?

มีหนังสือและแนวทางที่ข้อตกลงกับการสนทนาได้ยากเหมือนกับหนึ่งแห่งนี้รวมถึงหนังสือที่น่ามหัศจรรย์ใจการสนทนาทำได้ยาก แต่ต่อไปนี้คือสิ่งที่ฉันต้องทำและผมได้เรียนรู้จาก Michele McCarthy ' s .

ปล่อยให้ของผมถามคุณให้ข้อมูลบางอย่างโดย 10 เช้าวันนี้ คุณพูดว่า"ใช่" 10 โมงเช้าก็มาและไปและคุณก็ไม่มีใคร ฉันได้รับการตรวจสอบวอยซ์เมล์อีเมล์ของฉันสตรีม Twitter โปรแกรม Skype Facebook โต๊ะได้ทุกที่ที่คุณอาจมีข้อมูลทางด้านซ้ายของผม ไม่มีอะไร.

ผมรู้สึกว่าบ้าและกลัวและเศร้า ผมบ้าเพราะมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างเรา - ความน่าเชื่อถือมีการทำลายและผมไม่มีข้อมูลที่ผมต้องการ ผมเป็นคนบ้าไปยังที่ตัวเองเพราะผมได้รับความเชื่อถือคุณซึ่งหลักฐานที่ชี้ให้เห็นเป็นความคิดไม่ดีผมกลัวเพราะผมไม่รู้ว่าผมสามารถวางใจได้ในอนาคตและเพราะวิธีนี้จะเตือนให้ผมในสถานการณ์อื่นๆที่สิ้นสุดไม่พอใจสำหรับผม และผมก็เป็นเรื่องเศร้าเพราะบางสิ่งบางอย่างมีการสูญเสียในความสัมพันธ์ของผมกับคุณและอยู่ในการมองโลกในแง่ดีอย่างเรื่องของโลก.

พร้อมด้วยความรู้สึกที่หมุนอยู่เบื้องล่างทั้งหมดโดยรอบผมจะสามารถช่วยให้คอร์ข้อผูกพันที่จะทำความเข้าใจมากกว่าที่จะได้รับรู้เพื่อขอความช่วยเหลือและไม่เคยพูดไม่ได้ทำอะไรที่เป็นไปได้ว่าที่อยู่นี้ไม่ใช้งานตามวัตถุประสงค์ ก่อนที่ผมจะทำอะไรผมต้องให้สงบลงลง ดังนั้นสิ่งแรกที่ผมทำได้ก็คือไม่ว่าจะช่วยให้ผมสงบลงไปยังห้องยิมและการทำงานออกมาได้ถ้วยชาให้ใครบางคนสำหรับความช่วยเหลือหรือไปเดินเล่นที่.

เมื่อท่านเดินทางมาถึงที่ทำงานฉันจะตรวจสอบกับคุณแล้วพูดว่า

"คุณบอกว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่จะได้รับโดย 10 โมงเช้า ฉันไม่ได้รับข้อมูลจากคุณที่ 10 สิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่จะแตกต่างกันในครั้งถัดไปหรือไม่?"

มันเป็นเรื่องสำคัญที่เสียงของเสียงของคุณนำมาซึ่งความปรารถนาของแท้ที่จะทำความเข้าใจ เราไม่สามารถทำให้สมมุติฐานเกี่ยวกับเหตุผลที่ผู้คนการหยุดพักให้คำมั่นสัญญาเราจะต้องถาม หากคุณมีเบอร์ฉุกเฉินหรือไม่?หากคุณลืมคอมพิวเตอร์ของคุณและไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของฉันได้หรือไม่? หากคุณกำลังถูกลักพาตัวหรือไม่? มีความเป็นไปได้เท่านั้นหนึ่งในนั้นคือการที่คุณจะกระตุกและผมจะไม่เคยเชื่อว่าท่านอีกครั้ง.

ผมได้ให้สัญญาว่าจะหัก - จำนวนมากของพวกเขาและทุกครั้งที่มีเหตุผล ในบางครั้งอาจเป็นเพราะผมไม่ได้ทำความเข้าใจว่าผมอยากจะทำสัญญา หรือเพราะผมลืมหรือถูกเข้าใจรายละเอียดหรือมีปัญหาที่ว่าถูกขัดจังหวะหรือความผิดพลาดทางเทคนิคหรือไม่ก็เพราะผมไม่ได้มีความรู้ความชำนาญหรือความรู้ที่จะทำการเปิดใช้งานที่.

และฉันเกลียดจริงๆที่จะต้องยอมรับมันแต่บางครั้งผมไม่ได้สนใจมากเกี่ยวกับการรับงานที่ทำได้อย่างที่ผมสนใจว่าใช่ ผมว่า"ใช่เพราะว่า"ใช่ก็ง่ายขึ้นในระยะสั้นมากกว่าว่า"ฉบับที่บางครั้งผมคิดว่าผมจะต้องไปต่อสู้กับเกี่ยวกับเหตุผลที่ฉันว่า"ไม่มีหรือไม่ก็ต้องการการอนุมัติสำหรับ" stepping ",หรือความชื่นชมเป็นฮีโร่หรือความพึงพอใจส่วนตัวสำหรับความพยายามบางสิ่งบางอย่างที่ใหม่ ผมไม่ใช่ความ ภาคภูมิใจ ของว่าและผมได้เรียนรู้มากกว่าปีที่ว่า"ใช่เมื่อผมรู้ว่าผมหมายความว่าไม่มีต้นทุนสูงมากสำหรับทุกท่าน ดังนั้นถ้าผมรู้ว่าผมไม่ต้องการทำให้สัญญาที่จะให้ฉันจะได้รับความรู้สึกไม่สบายขึ้น - ทางด้านหน้าที่จะกล่าวคำว่า"ไม่ได้หมายความว่าการสูญเสียหากได้รับการชื่นชมหรือสถานะหรือได้รับประโยชน์ระยะสั้นอื่นๆบางอย่างในการสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความยุ่งยากให้คำมั่นไว้หักใน ภายหลัง .

ดังนั้นในช่วงกลางของการสนทนาของคุณเป็นฮาร์ดดิสก์เป็นจำได้ว่าเราทั้งหมดมีเหตุผลคอมเพล็กซ์สำหรับการทำหรือไม่ทำอะไร ด้วยเหตุผลเหล่านี้บางส่วนจะถูกซ่อนจากเรา ดังนั้นจึงฟังที่แท้จริงถามคำถามและพร้อมด้วยความสัมพันธ์ระยะยาวที่อยู่ในใจ สำหรับผมสิ่งน่าสนใจคืออะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเพื่อผมให้ความสำคัญกับที่.

เมื่อคุณพบว่าอะไรจะเกิดขึ้นและท่านในการต่อรองอะไรที่จะมีความแตกต่างในอนาคตจะเป็นหน้า ปล่อยให้ผู้ที่พบกับความมุ่งมั่นถัดไปของเขาโดยไม่ micromanaging มัน หากพวกเขาหยุดพักคำสัญญาของพวกเขาอีกครั้งมีการสนทนาอีกครั้งหาก

หากบุคคลนี้เป็นประจำเวลาพักให้คำมั่นสัญญาและคุณไม่มีการสนทนานี้เมื่อมันเกิดขึ้นคุณกำลังพูดถึงเขาจะเป็นตกลงเพื่อการหยุดพักให้คำมั่นสัญญาและคุณจะไม่ได้รับการดูแลไม่เพียงพอที่จะคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากคุณได้ทำให้พวกเขาได้กลายเป็นใช้ในการขาดของคุณทำตามได้คุณอาจจำเป็นต้องรีเซ็ตความคาดหวังของท่านทั้งสองเกี่ยวกับสัญญาและวิธีการที่คุณจะปฏิบัติตัวในอนาคต "คุณบอกว่าคุณอยากจะทำ x คุณ Y ผมไม่ได้เรียกว่าออกไป ขณะนี้ผมกำลังจะเรียกว่าออกมาเมื่อมันเกิดขึ้น"และตรวจสอบพร้อมด้วยตัวคุณเองว่าคุณต้องการอย่างแท้จริงเพราะหากคุณกำลังเพื่อให้ทนต่อสัญญาว่าจะให้หักคุณต้องการบางสิ่งบางอย่างอื่นมากกว่าที่คุณต้องการให้คำมั่นสัญญาที่จะได้รับการดูแลรักษา.

สุดท้ายหากบุคคลที่ช่วยให้การทำลายสัญญาหลังจากที่คุณและส่วนที่เหลือของทีมงานที่ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสามารถจะทำความเข้าใจและทำการเจรจาและอาจมีเวลาสำหรับการหาที่อื่นในการทำงาน ความน่าเชื่อถือมีมากเกินไปมีค่าในการปล่อยให้ถูกละเลยไม่ได้.