Many archeological excavations show

Many archeological excavations show that human beings and hominids (our pre-human ape-like ancestors) have lived in Southeast Asia for over 500,000 years. New Stone Age settlements first appear in Indochina about 10,000 years ago. Those who lived in the areas of Kwae Noi and Kwae Yai in Kanchanaburi Province 3,700 years ago still used stone utensils and animal bones and shells as decorations, that is, they were still Stone Age men Similarly, stone axes of prehistoric man known as ‘Khwan Fah’ have been found at Ban Phue District, Udon Thani Province. Nearby at Phu Phan Mountain, other evidence was discovered indicating that Stone Age men lived in the area, most notably colored paintings on several cave walls.
Ban Chiang
In the northeastern part of Thailand, at the confluence of three small tributary streams in Udon Thani province, lies the Bronze Age village and cemetery of Ban Chiang, Thailand’s premier archeological site.
Discovery and Study of the Site
Ban Chiang was discovered by a clumsy American college student, who fell in the road of the present town of Ban Chiang, and found ceramics eroding out of the road bed. Excavations revealed evidence of prehistoric settlement beginning as early as 3600 BC and continuing until about AD 200.
The site is among the largest prehistoric Bronze Age sites in this part of Thailand. Ban Chiang is remarkable in that before its discovery, Southeast Asia was considered a cultural backwater during the Bronze Age; archaeological research at the site has revealed a fully developed Bronze Age metallurgy, but without the weapons so often associated with it in Europe and the rest of the world.
Like many long-occupied cities, Ban Chiang was built on top of the remains of older villages, some as deep as 4 meters below the modern day surface. Because the site was occupied continuously for perhaps as long as 4,000 years, the evolution of Late Stone Age to Bronze Age to Iron Age can be traced.
Archaeological Remains at Ban Chiang
Digs at the site show a culture with Bronze Age technology: for example, the people of pre-historic Ban Chiang cultivated rice and had domesticated cattle. This ancient people also knew how to weave and make handicrafts. The culture thrived for over two thousand years, throughout the Bronze Age, and into the dawn of the early Iron age.
Ban Chiang residents made earthenware pottery in different shapes and sizes, decorated with the now world-famous red and cream colored patterns of swirling geometric spirals, leaves and thumb-impressed designs. Scientific tests conducted on these artifacts, proved that the painted pottery in Ban Chiang is between 5,000-7,000 years old. Ban Chiang earthenware may be the oldest earthenware found in Southeast Asia and may possibly be the oldest pot designs in the world.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทิศโบราณมากแสดงว่า hominids (ของเราก่อนมนุษย์ลิงเหมือนบรรพบุรุษ) และมนุษย์ได้อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 500000 ปี การชำระเงินยุคหินใหม่เป็นครั้งแรกในอินโดจีนประมาณ 10000 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของแควน้อยและแควใหญ่ใน 3,700 จังหวัดกาญจนบุรีปียังคงใช้ภาชนะหิน และกระดูกสัตว์และเปลือกหอยเป็นตกแต่ง คือ พวกเขายังคงอายุหินผู้ชายคล้าย หินแกนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า 'ขวัญฟ้า' พบที่อำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี ที่ภูพานน หลักฐานอื่น ๆ ถูกค้นพบระบุว่า มนุษย์ยุคหินอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ผนังถ้ำส่วนใหญ่สีภาพหลายบ้าน เชียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ที่บรรจบของสามกระแสสมทบเล็ก ๆ ในจังหวัดอุดรธานี อยู่หมู่บ้านยุคสำริด และสุสานบ้านเชียง ไทยพรีเมียร์โบราณสถานค้นหาและศึกษาของเว็บไซต์บ้าน เชียงการค้นพบ โดยนักเรียนวิทยาลัยป้ำ ๆ ที่อยู่ของปัจจุบันเมืองของบ้านเชียง และพบเครื่องเคลือบที่กัดเซาะถนนจาก ทิศเปิดเผยหลักฐานการชำระเงินยุคก่อนประวัติศาสตร์เริ่มต้นที่ 3600 BC และดำเนินต่อไปจนกว่าเกี่ยวกับโฆษณา 200เว็บไซต์ในอเมริกายุคสำริดสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคนี้ได้ บ้าน เชียงเป็นที่โดดเด่นที่ก่อนการค้นพบ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นนี่เป็นวัฒนธรรมในช่วงยุคทองแดง วิจัยทางโบราณคดีที่ไซต์เปิดเผยเป็นโลหะผสมยุคสำริดเต็มพัฒนา แต่ไม่ มีอาวุธจึงมักเกี่ยวข้องกับในยุโรปและส่วนอื่น ๆ ของโลกเช่นหลายลองครองเมือง บ้านเชียงถูกสร้างขึ้นบนของหมู่บ้านเก่า บางที่ลึกเป็น 4 เมตรใต้ผิวสมัยนี้ เนื่องจากเว็บไซต์ถูกครอบครองอย่างต่อเนื่องอาจได้นานถึง 4000 ปี วิวัฒนาการของสายสามารถติดตามยุคหินถึงยุคสำริดกับยุคเหล็กเหลือทางโบราณคดีที่บ้านเชียงDigs ไซต์แสดงวัฒนธรรมยุคสำริดเทคโนโลยี: ตัวอย่าง คนสมัยก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียง cultivated ข้าว และมี domesticated วัว คนโบราณนี้ยังรู้วิธีการทอ และทำหัตถกรรม วัฒนธรรมฟื้นตัวสองพันปี ยุคสำริด และ ในรุ่งอรุณของยุคเหล็กก่อนชาวบ้านเชียงทำเครื่องปั้นดินเผาดินเผาในรูปร่างต่าง ๆ และขนาด ตกแต่งชื่อตอนนี้สีแดง และครีมสีรูปแบบของเรขาคณิต spirals ใบไม้ และนิ้วหัวแม่มือประทับใจการออกแบบการหมุนรอบ ดำเนินการทดสอบทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ พิสูจน์ว่า เครื่องปั้นดินเผาทาสีในบ้านเชียงอยู่ระหว่าง 5000 7000 ปี ดินเผาบ้านเชียงอาจดินเผาเก่าแก่ที่สุดที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอาจจะออกแบบหม้อเก่าแก่ที่สุดในโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การขุดค้นทางโบราณคดีจำนวนมากแสดงให้เห็นว่ามนุษย์และ hominids (บรรพบุรุษลิงเหมือนก่อนมนุษย์ของเรา) ได้อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานกว่า 500,000 ปี การตั้งถิ่นฐานใหม่ยุคหินปรากฏตัวครั้งแรกในอินโดจีนประมาณ 10,000 ปีที่ผ่านมา บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของแควน้อยและแควใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี 3,700 ปีที่ผ่านมายังคงใช้เครื่องใช้หินและกระดูกสัตว์และเปลือกหอยเป็นของประดับตกแต่งที่เป็นพวกเขายังคงผู้ชายยุคหินในทำนองเดียวกันขวานหินของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า 'ขวัญ ฟ้า 'ถูกพบในอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ที่อยู่ใกล้เคียงที่ภูพานภูเขาหลักฐานอื่น ๆ ที่ถูกค้นพบแสดงให้เห็นว่าคนยุคหินอาศัยอยู่ในพื้นที่, ภาพวาดสีสะดุดตาที่สุดบนผนังถ้ำหลาย.
บ้านเชียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่บรรจบกันของทั้งสามสาขาขนาดเล็กลำธารในจังหวัดอุดรธานี
อยู่หมู่บ้านยุคสำริดและสุสานบ้านเชียงประเทศไทยชั้นนำของแหล่งโบราณคดี.
ค้นพบและการศึกษาของเว็บไซต์บ้านเชียงถูกค้นพบโดยเงอะงะนักศึกษาชาวอเมริกันที่ตกอยู่ในถนนของเมืองปัจจุบันของบ้านเชียงและพบเซรามิก
กัดเซาะออกจากเตียงถนน ขุดเจาะเปิดเผยหลักฐานการชำระประวัติศาสตร์เริ่มต้นเป็นช่วงต้นคริสตศักราช 3600 และต่อเนื่องจนถึง ค.ศ. 200
เว็บไซต์เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดเว็บไซต์ยุคสำริดในส่วนของประเทศไทย บ้านเชียงเป็นที่น่าทึ่งในการที่ก่อนการค้นพบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ถือว่าเป็นวัฒนธรรมนิ่งในช่วงยุคสำริด; ศึกษาวิจัยทางโบราณคดีที่เว็บไซต์ได้เปิดเผยการพัฒนาอย่างเต็มที่โลหะสำริด แต่ไม่มีอาวุธที่เกี่ยวข้องจึงมักจะอยู่กับมันในยุโรปและส่วนที่เหลือของโลก.
เช่นเดียวกับเมืองยาวครอบครองหลายบ้านเชียงได้รับการสร้างขึ้นบนซากของที่มีอายุมากกว่า หมู่บ้านบางลึก 4 เมตรใต้พื้นผิววันที่ทันสมัย เพราะเว็บไซต์ที่ถูกครอบครองอย่างต่อเนื่องอาจจะนานเท่าที่ 4,000 ปีวิวัฒนาการของปลายยุคหินไปสำริดเพื่อยุคเหล็กสามารถตรวจสอบ.
โบราณคดียังคงอยู่ที่บ้านเชียงบ้านที่พักที่เว็บไซต์แสดงวัฒนธรรมด้วยเทคโนโลยียุคสำริด: ยกตัวอย่างเช่น คนก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียงเพาะปลูกข้าวและวัวโดดเด่น
คนโบราณนอกจากนี้ยังรู้วิธีการสานและหัตถกรรม วัฒนธรรมที่เติบโตมานานกว่าสองพันปีตลอดยุคสำริดและเข้าสู่รุ่งอรุณของยุคเหล็กต้น.
บ้านที่อาศัยอยู่ในจังหวัดที่ทำเครื่องปั้นดินเผาเคลือบดินเผาในรูปทรงและขนาดแตกต่างตกแต่งด้วยรูปแบบสีแดงและสีครีมตอนนี้มีชื่อเสียงระดับโลกของการหมุน เกลียวเรขาคณิตใบและการออกแบบที่นิ้วหัวแม่มือประทับใจ การทดสอบทางวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ได้รับการพิสูจน์ว่าเครื่องปั้นดินเผาทาสีบ้านเชียงอยู่ระหว่าง 5,000-7,000 ปี เครื่องเคลือบดินเผาบ้านเชียงอาจจะเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาจจะเก่าแก่ที่สุดการออกแบบหม้อในโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การขุดค้นทางโบราณคดีมากมายแสดงให้เห็นว่ามนุษย์และโฮมินิด ( ของเราก่อนมนุษย์ลิงเหมือนบรรพบุรุษ ) อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานกว่า 500000 ปี หินใหม่อายุการชำระหนี้ครั้งแรกปรากฏขึ้นในอินโดจีนประมาณ 10 , 000 ปีมาแล้ว บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของแควน้อยและแควใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี 3 , 700 ปีมาแล้ว ยังใช้หิน กระดูกสัตว์และเปลือกหอยเป็นเครื่องใช้ และเครื่องประดับนั่นคือพวกเขายังยุคหินชายในทํานองเดียวกัน , หินแกนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า ' ขวัญฟ้า ' ได้ถูกพบในอำเภอบ้านผือ จ. อุดรธานี ใกล้เคียง ณภูเขาภูพาน หลักฐานอื่น ๆที่ถูกค้นพบที่ระบุว่า ผู้ชายอายุหินอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะภาพเขียนสีบนผนังถ้ำหลายแห่ง บ้านเชียงใหม่

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่บรรจบกันของสามลำธารแควน้อย ในจังหวัดอุดรธานี อยู่ยุคหมู่บ้านสุสานบ้านเชียง และแหล่งโบราณคดีเว็บไซต์ไทยพรีเมียร์ .
การค้นพบและศึกษาเว็บไซต์
บ้านเชียงถูกค้นพบโดยนักเรียนวิทยาลัยอเมริกัน ( ที่ตกลงมาในถนนของเมืองปัจจุบันของบ้านเชียง และพบ เครื่องกัดเซาะออกจากถนนได้แล้วการขุดค้นพบหลักฐานของการตั้งถิ่นฐานก่อนประวัติศาสตร์เริ่มต้นเร็ว 3600 ปีก่อนคริสตกาล และต่อเนื่องจนถึง ค.ศ. 200 .
เว็บไซต์เป็นหนึ่งในที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคสำริดเว็บไซต์ในส่วนนี้ของประเทศไทย บ้านเชียงเป็นที่โดดเด่นในก่อนการค้นพบของ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นวัฒนธรรมนิ่งในช่วงยุคสำริด ;วิจัยทางโบราณคดีที่เว็บไซต์ได้เปิดเผยการพัฒนาอย่างเต็มที่ยุคสำริดโลหะ แต่ไม่มีอาวุธ จึงมักจะเกี่ยวข้องกับมันในยุโรปและส่วนที่เหลือของโลก .
ชอบยาวหลายครอบครองเมือง , บ้านเชียงถูกสร้างขึ้นบนซากของหมู่บ้านเก่าบางลึก 4 เมตรจากผิวสมัยใหม่ เพราะเว็บไซต์ที่ถูกครอบครองอย่างต่อเนื่อง บางทีตราบใดที่ 4000 ปี วิวัฒนาการของปลายยุคหินในยุคสำริดยุคเหล็กสามารถ traced

ขุดซากโบราณคดีบ้านเชียงที่เว็บไซต์แสดงวัฒนธรรมกับเทคโนโลยียุคสำริด : ตัวอย่างเช่น คนก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียง ปลูกข้าว และโดดเด่น วัว คน โบราณนี้ยังรู้วิธีการถัก และสินค้าหัตถกรรม วัฒนธรรมที่ประสบความสำเร็จมานานกว่าสองพันปีตลอดยุค ในรุ่งอรุณของยุคเหล็กต้น .
บ้านเชียงที่อยู่อาศัยทำให้ดินเผาในรูปร่างที่แตกต่างกันและขนาด ตกแต่งด้วย ตอนนี้ของสีแดงและครีมสีรูปแบบของการหมุนเรขาคณิต spirals , ใบและง่ายๆแบบประทับใจ วิทยาศาสตร์การทดลองสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้พิสูจน์ได้ว่าเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสีบ้านเชียง ระหว่าง 5000-7 คือ ,000 ปี เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง เครื่องปั้นดินเผาที่พบอาจจะเก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอาจเป็นแบบหม้อเก่าแก่ที่สุดในโลก