Faraday waves, also known as Farada

Faraday waves, also known as Faraday ripples, named after Michael Faraday, are nonlinear standing waves that appear on liquids enclosed by a vibrating receptacle. When the vibration frequency exceeds a critical value, the flat hydrostatic surface becomes unstable. This is known as the Faraday instability. Faraday first described them in an appendix to an article in the Philosophical Transactions of the Royal Society of London in 1831.[1][2]

If a layer of liquid is placed on top of a vertically oscillating piston, a pattern of standing waves appears which oscillates at half the driving frequency, given certain criteria of instability. This relates to the problem of parametric resonance. The waves can take the form of stripes, close-packed hexagons, or even squares or quasiperiodic patterns. Faraday waves are commonly observed as fine stripes on the surface of wine in a wineglass that is ringing like a bell. Faraday waves also explain the 'fountain' phenomenon on a singing bowl.

The Faraday wave and its wavelength is analogous to the de Broglie wave with the de Broglie wavelength in quantum mechanics.[3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟาราเดย์คลื่น หรือที่เรียกว่าฟาราเดย์ ripples ชื่อหลังจากฟาราเดย์ Michael คลื่นยืนไม่เชิงเส้นที่ปรากฏบนของเหลวที่ล้อมรอบ ด้วยรองรับการสั่นที่มีอยู่ เมื่อความถี่สั่นสะเทือนเกินค่าสำคัญ พื้นผิวแบนหยุดนิ่งจะไม่เสถียร การนี้เรียกว่าความไม่เสถียรของฟาราเดย์ ฟาราเดย์แรกอธิบายไว้ในภาคผนวกให้บทความในธุรกรรมปรัชญาสังคมรอยัลลอนดอนใน 1831 [1] [2]ถ้าชั้นของของเหลวจะอยู่ด้านบนของลูกสูบในแนวตั้งสั่นได้ รูปแบบของคลื่นยืนปรากฏ ซึ่ง oscillates ที่ครึ่งขับความถี่ กำหนดเงื่อนไขของความไม่แน่นอน นี้เกี่ยวข้องกับปัญหาของการสั่นพ้องพาราเมตริก คลื่นสามารถใช้รูปแบบของลาย บรรจุปิดรูปหก เหลี่ยม หรือแม้แต่ช่องสี่เหลี่ยม หรือรูปแบบ quasiperiodic ฟาราเดย์คลื่นโดยทั่วไปพบเป็นลายละเอียดบนพื้นผิวของไวน์ในแก้วไวน์ที่ ringing เช่นระฆัง ฟาราเดย์คลื่นยังอธิบายปรากฏการณ์ 'น้ำพุ' บนชามร้องฟาราเดย์คลื่นและความยาวของคลื่นจะคล้ายคลึงกับ de Broglie คลื่น มีความยาวคลื่น de Broglie ในควอนตัม [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คลื่นฟาราเดย์ยังเป็นที่รู้จักระลอกเดย์ชื่อหลังจากที่ไมเคิลฟาราเดย์เป็นคลื่นยืนไม่เชิงเส้นที่ปรากฏบนของเหลวที่ล้อมรอบด้วยรองรับการสั่นสะเทือน เมื่อการสั่นสะเทือนความถี่สูงเกินกว่าค่าที่สำคัญพื้นผิว hydrostatic แบนจะไม่เสถียร นี้เรียกว่าความไม่แน่นอนของฟาราเดย์ ฟาราเดย์แรกที่อธิบายไว้ในภาคผนวกบทความในรายการปรัชญาของราชสมาคมแห่งลอนดอนใน 1831 [1] [2] ถ้าชั้นของของเหลวจะถูกวางไว้ที่ด้านบนของลูกสูบสั่นในแนวตั้งรูปแบบของคลื่นยืนปรากฏ ซึ่ง oscillates ครึ่งความถี่การขับรถที่ได้รับเกณฑ์ที่แน่นอนของความไม่แน่นอน นี้เกี่ยวข้องกับปัญหาของเสียงสะท้อนพารา คลื่นสามารถใช้รูปแบบของลายหกเหลี่ยมใกล้บรรจุหรือแม้กระทั่งสี่เหลี่ยมหรือรูปแบบ quasiperiodic คลื่นฟาราเดย์ได้มีการปฏิบัติกันทั่วไปว่าเป็นลายบนพื้นผิวที่ดีของไวน์ในแก้วที่เป็นเสียงเรียกเข้าเหมือนระฆัง คลื่นฟาราเดย์ยังอธิบายปรากฏการณ์ 'น้ำพุ' ในชามร้องเพลง. คลื่นฟาราเดย์และความยาวคลื่นของมันคล้ายกับคลื่น de Broglie กับความยาวคลื่น Broglie ในกลศาสตร์ควอนตั. [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟาราเดย์คลื่น , ที่รู้จักกันเป็นระลอก ฟาราเดย์ , ชื่อหลังจากที่ไมเคิล ฟาราเดย์ เป็นเส้นคลื่นยืนที่ปรากฏบนของเหลวล้อมรอบด้วยระบบสั่น รองรับ . เมื่อความถี่สูงกว่าค่าวิกฤติ พื้นผิวเรียบอุทกสถิตเสถียร นี้เรียกว่าความไม่แน่นอน ฟาราเดย์ฟาราเดย์ครั้งแรกที่อธิบายไว้ในภาคผนวกเป็นบทความในปรัชญาการดำเนินการของราชสมาคมแห่งลอนดอน 1831 [ 1 ] [ 2 ]

ถ้าชั้นของของเหลวจะถูกวางไว้บนด้านบนของลูกสูบแนวตั้งชนิด รูปแบบของคลื่นยืนปรากฏที่ oscillates ครึ่งขับรถให้เกณฑ์ของความถี่ ความไม่มั่นคง นี้เกี่ยวข้องกับปัญหาของพาราเสียงสะท้อนคลื่นสามารถใช้รูปแบบของลายเส้น , ปิดแน่นรูปหกเหลี่ยม หรือแม้แต่รูปแบบสี่เหลี่ยมหรือ quasiperiodic . ฟาราเดย์คลื่นมักพบเป็นลายละเอียดบนพื้นผิวของไวน์ในแก้วไวน์ที่เหมือนกับระฆัง ฟาราเดย์คลื่นยังอธิบายปรากฏการณ์ ' น้ำพุ ' บนชามร้องเพลง

ที่ฟาราเดย์คลื่นและความยาวคลื่นจะคล้ายคลึงกับ เดอ เบรย เดอ เบรยคลื่นที่มีความยาวคลื่นในกลศาสตร์ควอนตัม [ 2 ]