improvement, and provides the neces

improvement, and provides the necessary supporting organizational practices (Juran, 1993). Quality experts like Deming, Juran, Scholtes, and Crosby state that organizations must approach quality improvement from a long-term perspective: They also warn us that achieving some quality improvement can breed complacency (cited in Longenecker & Scazzero, 1996).
A third principle of TQM is related to the concept of teamwork (Conti & Kleiner, 1997; Hill, 1991; Lawler, 1994; Waldman, 1994; Wilkinson, Marchington, Goodman, & Ackers, 1992). Within the context of TQM, teamwork is an important outcome and a condition for continuous improvement (Coyle-Shapiro, 1997) Teams are generally viewed as more powerful and effective work entities than individuals. Teams, according to Lawler should be catholic, including employees from all the hierarchical levels, layers, and from all the departments of the enterprise. Scholtes (1992) argues that teams are needed for all organizations in order to make them work more flexibly and to develop mutual trust among members. In traditional management approaches each department needs to take care of its own problems. In a TQM context the whole organization needs to care about quality improvement and not just in a departmentalized way. In this respect, organizations need cross-functional work groups that will deal with inter-departmental management problems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปรับปรุง และจำเป็นสนับสนุนองค์กรปฏิบัติ (รู้สึก 1993) คุณภาพผู้เชี่ยวชาญเช่น Deming รู้สึก Scholtes และ Crosby ระบุว่า องค์กรต้องวิธีปรับปรุงคุณภาพจากมุมมองระยะยาว: พวกเขายังเตือนเราให้ บรรลุเป้าหมายการปรับปรุงคุณภาพบางสามารถขุน complacency (อ้างใน Longenecker & Scazzero, 1996)หลักของ TQM ที่สามเกี่ยวข้องกับแนวคิดของการทำงานเป็นทีม (คอนติและ Kleiner, 1997 ฮิลล์ 1991 Lawler, 1994 Waldman, 1994 Wilkinson, Marchington คลา & Ackers, 1992) ภายในบริบทของ TQM ทำงานเป็นทีมเป็นผลสำคัญและเงื่อนไขสำหรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (เวนคอยล์-Shapiro, 1997) โดยทั่วไปดูทีมเป็นหน่วยทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีประสิทธิภาพกว่าบุคคล ทีม ตาม Lawler ควรเป็นคาทอลิก รวมถึงพนักงานทั้งหมดในลำดับชั้น ระดับ ชั้น และ จากหน่วยงานทั้งหมดขององค์กร Scholtes (1992) จนว่า ทีมจำเป็นสำหรับองค์กรทั้งหมด เพื่อให้มันทำงานมันมากขึ้น และ การพัฒนาความไว้วางใจซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิก ในวิธีการจัดการแบบดั้งเดิม แต่ละแผนกต้องดูแลปัญหาของตนเอง ในบริบท TQM ทั้งองค์กรต้องดูแล เกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพ และไม่เพียง departmentalized ประการนี้ องค์กรต้องกลุ่มงานข้ามหน้าที่ที่จะจัดการกับปัญหาการจัดการ inter-departmental

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปรับปรุงและให้การสนับสนุนที่จำเป็นในการปฏิบัติขององค์กร (Juran, 1993) ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณภาพเช่น Deming, Juran, SCHOLTES และรัฐครอสบีที่องค์กรต้องวิธีการปรับปรุงคุณภาพจากมุมมองในระยะยาว: พวกเขายังเตือนเราว่าประสบความสำเร็จในการปรับปรุงคุณภาพบางชนิดที่สามารถก่อให้เกิดความพึงพอใจ (อ้างถึงใน Longenecker และ Scazzero, 1996).
หลักการที่สาม ของ TQM มีความเกี่ยวข้องกับแนวคิดของการทำงานเป็นทีม (Conti และ Kleiner, 1997; ฮิลล์ 1991; Lawler, 1994; วอลด์แมน, 1994; วิลกินสัน, Marchington สามีและ ackers, 1992) ในบริบทของ TQM ในการทำงานเป็นทีมเป็นผลที่สำคัญและเงื่อนไขในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (คอยล์-ชาปิโรส์ 1997) ทีมจะถูกมองโดยทั่วไปว่าเป็นหน่วยงานที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีประสิทธิภาพกว่าบุคคล ทีมตาม Lawler ควรจะเป็นคาทอลิกรวมถึงพนักงานจากทุกลำดับชั้นระดับชั้นและจากทุกหน่วยงานขององค์กร SCHOLTES (1992) ระบุว่าทีมงานที่มีความจำเป็นสำหรับองค์กรทั้งหมดเพื่อที่จะทำให้พวกเขาทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการพัฒนาและไว้วางใจซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิก ในวิธีการจัดการแบบดั้งเดิมแต่ละแผนกต้องการที่จะดูแลปัญหาของตัวเอง ในบริบท TQM ทั้งองค์กรต้องการที่จะดูแลเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพและไม่เพียง แต่ในทาง departmentalized ในการนี้องค์กรต้องกลุ่มงานข้ามสายงานที่จะจัดการกับปัญหาการจัดการระหว่างแผนก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปรับปรุง และให้ความสนับสนุนองค์กรปฏิบัติการ ( จูรัน , 1993 ) คุณภาพผู้เชี่ยวชาญอย่าง เดมมิ่ง จูแรน scholtes , , , และ ครอสบี้ รัฐนั้นองค์กรต้องปรับปรุงคุณภาพจากมุมมองในระยะยาว พวกเขายังเตือนเราว่า ขบวนการบางการปรับปรุงคุณภาพสามารถขยายพันธุ์ความพึงพอใจ ( อ้างในลอนจ์เนเคอร์& scazzero
, 1996 )หลักการที่สามของ TQM มีความสัมพันธ์กับแนวคิดของการทำงานเป็นทีม ( คอนติ&ไคลเนอร์ , 1997 ; Hill , 1991 ; ลอว์เลอร์ , 1994 ; วอลด์แมน , 1994 ; Wilkinson , marchington กู้ดแมน& , เงิน , 1992 ) ภายในบริบทขององค์กร การทำงานเป็นทีมเป็นสำคัญผลและเงื่อนไขสำหรับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ( คอยล์ Shapiro , 1997 ) ทีมมักจะมองว่าเป็นมากกว่าที่มีประสิทธิภาพและการทำงานที่มีประสิทธิภาพองค์กรมากกว่าบุคคลทีมตาม ลอว์เลอร์ควรจะคาทอลิก รวมทั้งพนักงานทุกระดับชั้น ชั้น และจากทุกหน่วยงานขององค์กร scholtes ( 1992 ) ระบุว่า ทีม จำเป็นสำหรับทุกองค์กร เพื่อให้งานมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและพัฒนาความไว้วางใจซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิกแนวทางการจัดการแบบดั้งเดิมในแต่ละแผนกต้องจัดการปัญหาของตัวเอง ในบริบทขององค์กรทั้งองค์กรต้องดูแลเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพและไม่เพียง แต่ใน departmentalized ทาง ในการนี้ องค์กรต้องการข้ามการทำงานทำงานกลุ่มที่จะจัดการกับปัญหาการจัดการภายในแผนก