Burn prevention education is still

Burn prevention education is still needed for this group of
knowledgeable parents (see Table 3). Burn prevention education
for this group needs to focus around how often to check
fire alarms and change batteries (if the fire alarms do not have
10-year lithium batteries or are not hardwired). Most importantly,
78% of parents in this group only practices their exit
plans once a year or don’t practice their exit plan at all. With
40% of children unable to exit independently and 35% unable
to dial 911, checking fire alarms monthly, changing batteries
every six months, and having and practicing exit plans is
essential in saving lives should there be a home fire.
Limitations in this study are that answers only reflect
parent responses from one area of the state and country.
Parents also want to be viewed in the best light and may
answer yes to be perceived positively. Strengthening this
research would be to have home safety checks by trained
in-home observers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขียนรู้ยังคงจำเป็นสำหรับกลุ่มนี้
ความรู้ผู้ปกครอง (ดูตาราง 3) เขียนรู้
สำหรับกลุ่มนี้ต้องเน้นรอบความถี่ในการตรวจสอบ
ไฟสัญญาณเตือน และเปลี่ยนแบตเตอรี่ (ถ้าไม่มีสัญญาณเตือนไฟ
แบตเตอรี่ลิเธียม 10 ปีหรือจะไม่เดินสาย) สำคัญที่สุด,
78% ของพ่อแม่ในกลุ่มนี้เพียงปฏิบัติตนออก
แผนปีละครั้ง หรือไม่ปฏิบัติแผนของพวกเขาออกทั้งหมด ด้วย
40% ของเด็กที่สามารถออกได้อย่างอิสระและ 35% สามารถ
เรียก 911 ตรวจสอบไฟสัญญาณรายเดือน เปลี่ยนแบตเตอรี่
ทุก 6 เดือน มี และออกแผนการฝึกซ้อมเป็น
สำคัญในบันทึกชีวิตควรมีได้บ้านไฟ
ข้อจำกัดในการศึกษานี้จะให้คำตอบเพียงสะท้อน
หลักการตอบสนองจากหนึ่งในพื้นที่ของรัฐและประเทศ
ผู้ปกครองยังต้องการใช้แสงที่ดีที่สุดและอาจ
ตอบ yes เพื่อรับรู้บวกด้วย เข้มแข็งนี้
วิจัยจะมีความปลอดภัยที่บ้านตรวจสอบด้วยการฝึกอบรม
ผู้สังเกตการณ์ในบ้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การป้องกันการเขียนการศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับกลุ่มนี้ของ
ซึ่งจะช่วยพ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้(ดูที่ตาราง 3 )ยังคงอยู่ การป้องกันการเผา
ซึ่งจะช่วยการศึกษาสำหรับกลุ่มนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญโดยรอบความถี่ในการตรวจสอบ
สัญญาณแจ้งเพลิงไหม้และการเปลี่ยนแบตเตอรี่(หากมีการเตือน ภัย ไฟที่ไม่มี
10 - แบตเตอรี่ลิเธียมปีหรือไม่ได้เชื่อมต่อแบบมีสาย) ที่สำคัญที่สุดก็คือ n 78% ของผู้ปกครองในกลุ่มนี้เพียงการปฏิบัติทางออกของเขา
แผนปีละครั้งหรือไม่การปฏิบัติทางออกของแผนที่ทั้งหมด พร้อมด้วย
40% ของเด็กไม่สามารถออกเป็นอิสระและ 35% ไม่สามารถ
ซึ่งจะช่วยในการโทร 911 ,การตรวจสอบสัญญาณแจ้งเพลิงไหม้รายเดือนการเปลี่ยนแบตเตอรี่
ทุกๆหกเดือน,และการมีและฝึกออกจากแผนที่สำคัญคือ
ซึ่งจะช่วยในการช่วยชีวิตจะมีที่ตั้งไฟ.
ข้อจำกัดในการศึกษานี้มีคำตอบเดียวที่สะท้อนให้เห็นถึง
การตอบกลับของพ่อแม่จากพื้นที่หนึ่งของรัฐและประเทศ.
ผู้ปกครองยังต้องการให้ดูได้ในแสงสว่างที่ดีที่สุดและอาจ
ตอบ Yes เพื่อเป็นการรับรู้ในเชิงบวก
ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งการวิจัยนี้จะเป็นการได้ตรวจสอบความ ปลอดภัย บ้านโดยบรรดานักสังเกตการณ์
ในบ้านได้รับการฝึกอบรม